แก๊งตุ๊กตุ๊กรุมทำร้ายโบลท์ ย่องมอบตัว

5 ธ.ค.- แก๊งตุ๊กตุ๊กรุมทำร้ายโบลท์ ย่องเงียบมอบตัวยามวิกาล ด้านผู้เสียหายเปิดใจ เห็นเป็นที่สาธารณะเลยจอด ไม่คิดว่าจะถูกทำร้ายร่างกาย ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ขณะที่ตำรวจเตรียมหารือหลายหน่วยงานร่วมกันบูรณาการสร้างความปลอดภัยในสังคมและถนน


12.30 น. จากกรณีเมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา โบลท์ถูกกลุ่มรถตุ๊กตุ๊กรุมทำร้ายร่างกายบนถนนเยาวราช บริเวณใกล้ปากทางเข้าซอยผดุงด้าว แขวงและเขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ จนปรากฏคลิปลงในสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้โบลท์ได้รับบาดเจ็บและได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 2

ความคืบหน้าล่าสุดที่ สน.พลับพลาไชย 2 พบว่ามีกลุ่มโบลท์มารวมตัวกันเกือบ 20 คน เพื่อให้กำลังใจเพื่อนไรเดอร์ที่ถูกทำร้ายร่างกาย หลังสอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมง นายรุจ อายุ 36 ปี ผู้เสียหายเปิดเผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวนได้นัดหมายให้มาชี้ตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งตอนนี้ได้ชี้ตัวยืนยันผู้ก่อเหตุที่ลงมือทำร้ายร่างกาย จำนวน 2 คน ส่วนคนอื่นๆ จำไม่ได้ เพราะมองไม่เห็น เนื่องจากโดนทำร้ายร่างกายแล้ว โดยวันที่เกิดเหตุตนมาจอดรถส่งผู้โดยสาร เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเห็นว่าเป็นที่สาธารณะและมีกลุ่มรถตุ๊กตุ๊กจอดรอคิวอยู่ ทำให้ตนตัดสินใจเข้าไปจอดรอ แต่จู่ ๆ ก็ถูกหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุ ใช้ไฟฉายส่องใส่หน้า เพื่อให้ขยับรถออกไป ซึ่งตนก็ถอยรถออกมาเรื่อยๆ แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุเหมือนจะยังไม่พอใจ ลงมาต่อว่าจอดขวางที่จอดรถของตัวเอง ให้ขยับรถออกไป ด้วยความที่ตนก็ไม่พอใจที่ถูกกลุ่มพวกก่อเหตุใช้ไฟฉายส่องไฟใส่หน้ามาก่อนหน้านี้ ตนจึงไม่ยอมขยับต่อ เพราะเห็นว่าเป็นที่สาธารณะ และต่อว่าคู่กรณีว่าตรงนี้เป็นที่สาธารณะ ใครๆ ก็สามารถจอดได้ และควรพูดจากันดีๆ นั่นจึงทำให้คู่กรณีไม่พอใจมากขึ้น ก่อนจะยก ว. เพื่อเรียกพวกมาในที่เกิดเหตุ จากนั้นได้มีการโต้เถียงกันพอสมควร ตนจึงตัดสินใจยอมขอโทษ แต่ในระหว่างที่กำลังจะไปเลื่อนรถออกไป ปรากฏว่ามีรถแท็กซี่มาจอดขวางหน้ารถของตน ส่วนด้านข้างก็มีรถตุ๊กตุ๊กของกลุ่มผู้ก่อเหตุประกบข้างอยู่ ทำให้ไม่สามารถขยับออกไปไหนได้ กลุ่มผู้ก่อเหตุเข้ามาล็อคคอ และอีกคนเข้ามาชกใบหน้า ตามด้วยไม้เบสบอล ซึ่งคู่กรณีมุ่งเน้นไปบริเวณใบหน้าและศีรษะเท่านั้น รวมทั้งยังใช้ไม้เบสบอลตีเข้าไปที่บริเวณรถของตนอีกหลายครั้ง


หลังเกิดเรื่องตนได้ไปพบแพทย์ ซึ่งแพทย์บอกเบื้องต้นว่ายังไม่มีปัญหาร้ายแรงหรือได้รับการกระทบกระเทือนเกี่ยวกับสมองแต่อย่างใด แต่บริเวณตาฝั่งขวายังไม่สามารถให้คำตอบได้เนื่องจากยังต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งตนเป็นกังวลว่าจะเป็นปัญหาในอนาคตได้

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะตนและกลุ่มผู้ก่อเหตุมีอาชีพไม่ต่างกัน ควรเห็นใจซึ่งกันและกัน อีกทั้งทุกอย่างควรจะจบลงตั้งแต่ตนยกมือไหว้ขอโทษแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ตนไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกในอนาคตไม่ว่ากับใครทั้งนั้น ในเมื่อที่จอดรถสาธารณะ ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันไม่ควรมีใครมาเป็นมาเฟียจับจองพื้นที่เช่นนี้

ส่วนความคืบหน้าทางคดี พันตำรวจเอก วิทวัส เข่งคุ้ม ผู้กำกับการ สน.พลับพลาไชย 2 เปิดเผยว่า หลังเกิดเรื่อง ฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบผู้มีพยานหลักฐานจนทราบบุคคลที่ก่อเหตุทั้ง 4 คน ประกอบไปด้วย นายภูวเดช หรือ โจ้ อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นคนที่ใช้ไม้เบสบอลทำร้ายผู้เสียหาย นายวุฒิชัย หรือ ก๊อป อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นคนชกผู้เสียหาย นายวิศรุต หรือ ก่ำ อายุ 23 ปี และนายศรัณย์ หรือ ต่อ อายุ 27 ปี ซึ่งสองคนนี้คอยยืนคุมเชิงและล้อมรถผู้เสียหาย


จากการสอบปากคำ ผู้ก่อเหตุอ้างว่า ผู้เสียหายได้ขับรถยนต์มาจอดทับที่ของพวกตน จึงได้มีการส่องไฟฉายไล่ แต่ผู้เสียหายไม่ยอมไปและมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกัน จึงเกิดเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายเกิดขึ้น เบื้องต้นพนักงานสอบสวน แจ้งข้อหานายภูวเดช และนายวุฒิชัย ในข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่น และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น และปฏิเสธข้อหาร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากขอตรวจสอบก่อนว่าทรัพย์สินของผู้เสียหายได้เสียหายจริงหรือไม่ และให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ เนื่องจากผู้ต้องหาได้มามอบตัวเอง ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี และมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งสามารถติดต่อได้ ส่วนนายวิศรุตและนายศรัณย์ จากการสอบสวนยังไม่พบว่าได้ร่วมกันจะทำความผิดจึงได้สอบปากคำไว้เป็นพยานในคดีก่อน นอกจากนี้ จากการตรวจสอบยังพบอีกว่านายวิศรุตและนายศรัณย์ ไม่มีใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ ซึ่งจะมีการแจ้งข้อหาและปรับเงินในภายหลัง

ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัย หลังจากนี้จะส่งฝ่ายสืบสวนและสายตรวจลงพื้นที่เพื่อกวดขันมากยิ่งขึ้น รวมทั้งจะประสานผู้ประกอบการแอปพลิเคชันโบลท์ เจ้าของอู่รถยนต์สามล้อ มาทำข้อตกลงในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.จราจร เพื่อความเป็นสงบเรียบร้อยในสังคม .414.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วมือเผารถ “ศิริโชค” ญาติเผยจิตไม่ปกติ

6 ก.ค. – จับได้แล้ว มือวางเพลิงรถยนต์ “ศิริโชค” ตำรวจเค้นสอบ ยอมรับก่อเหตุจริง ญาติเผยจิตไม่ปกติ พูดคนเดียวมาหลายเดือน ด้าน “ศิริโชค” ไม่เชื่อลงมือเองจากอาการทางจิต น่าจะมีคนสั่งการอยู่เบื้องหลัง กล้องวงจรปิดจับภาพนายเบียร์ อายุ 29 ปี ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในซอยบ้านพักของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.เขต 7 สงขลา 4 สมัย พรรคประชาธิปัตย์ ช่วงตี 3 คืนวานนี้ (5 ก.ค.) ต.ฉาง อ.นาทวี จ.สงขลา และไปคุยกับคนเฝ้าบ้านนายศิริโชค ที่ประตูหน้าบ้าน ก่อนขี่รถออกไป จากนั้นช่วงเวลา 03.45 น. นายเบียร์ขี่รถย้อนกลับเข้าไปในซอยบ้านของนายศิริโชคอีกครั้ง ก่อนจะมีข่าวรถยนต์ GWM HAVAL H6 PHEV หรือปลั๊กอิน-ไฮบริด กึ่งไฟฟ้ากึ่งน้ำมัน เกิดเพลิงไหม้เสียหายหมดทั้งคัน ซึ่งขณะนั้น ยังไม่มั่นใจว่าเกิดจาะระบบรถยนต์ขัดข้อง หรือสาเหตุอย่างอื่น จนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเป็นที่แน่ชัดว่า นายเบียร์เป็นคนก่อเหตุวางเพลิงรถยนต์ของนายศิริโชค […]

“โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา

สระแก้ว 6 ก.ค. – “โรม” ควง “เท้ง” ลงพื้นที่สระแก้ว ดูชายแดนไทย-กัมพูชา “สอบสวนกลาง-ดีเอสไอ-หน่วยงานปกครอง” ลงด้วยเพียบ สงสัยฝั่งตรงข้ามเป็นฐานสแกมเมอร์-คอลเซ็นเตอร์ หรือไม่ แย้มมีข้อมูลทุนใหญ่เป็นหลังบ้านผู้มีอำนาจกัมพูชา เจอแน่ปิดห้องคุยพรุ่งนี้ แนะสร้างเสาเซ็นเซอร์ตรวจจับชายแดน หมาแมวตรวจได้หมด หากลักลอบเข้า ด้าน “ชุติพงศ์” โวย เขมรไม่ทำรั้ว-รับผิดชอบ ปล่อยผ่านคนลักลอบเข้าออก นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร​ ลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว​ ร่วมกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ​ สภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อดูการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและการบริหารกิจการชายแดนไทย-กัมพูชา​ โดยมีหน่วยงานความมั่นคง​ นายอำเภอ​ กรมการปกครอง รวมถึงเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ลงพื้นที่ด้วย จุดแรกมาที่บริเวณด้านหลังห้างสรรพสินค้า​อรัญประเทศ​ โดย พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา รายงาน​ว่า​ จุดนี้​เป็นพื้นที่​ที่การข่าวแจ้งว่า​ใช้เป็นช่องทางลักลอบข้ามไปฝั่งกัมพูชา​ เป้าหมายไปทำงานหรือเล่นการพนัน​ ปัจจุบันได้ซีลพื้นที่ตรงนี้แล้ว แต่ก็มีการลักลอบเข้าออกตลอด แม้จะมีสถานการณ์ไทย-กัมพูชา […]

“บิ๊กเต่า” ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด คลี่ปมพัวพันสีกา ก.

6 ก.ค.- “บิ๊กเต่า” เผยคำให้การสีกา ก. เป็นประโยชน์ อาจโยงไปถึงการทุจริต แต่ขอเวลาตรวจสอบให้ชัด เตรียมประชุมคณะทำงานสัปดาห์หน้า เรียกผู้เกี่ยวข้องสอบเพิ่มเติม ยืนยันหากพบใครเอี่ยวพร้อมดำเนินคดี 12.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยถึงกรณีการเรียกตัวสีกาอักษรย่อ ก. มาสอบปากคำ ว่า หลังจากนำตัวสีกา ก. มาสอบ ก็ได้ข้อมูลในแนวทางที่ดีและมีประโยชน์ อาจนำไปสู่เรื่องที่อาจเอี่ยวกับการทุจริต แต่ก็จะต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียด เพราะทุกอย่างต้องชัดเจน เนื่องจากคำให้การอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีหลักฐานอื่นประกอบด้วย จากคำให้การของสีกา ก. ว่า มีการเล่นพนันออนไลน์ แล้วเงินที่ใช้เล่นเป็นเงินส่วนไหน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า “ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ แต่เขามีการเล่นพนันจริง” ตอนนี้มีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว โดยมี ปปป. เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบ เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวพันหลายพื้นที่ ส่วนเรื่องบัญชีวัด ทางบก.ปปป. ก็มีอำนาจสามารถตรวจสอบได้เลย ประมาณวันจันทร์-อังคารที่จะถึงนี้ จะมีการประชุมถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ผู้สื่อข่าวถามว่า สีกา ก. เคยทำให้พระสึกมาแล้วถึง 2 รูป จริงหรือไม่ […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย