ก.ยุติธรรม 4 ธ.ค. – รมว.ยุติธรรม ชูยุติธรรมต้านโกง โปร่งใส ไม่คอร์รัปชัน บริหารด้วยหลักธรรมาภิบาล ยกแนวทางสิงคโปร์ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่นเป็นแบบอย่าง
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงานสัปดาห์ต่อต้านทุจริตและส่งเสริมจริยธรรม ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2568 พร้อมทั้งมอบนโยบาย “ยุติธรรมต้านโกง โปร่งใส ไม่คอร์รัปชัน” ว่า ตนเล็งเห็นว่าเด็กเกิดใหม่ควรมีหน้าที่ไม่สนับสนุนการทุจริตและประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ ส่วนหน้าที่ของรัฐสภา รัฐบาล ศาลยุติธรรม องค์กรอิสระ และเจ้าหน้าที่ ต้องส่งเสริมสนับสนุนความรู้แก่ประชาชนถึงอันตรายของการทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งในภาครัฐและเอกชน ต้องจัดให้มีกลไกที่มีประสิทธิภาพ เพื่อขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบ รวมถึงส่งเสริมรณรงค์ให้ความรู้ และเบาะแส เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองจากรัฐ แม้มีกฎหมายกำกับดูแล แต่การคอร์รัปชั่นถือเป็นปัญหาใหญ่ของคนทั้งโลก ถ้าเราดูตัวชี้วัดหลักธรรมาภิบาลโลก ผลตัวชี้วัด อาทิ การมีสิทธิมีเสียง การมีเสรีภาพทางการเมืองโดยปราศจากความรุนแรง เป็นต้น
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ตัวชี้วัดหลักนิติธรรมปี 2566 เราได้ 0.49 พอปี 2567 ขึ้นมา 0.50 ซึ่งขึ้นมาเล็กน้อย ถือว่าพัฒนาไปในทางที่ดี อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของตัวชี้วัดการคอรัปชั่น เราได้คะแนนแค่ 0.46 ซึ่งถือว่าอยู่ในอันดับไม่น่าพึงพอใจ จึงมีคำถามว่าสำนักงาน ป.ป.ช. มีการใช้ตัวชี้วัด CPI ขณะที่กระทรวงยุติธรรมใช้ตัวชี้วัด WJP ดังนั้น หากต้องเอา 2 ตัวชี้วัดภายในปี 2570 ที่จะให้คะแนนเพิ่มขึ้นจาก 35 คะแนน เป็น 49 คะแนน ซึ่งเหลือเวลาไม่กี่ปี เราจะทำคะแนนถึงได้หรือไม่ ทั้งที่เราทุ่มเทและพยายามแล้วจึงอยากฝากว่า เมื่อเรายึดถือความศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของกฎหมายรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะรัฐธรรมนูญฉบับใด มันก็ถือเป็นประชามติของประชาชนแล้ว ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญมีกล่าวถึง 2 คำหลัก ๆ คือการพูดเรื่องหลักการบริหารงานแผ่นดิน ซึ่งก็คือยุทธศาสตร์ชาติ เพราะรัฐบาลได้จัดให้มียุทธศาสตร์ชาติ มีเป้าหมายพัฒนาอย่างยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาล ดังนั้น ถ้าเราเอาตัวชี้วัดมาดู ก็ต้องเอาหลักธรรมาภิบาลมาใช้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการมีสิทธิมีเสียงของประชาชน การเลือกตั้งของ สส. และ สว.การมีเสรีภาพโดยปราศจากความรุนแรง ตนยืนยันว่าต้องไม่ใช้กฎหมายเหนือความเป็นธรรม และการบัญญัติกฎหมายจะต้องไม่ขัดกับหลักนิติธรรม
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ตนมองว่าหากต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด แล้วกฎหมายระบุว่าหากรัฐมนตรีรับทราบ การรับทราบนี้จะทำให้รัฐมนตรีต้องรับผิดด้วยหรือไม่ ตนตั้งข้อสงสัย อย่างไรก็ตาม ตนขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ข้าราชการ เพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มีงานวิจัยของนิด้าโพลบ่งชี้ออกมาว่าความเชื่อมั่นของประชาชนในกรณีเรื่องสิทธิเสรีภาพมีแนวโน้มดีขึ้น
พ.ต.อ.ทวี กล่าวด้วยว่า กรณีสถานการณ์ล่าสุดที่เกาหลีใต้มีการประกาศกฎอัยการศึกเพียง 2 ชั่วโมง ปรากฏว่ามีคนออกมาเต็มกรุงโซล นอกจากนี้ ตนมีโอกาสถูก ป.ป.ช. เชิญไปแลกเปลี่ยน ซึ่งตนได้มีการระบุว่า ในส่วนของประเทศญี่ปุ่น มีเรื่องสามเหลี่ยมแห่งความชั่วร้าย คือ นักการเมือง ข้าราชการ นักธุรกิจ ซึ่งในการที่จะป้องกันสามเหลี่ยมแห่งความชั่วร้ายนี้ในฐานะที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งต้องดูแลกำกับทุกกรม หากจะทำแบบประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีการแก้ปัญหาเรื่องสามเหลี่ยมแห่งความชั่วร้าย ก็มีทั้งในทางด้านสังคมและวัฒนธรรม โดยต้องเน้นหลักจริยธรรมและชูเรื่องศาสนาเป็นตัวดำเนินการ อย่างเช่น กรมคุมประพฤติที่มีการดูแลผู้ถูกคุมประพฤติถึง 400,000 รายทั่วประเทศ ตนมองว่าควรมีการประสานหารือกับมหาเถรสมาคม และศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย เพราะเรื่องศาสนาการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจได้ ส่วนกรณีของประเทศสิงคโปร์ ที่ตนได้ไปแลกเปลี่ยนก็มีเรื่องของผู้นำเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว กล้าหาญ และไม่อคติ รวมถึงต้องไม่ล่าช้าในการที่จะดำเนินการใด ๆ ทั้งนี้ แม้เรื่องภาวะผู้นำคือสิ่งสำคัญแต่ถ้าหากกฎหมายดีแต่ถ้าผู้ใช้ไม่ใช่คนซื่อสัตย์ กล้าหาญเพื่อธำรงความยุติธรรม กฎหมายก็จะถูกใช้เป็นเครื่องมือ
ทั้งนี้ วงเสวนาวันนี้ยังยกเกาหลีใต้เป็นแบบอย่าง ในการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นที่ได้ผล โดยออกกฎหมายป้องกันคอร์รัปชัน และมี พ.ร.บ.แข่งขันเพื่อการค้า จำกัดอำนาจบริษัทยักษ์ใหญ่ ทำให้ลดการคอร์รัปชั่นอย่างได้ผล.-119-สำนักข่าวไทย