พ่อสารภาพผลักลูก 6 เดือนตกเตียงเสียชีวิต อ้างไม่ตั้งใจให้ถึงตาย

4 ธ.ค. – พ่อเด็ก 6 เดือน รับสารภาพผลักลูกตกเตียง แต่ไม่คิดว่าจะเสียชีวิต ด้าน ผกก.สน.คันนายาว แจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้เสียชีวิต และความผิด พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว คุมตัวฝากขังวันนี้ (4 ธ.ค.)


กรณีเด็กวัย 6 เดือน เสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่ง โดยตำรวจ สน.คันนายาว เข้าตรวจสอบและเชิญพ่อแม่ของเด็กมาสอบปากคำ พ่ออ้างได้ยินเสียงลูกร้อง เมื่อตื่นมาพบลูกนอนอยู่ที่พื้น คาดว่าตกจากที่นอน และมีเลือดออกบริเวณปาก

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (3 ธ.ค.) ตำรวจสอบปากคำนายเมธี พ่อเด็ก 6 เดือน เบื้องต้นนายเมธีให้การรับสารภาพว่าทำลูกตกเตียงโดยไม่ได้ตั้งใจ


ต่อมาพ่อของนายเมธีเดินทางมาที่ สน.คันนายาว ก่อนจะเข้าไปพบลูกชาย พ่อของนายเมธี ระบุว่าลูกชายค่อนข้างเครียด พร้อมบอกว่ามีบางประเด็นไม่ใช่เรื่องจริงที่ข่าวนำเสนอ โดยการนำเสนอข่าวเป็นการฟังความข้างเดียว ฟังแต่ฝั่งภรรยาของนายเมธี ส่วนรายละเอียดอย่างอื่นให้ไปถามกับลูกชายเอง

ส่วนข่าวที่ออกไปก่อนหน้านี้ว่าลูกชายทะเลาะกับแฟนอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงมีการทำร้ายร่างกาย พ่อนายเมธีบอกว่าเรื่องนี้ตนเองไม่ทราบ แฟนสาวคนนี้ตนเองไม่เคยเจอมาก่อน ส่วนหลานชายวัย 6 เดือน เคยเจอเพียงแค่ครั้งเดียว เจอครั้งนั้นยังไม่ถึง 5 นาที

ส่วนลูกชายของตนย้ายออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 17 ปี จึงไม่ค่อยได้ติดต่อกัน ส่วนใหญ่ติดต่อมาลูกชายมักจะมาขอเงินเพื่อเอาไปลงทุนทำธุรกิจ ทุกครั้งกิจการมักไม่ประสบความสำเร็จ


พ่อของนายเมธี ยอมรับว่าลูกชายของตนเองมีอารมณ์ฉุนเฉียว แต่โกรธง่ายหายเร็ว แต่ถ้าหากไม่ได้เมาสุราจะมีอารมณ์ปกติ ส่วนจะยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ ตนเองไม่ทราบเรื่องนี้ และไม่มั่นใจว่าลูกชายจะเป็นคนลงมือทำร้ายร่างกายหลานวัย 6 เดือน เพราะปกติเขาเป็นคนรักสุนัข รักแมว รักเด็ก เพราะลูกชายของตนมีลูกมาแล้วหลายคน ไม่เคยเห็นลูกชายทำร้ายร่างกายเด็กมาก่อน

พ่อของนายเมธี บอกอีกว่า ตนจะไม่ยื่นประกันตัวลูกชายแต่อย่างใด เพราะอยากให้ลูกชายได้รับผลกรรมที่กระทำไว้

ด้านแม่เด็กเดินทางมารับร่างลูกชายวัย 6 เดือน ที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ด้วยสีหน้าเศร้า พร้อมเล่าว่า ระหว่างที่สามีถูกนำตัวไปสอบสวน ได้ทักแชทข้อความมาคุยเพื่อขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น ข้อความบางส่วนยังเหมือนอ้อนวอนขอกลับไปคืนดีและขอโอกาสแก้ตัว ให้คำมั่นสัญญาว่าจะเลิกกินเหล้า แต่ตนเองไม่อยากคุยและไม่ขอคืนดี แม้ตนจะต้องเลี้ยงดูลูกอีกคนในครรภ์ตามลำพังก็ตาม

นอกจากนี้แม่เด็ก บอกอีกว่า คบหากับสามีได้ 2 ปีแล้ว ช่วงคบกันแรกๆ สามียังเป็นคนใจเย็น แต่มาปีนี้กลับเป็นคนอารมณ์รุนแรง ยิ่งพอดื่มสุราจนมึนเมา เมื่อทะเลาะหรือโมโหจะลงมือทำร้ายตบตีตน ยึดโทรศัพท์ของตนไว้ทุกครั้ง เพื่อไม่ให้โทรแจ้งความกับตำรวจได้

นอกจากจะทำร้ายตนแล้ว ยังทำร้ายลูกอีกด้วย โดยสามีมักมีพฤติกรรมแปลกๆ คือชอบกัดลูก เขย่าตัวลูกแบบแรงๆ แม้ตนจะตักเตือนแล้วหลายครั้ง แต่เขาไม่เคยฟัง ทำให้ลูกมีรอยกัดช้ำตามตัวอย่างชัดเจน
หนักสุดคือตอนลูกเพิ่งอายุประมาณ 2 เดือนเศษ สามีได้ยินเสียงร้องไห้เกิดโมโหไปหยิบหมอนกดทับใบหน้าลูกจนแทบหายใจไม่ออก แล้วบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ ส่วนตัวตนคิดว่าการที่สามีอารมณ์รุนแรงแบบนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาเคยเสพยาเสพติด

อย่างไรก็ตาม ตนไม่เชื่อคำให้การของสามี เพราะตอนแรกสามีให้การว่าลูกตกเตียงเอง แต่ตอนหลังมาบอกว่าพลั้งมือ

อย่างไรก็ตาม หลังเค้นสอบพ่อเด็กตลอดทั้งคืน สุดท้ายยอมเปิดปากรับสารภาพว่าทำร้ายร่างกายลูกชายเพราะลูกร้องไห้เสียงดังไม่หยุด อีกทั้งมีความเครียดเพราะเพิ่งทะเลาะกับภรรยา ตนจึงผลักลูกอย่างแรงจนตกจากเตียง แต่ไม่ตั้งใจให้ลูกเสียชีวิต เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และจะนำตัวผู้ต้องหาส่งศาลอาญาฝากขัง วันนี้ (4 ธ.ค.).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น