2 ธ.ค. – “บิ๊กเต่า” เผยคดีรีสอร์ทหรูรุกที่ ส.ป.ก. เป็นอำนาจ ป.ป.ช. ตั้งคณะทำงานให้ บก.ปปป. ร่วมสืบสวนการได้มาของพื้นที่โดยไม่ชอบ
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยคดี หวานใจอดีตรองนายกรัฐมนตรี มีเส้นทางการเงินเอี่ยวรีสอร์ทหรูบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก.ว่า คดีนี้สืบเนื่องมาจากการเจ้าหน้าที่ลงตรวจพื้นที่การบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก. ในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดสระบุรี ซึ่งทาง ป.ป.ท. ตรวจสอบพบว่าพื้นที่ในอำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ออกเอกสารสิทธิ์ถือครองที่ดิน ส.ป.ก. โดยมิชอบ ผิดวัตถุประสงค์การทำพื้นที่เพื่อการเกษตร ซึ่งขณะนี้สำนวนการสืบสวนเป็นของ ป.ป.ช. ที่ร่วมกันกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยได้ตั้งคณะทำงานที่มีทั้ง ป.ป.ช., ป.ป.ท., ปปป. และ ปปง.ร่วมกันในการตรวจสอบโครงการนี้
สำหรับที่ดินดังกล่าวมีเนื้อที่ประมาณ 50-60 ไร่ พบว่าเคยถูกบุกรุกและมีการจับกุมผู้กระทำผิดมาตั้งแต่ปี 2558 ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 1 คน และรอลงอาญา 3 คน และได้ส่งมอบที่ดินคืนให้ ส.ป.ก.จังหวัด จนกระทั่งบริษัทภูนับดาว ได้เข้ามาเช่าพื้นที่ ทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยว คล้ายกับรีสอร์ท มีลานกว้างสำหรับนอนดูดาว ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ของพื้นที่ที่ให้มีไว้เพื่อทำการเกษตร ไม่ใช่การท่องเที่ยว
ส่วนเส้นทางการเงินจำนวน 10 ล้านบาท ที่เชื่อมโยงไปถึงคนสนิทของ “บิ๊กนักการเมือง” นั้น ทราบว่ามีประเด็นเรื่องเงิน 10 ล้านบาทเรื่องนี้ แต่ในรายละเอียด ทาง ปปง. เป็นผู้ดำเนินการ ทางตำรวจจะสืบสวนเฉพาะส่วนของที่ดินที่มีการกระทำความผิด และส่งข้อมูลให้ ป.ป.ช. เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งอำนาจทั้งหมด รวมถึงการออกหมายเรียกและหมายจับ อยู่ที่ ป.ป.ช. ซึ่งก่อนหน้านี้ บก.ปปป. เคยเข้าตรวจค้นบริษัทภูนับดาว และทำหนังสือขอเอกสารหลักฐานต่าง ๆ โดยเฉพาะเอกสารสิทธิตัวจริง แต่จนถึงตอนนี้ บริษัทภูนับดาวก็ยังไม่ยอมส่งมอบเอกสารให้ตรวจสอบ
ทั้งนี้ เชื่อว่าคดีนี้มีผู้ที่ต้องรับผิดชอบหลายคน ทั้งข้าราชการและประชาชน หากต่อไป ป.ป.ช. มีการมอบหมายให้ตำรวจ บก.ปปป.ทำคดีนี้เอง ก็พร้อมทำหน้าที่ตามกฎหมาย ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ยืนยันไม่เกรงกลัวผู้มีอิทธิพล. -416-สำนักข่าวไทย