30 ต.ค. – “มาดามอ้อย” ลั่นเดินหน้าดำเนินคดี “ทนายตั้ม” ฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท ถึงที่สุด ระบุก้มกราบเท้าก็สายไปแล้ว ขณะที่ “สนธิ” ยืนยันไม่ได้รับงานเพื่อเปิดโปงพฤติกรรมฉ้อโกง
“มาดามอ้อย” เศรษฐินีที่พักอาศัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส เปิดที่มาของการถูกฉ้อโกงจนต้องไปแจ้งความดำเนินคดีกับ “ทนายตั้ม” ในข้อหาฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท จนกลายเป็นเรื่องทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ ว่าไปพบกับนายสนธิ ด้วยความประสงค์ของตัวเอง ไม่มีการจ้างให้รับงาน เรียกรับเงิน รีดไถเพื่อจัดการกับทนายตั้ม
จากนั้นนายสนธิโชว์ไวน์และช็อกโกแลตที่มาดามอ้อยให้เป็นค่าจ้าง พร้อมสาบานไม่มีการเรียกรับเงินจากมาดามอ้อยเด็ดขาด และยังถามอีกว่าที่มีคนสงสัยว่าหากทนายตั้มมากราบเท้าแล้วจะใจอ่อนยอมความหรือไม่ มาดามอ้อยบอก “สายไปแล้ว” ไม่มีทางจะยอมความเด็ดขาด
ทั้งนี้ สัปดาห์หน้านายสนธิจะยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสภาทนายความให้ถอดถอนการเป็นทนาย เนื่องจากผิดจริยธรรมอย่างมาก นอกจากนี้จะร้องกรมสรรพากร ให้ตรวจสอบการเสียภาษีของทนายตั้ม รวมถึงขบวนการฟอกเงินคดีแตงโม และเรื่องจากผู้เสียหายรายอื่นๆ อีกหลายเรื่อง
ขณะที่เฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน โพสต์ภาพทนายตั้มใส่เสื้อยืดทนายประชาชน ดวงตาเหม่อลอย พร้อมข้อความเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาว่า “ใครๆ ก็ไม่รักผม ขนาดพัดลมยังส่ายหน้าเลย เฮ้อ…ชีวิต”
ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ เปิดเผยเกี่ยวกับการดำเนินคดีมรรยาททนาย ต่อสื่อมวลชนว่า ได้ร่วมมือกับประธานกรรมการมรรยาท สภาทนายความ ตรวจสอบเอาผิดทนายความที่ประพฤติผิดมรรยาทอย่างจริงจัง และเร่งรัดการพิจารณาคดีมรรยาทที่ทนายโซเชียลได้ละเมิดต่อข้อบังคับของสภาทนายความ ว่าด้วยมรรยาททนายความ จนส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงขององค์กร และสมาชิกทนายความส่วนใหญ่ หากมีข้อเท็จจริงปรากฏตามสื่อต่างๆ สามารถที่จะหยิบยกนำมาเป็นคดีมรรยาทได้ทันที เพราะเป็นเรื่องที่ความปรากฏอย่างชัดแจ้ง
หากทนายความคนใดได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการยักยอก ฉ้อโกง หรือตระบัดสินลูกความ หรือประกอบอาชีพ ดำเนิน หรือประพฤติตนอันเป็นการฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดี หรือเป็นการเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของทนายความ ถือว่าเป็นเหตุที่จะทำการลบชื่อจากทะเบียนทนายความได้ รวมถึงการเสี้ยมสอนให้พยานเบิกความเท็จ หรือทำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ การอวดอ้างว่าตนเองเก่งกว่าทนายคนอื่น หรืออวดอ้างว่ามีพรรคพวกรู้จักคุ้นเคยกับผู้ใดอันกระทำให้ลูกความหลงเชื่อว่าตนสามารถทำให้ลูกความได้รับประโยชน์พิเศษนอกจากทางว่าความ หรือจะชักจูงใจผู้นั้นช่วยเหลือทางคดีได้ หรือแอบอ้างขู่ว่าถ้าไม่ให้ตนทำคดีนั้นแล้วจะหาทางให้ผู้นั้นทำให้คดีลูกความแพ้ หรือการเรียกรับเงินไปวิ่งเต้นคดี การแย่งคดี หรือจงใจขาดนัดหรือทอดทิ้งคดี เป็นต้น ล้วนแต่เป็นการประพฤติผิดมรรยาททั้งสิ้น
อนึ่ง โทษที่จะลงแก่ทนายความที่ประพฤติผิดมรรยาททนายความนั้นมีอยู่ 3 ประการ คือ 1.ภาคทัณฑ์ 2.ห้ามการเป็นทนายความไม่เกิน 3 ปี 3.ลบชื่อจากทะเบียนทนายความ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทนายความโซเชียลคนดังหลายคนขณะนี้ล้วนมีคดีมรรยาทติดตัวอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการมรรยาท ซึ่งทนายความคนดังบางคนถูกร้องเป็นคดีมรรยาทมากกว่า 20 คดีแล้ว และทนายความคนดังหลายคนถูกพักใบอนุญาตให้เป็นทนายความ และบางคนถูกลบชื่อจากทะเบียนทนายความไปแล้ว.-สำนักข่าวไทย