บช.ก. 30 ต.ค. – “เคนโด้” ไม่แปลกใจมีชื่อจะถูก “บอสพอล” ดำเนินคดี เหตุอยู่ฝั่งผู้เสียหายมาตั้งแต่ต้น เผยเคยร่วมงานดิไอคอนปีกว่า แต่ได้ลาออกตั้งแต่ มิ.ย.64 ยันไม่ใช่พรีเซนเตอร์ และรายได้ต่อเดือนน้อยกว่ารายได้ที่เป็นผู้ประกาศข่าว
นายเกรียงไกรมาศ หรือ “เคนโด้” อดีตนักจัดรายการวิทยุและผู้สื่อข่าวชื่อดัง กล่าวถึงกรณีถูกนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล พาดพิงถึงชื่อตัวเองว่า ทนายบอสพอลมีการเอ่ยว่าจะดำเนินคดีกับตัวเอง ซึ่งไม่ประหลาดใจที่มีการเปิดชื่อตัวเองและจะดำเนินคดีกับตน เพราะอยู่ฝั่งผู้เสียหายซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามกับดิไอคอนมาตั้งแต่ต้น โดยคลิปที่มีการเผยแพร่ผ่านโซเชียลขณะนี้ ที่ปรากฏภาพตัวเองขึ้นเวทีและพูดตามสื่อต่างๆ ในลักษณะชื่นชมดิไอคอนนั้น เป็นช่วงเวลาปี 62 ที่ยังได้ทำงานร่วมกับดิไอคอนอยู่ แต่ต้องเรียนว่าในตอนนั้นบริษัทดิไอคอน ยังดำเนินการอย่างถูกต้อง ไม่มีผู้เสียหายแต่อย่างใด ซึ่งได้ร่วมงานมาเป็นเวลากว่า 1 ปี แต่เมื่อทราบว่าธุรกิจดังกล่าวไม่ถูกต้อง เนื่องจากเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ จึงตัดสินใจลาออกตั้งแต่เดือน มิ.ย.64 โดยระหว่างการร่วมงานได้ทำในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความถูกต้อง ซึ่งในสัญญาก็มีการบอกอย่างชัดเจน ยืนยันว่าตัวเองไม่ใช่พรีเซนเตอร์แน่นอน และรายได้ต่อเดือนน้อยกว่ารายได้ที่เป็นผู้ประกาศข่าว ซึ่งไม่ถึง 3 แสนบาท
อย่างไรก็ตาม ได้เข้าให้การกับตำรวจในฐานะพยานไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการสอบปากคำร่วม 6 ชม. พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดของดิไอคอนแน่นอน หากมีความผิดจริงตำรวจก็คงจับไปนานแล้ว และตัวเองคงไม่กล้ามาโผล่ที่นี่
“เคยเจอทนายคนไหนจะดำเนินคดีกับใครแล้วต้องมาแจ้งออกสื่อหรือไม่ ส่วนนี้จะเข้าข่ายความผิด ม.392 หรือไม่ และการที่เปิดเผยชื่อตัวเองทำให้เสียหาย ต้องเรียนว่าทุกความเสียหายคิดเป็นเงินหมด“ นายเกรียงไกรมาศ กล่าว
นอกจากนี้ในวันที่บอสพอลโดนจับ ก็ได้มีการส่งข้อความผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์มาหารัวๆ และรูปสุดท้ายที่ส่งมาคือรูปหัวใจ เหมือนบอสพอลจะจำได้ว่าตัวเองเคยบอกไว้ว่า “ถ้า..ทำแบบนี้จะโดนแบบนี้” การส่งข้อความดังกล่าวคงส่งมาเหมือนอำลาอาลัย ทั้งนี้ อยากพูดถึงสื่อสำนักหนึ่งที่มีการนำรูปของตัวเองที่ใส่เสื้อสีแดงไปตัดต่อประกอบกับข่าวที่มีคลิปที่กำลังถูกเผยแพร่อยู่ในขณะนี้ ทำให้ชาวเน็ตโยงว่าตัวเองไปเกี่ยวข้องกับเครือข่ายดิไอคอน ทำให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งภาพดังกล่าวที่ใส่เสื้อสีเเดงไม่ได้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายดิไอคอนแต่อย่างใด จึงอยากวิงวอนสื่อสำนักดังกล่าวให้เห็นใจ อย่าเอาแต่ยอดเอ็นเกจ ทั้งนี้จะฟ้องดำเนินคดีกับ บก.ข่าว, ผู้ตัดต่อ และคนลงข่าวต่อไป.-419- สำนักข่าวไทย