ตร. 29 ต.ค. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. แจงทำเต็มที่แล้วในการตามจับผู้ต้องหาคดีตากใบ ส่วนหลังคดีหมดอายุความ มีผู้ต้องหาในคดีบางคนปรากฏกาย จากนี้ขึ้นอยู่กับต้นสังกัดพิจารณา
พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) กล่าวว่า หลังศาลจังหวัดนราธิวาส ออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีตากใบ ตำรวจได้เร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาทันที โดยมีการตรวจค้น 52 จุด เฝ้าระวังจุด 241 จุด ทั้งบ้านตามภูมิลำเนา บ้านญาติของผู้ต้องหา แต่ก็ไม่พบตัวผู้ต้องหา จึงประสานตำรวจสากลออกหมายแดงทั้ง 14 คน ต่อมาสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหา 1 คน หลบหนีไปที่ประเทศญี่ปุ่น และอีก 1 คน หลบหนีไปยังประเทศอังกฤษ แต่ก็ไม่สามารถจับกุมได้ จนเมื่อคดีขาดอายุความ และศาลสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบ สิทธิการนำคดีอาญามาฟ้อง จึงระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (6) ทำให้หมายจับหมดสภาพบังคับ
ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า ที่ผ่านมาตำรวจและผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน พยายามติดตามตัวผู้ต้องหาทุกคนอย่างเต็มที่แล้ว แม้ภายหลังคดีหมดอายุความ พบว่าปลัดอำเภอท่าอุเทน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดี ปรากฏกายกลับมาทำงานตามปกติ ก็ขึ้นอยู่กับต้นสังกัดในการพิจารณาต่อไป ส่วนการที่ไม่สามารถตามจับผู้ต้องหาได้ จะเป็นความผิดพลาดของตำรวจหรือไม่นั้น เชื่อว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อไม่สามารถตามจับกุมผู้ต้องหาคดีตากใบได้ อาจส่งผลให้สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้รุนแรงขึ้น พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า ได้มีการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนตำรวจในพื้นที่ ป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่.-419-สำนักข่าวไทย