ปปป. 28 ต.ค.-“บิ๊กเต่า” เผยยังรอทนาย “บอสพอล” มาแจ้งความ เพื่อเริ่มกระบวนการเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง เป็นนักร้อง 4-5 ราย
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ว่า ครั้งที่แล้วได้ให้ข้อมูลไปแล้วว่าจะมีคดีหนึ่งมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ ได้ประสานกับนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ให้ทนายได้เร่งรัดมาร้องทุกข์ดำเนินคดี เพราะตอนนี้ทนายยังอ้างว่าติดว่าความจะมาวันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม 2567 จนช้าไป จึงอยากบอกว่าในกลุ่มของทนายวิฑูรย์ มีทนายร่วมกันอยู่หลายคนให้คนอื่นมาแจ้งความก็ได้จะได้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ไม่อย่างนั้นจะช้า อย่างไรก็ตาม จะให้ทาง ผบก.ปปป. ประสานไป เพื่อตำรวจจะได้ทำงานได้เร็วขึ้น
เมื่อถามว่าการยื้อเวลาจะส่งผลต่อคดีอย่างไรหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ไม่มี แต่เนื่องจากเป็นคดีสำคัญเป็นที่สนใจของประชาชน จึงอยากทำคดีนี้ให้เป็นต้นแบบ บรรทัดฐานว่ากลุ่มที่อ้างตัวว่าทำจิตอาสา ทำเพื่อพี่น้องประชาชน แล้วไปดำเนินการที่มิชอบ คงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น จะต้องทำให้ชัดเจนและให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายด้วย ไม่ใช่ไปช่วยดิไอคอนคนละเรื่องกัน แต่เป็นเรื่องของกลุ่มที่อ้างตัวว่าจะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนและไปดำเนินการบังคับขูดรีดกับเจ้าของกิจการ
เมื่อถามว่าเรื่องที่อยากให้ชัดเจนมีนักร้องผู้หญิงด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า มีหลายคน นั้นเป็นคนหนึ่ง และมี ส., ต. และ อ. ซึ่งมีหลายคน จะสืบทุกคดีทุกมิติ เบื้องต้นจะเอาผิด 4-5 ราย แต่จะได้ความร่วมมือขนาดไหนยังยืนยันไม่ได้ ทางทนายวิฑูรย์ยืนยันแล้วว่าจะมาทีละเคส ในพฤติการณ์รีดทรัพย์ และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ
รอง ผบช.ก. กล่าวว่า ทั้งนี้ได้มีการแบ่งแยกคดีไปแล้ว เรื่องเพจสายไหมต้องรอด ทาง บก.ปอท.รับไปตรวจสอบ ส่วนกรณีเรียกเงิน 7.5 ล้านบาท ทางกองปราบฯ รับไป ส่วนคลิป ก. กับ ส. ทาง บก.ปปป.ดำเนินการ ส่วน ต. เกี่ยวกับ บก.ปอท. ส่วนกรณีเทวดาเดินหน้าต่อ เราอย่าตีเทวดาไปถึงนักการเมืองใหญ่โต เอาเป็นว่าเจ้าหน้าที่เรียกรับที่มีอำนาจทั้งหลาย ทั้งนี้จะทำทุกมิติไปพร้อมกัน หากมาร้องทุกข์บางคดีสามารถดำเนินการได้เลย จึงอยากให้ผู้เสียหายมาดำเนินการให้แล้วเสร็จเสียก่อน หากผู้เสียหายยังไม่มาร้องทุกข์ ตำรวจก็ยังไม่สามารถทำงานให้เดินไปได้
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ส่วนกรณีทนายตั้มอาจจะมีการเข้าใจผิด ว่าผมไปดำเนินการอะไรหรือไม่ คดีดิไอคอน 7.5 ล้านบาท และคดี 71 ล้านบาท หากเป็นคดีที่หมิ่นเหม่ เพราะภาพที่ปรากฏไป ผมกับทนายตั้มเหมือนเป็นคู่ขัดแย้ง แต่จริงๆ ต้องยืนยันว่าตัวเองไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่เคยโต้เถียงทนายตั้มเลย แต่ทนายตั้มชอบพูดเสียดสี ไปในทางที่ให้น้ำหนักของเจ้าหน้าที่ไม่มีน้ำหนัก ถือเป็นเรื่องปกติของทนายทั่วไป ส่วนตัวไม่ได้เอามาใส่ใจเพราะเราเป็นตำรวจมืออาชีพจะทำในสิ่งที่ควรจะทำ ส่วนทางคดีจะให้เจ้าหน้าที่ว่ากันไปเพราะผมไม่ได้คุมกองบังคับการปราบปราม ให้ทาง พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. ดำเนินการไปทั้ง 2 เรื่อง แต่บางเรื่องที่เกี่ยวกับ บก.ปปป. เช่น นักร้อง ก. ที่น่าจะเข้า 148 ก็จะต้องเรียกสอบพยานบอส 7 คน แต่อาจสอบบอสสัก 3 คน เพื่อเป็นพยาน พร้อมกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ก็สามารถดำเนินการได้ แต่ทั้งนี้ต้องรอขั้นตอนที่ผู้เสียหายมาร้องทุกข์ก่อน
“ยืนยันคดีแรกมั่นใจสามารถเอาผิดได้ ส่วนคดีหลังขอสอบพยานก่อน” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า จริงๆ หากผู้เสียหายให้ความร่วมมือจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมจึงอยากวอนผ่านสื่อถึงบอสพอล หากคิดว่าบริสุทธิ์หรือถูกรังแกจากมิจฉาชีพกลุ่มนี้ที่จะเข้ามาช่วยเหลือ หรือให้ความดูแล หรือมีบุญคุณต่อกัน หากปล่อยให้จิ้งจอกสังคมพวกนี้ออกมาหากินในทำนองนี้กับผู้ประกอบการก็จะเกิดบรรทัดฐานไม่ดี ผมรู้ว่าต้องพึ่งพาอาศัยกันแต่บางสิ่งบางอย่างถ้าเปิดหมดก็จะดีต่อภาพรวม
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ทั้งนี้จะทำหนังสือไปถึงทุกหน่วยที่มีความเสียหายที่เขาอ้างว่ามีการจ่ายไป ทั้ง สคบ. สอท. ดีเอสไอ กำลังรวบรวมข้อเท็จจริง เพราะปัจจุบันทราบว่าเนื้อหาที่พยานนำมาให้ทราบว่าเป็นเพียงนักขายทั่วไปอยากมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน แต่การที่คนนี้มาโผล่ตัวเป็นพยานก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการขยายความในสิ่งที่เขาไม่ต้องการที่จะให้ ผมยังยืนยันว่าพยานคนนี้จะแจ้งความกับเพจที่นำเขาไปพูดให้เสียหายด้วย แต่ขอความชัดเจนและขอให้บริษัทมาร้องก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่มองแล้วเชื่อว่าหมิ่นเหม่ต่อข้อกฎหมาย เพราะทางพยานที่เราสอบและดีเอสไอสอบตรงกัน เป็นเรื่องกุเรื่องสร้างข่าวสร้างกระแสสร้างความนิยม
“เรื่องนี้ถ้าใกล้จบ ทางบอสพอลจะต้องให้ความร่วมมือ เพราะรับปากกันแล้วว่าจะมาร้องตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งความ ตำรวจอยากคลี่คลายปัญหาทุกอย่าง เพราะคดีดิไอคอนก็ส่งไปดีเอสไอแล้ว ยังเหลือในส่วนนี้ที่ยังต้องดำเนินการ” รอง ผบช.ก. กล่าว.-419.-สำนักข่าวไทย