กทม. 23 ต.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง บุกรวบ “แม่เสี่ยโป้” คาบ้านหรูย่านพุทธมณฑลสาย 2 ข้อหาเอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ พบเปลี่ยนชื่อ อำพรางตัว อ้างเป็นแม่บ้าน แต่ขณะตำรวจนำกำลังเข้าจับ กลับวิ่งไปหาที่หลบ
ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปราม นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.บานเย็น (แม่เสี่ยโป้) อายุ 51 ปี ขณะกำลังหลบอยู่หลังโซฟา เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาปี 64 ข้อหากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำผิดความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน”
และรวบได้อีกคน คือ น.ส.พฤกษชาติ อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลแขวงดอนเมืองปี 63 ข้อหากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันประกาศโฆษณา ชักชวน จัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยพฤติการณ์ของผู้ต้องหา พบว่า ช่วงเดือนมิถุนายน 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตรวจพบว่า มีการชักชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าเล่นพนันออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ผ่านทางเฟซบุ๊ก ทั้งพนันทายผลฟุตบอล และเกมกาสิโนออนไลน์ประเภทต่างๆ เช่น บาคาร่า, ไพ่ป๊อกเด้ง, เกมไพ่ชนิดอื่นๆ, ตู้เกมสลอต, ทายผลเกม เป็นต้น ซึ่งเปิดให้มีการเสี่ยงทายเล่นพนันได้เสียเงินจริง และยังพบเงินหมุนเวียนในบัญชีรับโอนเงินจำนวนมาก
สำหรับ น.ส.บานเย็น แม่เสี่ยโป้ เกี่ยวข้องกับคดีนี้ คือ เปิดบัญชีธนาคารที่ได้รับผลประโยชน์ จากบัญชีที่ใช้พักเงินเว็บพนันออนไลน์ข้างต้น ซึ่งเว็บไซต์พนันออนไลน์ดังกล่าว พบผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจำนวน 31 ราย โดยแต่ละรายมีการแบ่งหน้าที่กันในการจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ และการยักย้ายถ่ายเทเงินที่ได้จากผู้เล่นพนัน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 ก.พ.64 ตำรวจกองปราบ ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดข้างต้น ทั้งหมด 31 ราย พร้อมจับกุมนายเสี่ยโป้ และบุคคลใกล้ชิดที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปกว่า 20 ราย ยังคงมีผู้ต้องหาที่ไหวตัวทันและหลบหนี ปัจจุบันยังมีกลุ่มผู้ต้องหาหลบหนีอยู่จำนวน 4 ราย ซึ่งส่วนใหญ่จะเดินทางออกนอกประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ จากการ
สืบสวนพบว่า น.ส.บานเย็น หนึ่งใน 4 ผู้ต้องหาได้หลบหนีมากบดานอยู่ในหมู่บ้านหรูย่านพุทธมณฑลสาย 2 ปกปิดตัวตนใช้นามสมมติว่า “บุษบา” อยู่อย่างเงียบๆ ภายในบ้านหลังดังกล่าว ปรากฏว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง แขวงศาลาธรรมสพน์ ตามหมายค้นพบว่าบุคคลที่มีตำหนิรูปพรรณคล้าย น.ส.บานเย็น กำลังปีนรั้วหลังบ้านเพื่อหลบหนีแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังปิดล้อมไว้ทั้งหมด จึงปีนกลับเข้าไปซ่อนตัวในบ้าน หลบอยู่บริเวณข้างโซฟา ตำรวจจึงได้แสดงตัวเพื่อเข้าจับกุม แต่เจ้าตัวอ้างว่าชื่อ บุษบา เป็นแม่บ้าน แต่ต้องจำนนด้วยหลักฐาน ภาพบัตรประชาชน น.ส.บานเย็น ในโทรศัพท์ และยอมรับว่าตน คือ น.ส.บานเย็น ผู้ต้องหาตามหมายจับฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้จับกุมตัวแจ้งข้อกล่าวหา
ส่วนอีกคนหลบอยู่บริเวณภายในห้องนอนชั้น 2 ของบ้าน คือ นางสาวพฤษชาติ อายุ 31 ปี บุคคลตามหมายจับของศาลแขวงดอนเมือง เจ้าตัวยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับรายชื่อบุคคลในหมายจับจริง จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ทำบันทึกการจับกุม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และแจ้งว่า “ยอดเงินที่ตนรับโอนมาจากบัญชีเว็บพนันนั้น ตนเป็นเพียงผู้เล่นเท่านั้น ไม่เคยจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์แต่อย่างใด และไม่เคยให้บุคคลใดไปเปิดบัญชีธนาคารให้กับตน.-สำนักข่าวไทย