คดีดิไอคอน 9 วัน มีผู้เสียหายกว่า 2 พันราย มูลค่า 841 ล้านบาท

บช.ก.18 ต.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง สรุปข้อมูลผู้เสียหายจากคดีดิไอคอน รวม 9 วัน เข้าแจ้งความ 2,170 คน รวมมูลค่าความเสียหาย 841 ล้านบาท


พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พร้อม พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) และ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) แถลงความคืบหน้ากรณีจับกุมผู้ต้องหา 18 ราย ที่เป็นผู้บริหารระดับบิ๊กบอสของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด

พล.ต.ต.โสภณ เปิดเผยว่า ภาพรวมการรับแจ้งความของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางจนถึงปัจจุบันใช้ระยะเวลา 9 วัน มีผู้เสียหาย 2,170 ราย มูลค่าความเสียหาย 841 ล้านบาท วันนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ได้กำชับหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศ ให้รับแจ้งความโดยยึดต้นแบบของตำรวจสอบสวนกลางในการดำเนินการจัดทำศูนย์รับแจ้งความให้กับประชาชนทั่วทั้งประเทศ โดยเน้นย้ำว่าการรับแจ้งของประชาชนให้ถือเป็นเรื่องสำคัญจะไม่มีการบ่ายเบี่ยงไม่รับแจ้งความโดยเด็ดขาด หากมีกรณีการไม่รับแจ้งความจะมีการดำเนินการทางวินัยและจะมีการดำเนินการในด้านของการบริหารงานบุคคลอีกด้วย ฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนที่อยู่ต่างจังหวัดไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้ามาที่ บช.ก. สามารถไปแจ้งความยังจุดที่อยู่ตามภูมิลำเนา ที่อยู่อาศัยหรือจุดที่สะดวกในทุกท้องที่ ผู้เสียหายสามารถรวบรวมหลักฐานการโอนเงินข้อความแชทที่มีการติดต่อขอให้รวบรวมไว้และรีบดำเนินการมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนโดยเร็ว


พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีการรับแจ้งความอย่างต่อเนื่อง ส่วนระยะเวลาในการฝากขังเป็นไปตามกรอบระยะเวลาของกฎหมาย 4 ฝาก 48 วัน เชื่อว่าจะสามารถทำงานได้ทัน หากมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมก็เป็นไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนยังประเมินกันอยู่ต้องดูพยานหลักฐานที่แสวงหามาได้ รวมถึงคำให้การของพยานบุคคลที่เข้ามาเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนได้มีการคัดแยกแบ่งผู้เสียหายออกเป็นกลุ่ม หากมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเรื่อย ๆ เชื่อว่าจะไม่กระทบกับรูปคดีและพยานหลักฐานที่ได้รวบรวมไว้

ผู้สื่อข่าวถามว่าจากการที่ บอสพอล ขอให้ปากคำเพิ่มเติม รวมไปถึงกระแสข่าวที่มีนอมินีให้เข้ามาแจ้งความจะเป็นการดึงเวลาให้ทำสำนวนล่าช้าหรือไม่นั้น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่า เชื่อว่าสามารถทำได้ทันแน่นอน อย่างไรก็ตาม ทาง พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. สั่งการให้จัดเจ้าหน้าที่ในการสืบทรัพย์ และเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบเรื่องคริปโต โดยได้มอบหมายให้ บก.ปอศ. ที่มีความชำนาญในเรื่องทำคดีเกี่ยวกับสินทรัพย์และคริปโต ให้เข้ามาสนับสนุนช่วยเหลือพนักงานสอบสวนด้วยอีกส่วนหนึ่ง

“เท่าที่ทราบทรัพย์สินที่ยึดมามีรถจำนวน 24 คัน เงินสด 7.5 ล้านบาท, นาฬิกา 51 เรือน, กระเป๋าแบรนด์เนมและสินค้าแบรนด์เนมมีจำนวนมาก โดยรวมสินทรัพย์ทั้งหมดประมาณ 210 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้มีการขยายผลอย่างต่อเนื่อง และยอมรับว่ามีผู้ต้องหาบางราย ได้ทำการยักย้ายถ่ายเท จำหน่าย ถ่ายโอนทรัพย์สิน ในส่วนนี้ก็จะมีความผิดเพิ่มเติมในเรื่องของการฟอกเงินด้วย” รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าว


เมื่อถามถึงกรณีที่สังคมตั้งคำถามว่าดีเอสไอจะแย่งทำคดีหรือไม่ พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า มองว่าดีเอสไอเข้ามาช่วยในเรื่องของการสืบทรัพย์ และมีการแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยดำเนินการทางคู่ขนานกัน หากหลังจากนี้พบว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ก็จะส่งมอบให้ทางดีเอสไอ ทางตำรวจจะส่งสำนวนให้ทางดีเอสไอเอง โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานร่วมกับ ปปง. ในการรวบรวมพยานหลักฐานในส่วนนี้ นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้มีการประสานให้ทางผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้าน ไม่ว่าจะเป็นสำนักอัยการสูงสุด, สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง, สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค, อย. รวมไปถึงสรรพากรด้วย

ส่วนความคืบหน้าการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องลอตที่ 2 นั้น ยืนยันว่าไม่ว่าจะเป็นดารา หรือบุคคลที่มีชื่อเสียง หรือแม้แต่พระสงฆ์ หากตรวจสอบพบว่าเข้าข่ายกระทำความผิด ตำรวจจะดำเนินคดีทั้งหมดไม่ละเว้น ซึ่งกรณีที่มีคนมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับพระรูปหนึ่งนั้น ตำรวจก็จะรับเรื่องตรวจสอบ แต่ขณะนี้ตัวเองยังไม่ได้ตรวจสอบรายละเอียดหลักฐานที่มีการแจ้งความ. -419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

ผู้ว่าฯ สตง. เปิดใจครั้งแรก ยันรอผลสอบสาเหตุตึกถล่ม

ผู้ว่าฯ สตง. เปิดใจครั้งแรก ยันรอผลสอบสาเหตุตึกถล่มจากผู้เชี่ยวชาญ 22 ท่าน พร้อมให้ข้อมูลเต็มที่ ผลสอบออกมาเป็นอย่างไร ก็จะยอมรับ ย้ำเชื่อมั่นความโปร่งใส ขณะนี้ สตง.ได้ทำหนังสือแจ้งไปยัง บ.อิตาเลียนไทยฯ เพื่อให้รับผิดชอบความเสียหายทั้งหมด

ปชช.กลับบ้านสงกรานต์ แน่นสถานีขนส่งหมอชิต 2

บรรยากาศที่สถานีขนส่งฯ หมอชิต 2 ประชาชนเข้าใช้บริการแน่นขนัด บขส. ยืนยันจัดรถเสริมไว้บริการเพียงพอ พร้อมทั้งจัดจุดประสานงานจราจร ให้รถโดยสารเข้าถึงชานชาลาได้เร็วขึ้น

ไล่ล่า “บุญเกิด” มือยิง ตร.ดับ ตั้งค่าหัว 1 แสนบาท

คดีคนร้ายยิงตำรวจเสียชีวิต ขณะเข้าตรวจค้นกระท่อมภายในสวนยางพารา เจ้าหน้าที่ยังคงระดมกำลังค้นหาตัวมือยิง เชื่อยังหลบอยู่ในพื้นที่

ลุ้นปาฏิหาริย์ ช่วยแรงงานติดใต้ซากอาคาร สตง.

ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างอาคาร สตง. ถล่ม ยังคงดำเนินต่อเนื่อง หลังพบแสงสัญญาณแห่งความหวัง ที่คาดว่ามีผู้ติดค้างสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ได้ โดยเจ้าหน้าที่เร่งเจาะเปิดพื้นที่พร้อมเติมท่ออากาศลงไป