กรุงเทพฯ 16 ต.ค. – ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาคดี “ดิไอคอน กรุ๊ป” ได้แล้ว 15 คน จากตามหมายจับทั้งหมด 18 คน คาดตลอดทั้งคืนนี้จะแยกสอบปากคำผู้ต้องหา จากนั้นจะคุมตัวส่งศาลฝากขัง ยืนยันในชั้นพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด แต่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่
ภาพของบอสมิน หรือมิน พีชญา นักแสดงชื่อดัง หนึ่งในผู้ต้องหา ฐานความผิดฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ กรณีดิไอคอนกรุ๊ป ถูกควบคุมตัวมาที่กองบัญชาการสอบสวนกลาง เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. ซึ่งเป็นเวลาไล่เลี่ยกับบอสแซม ยุรนันท์ และบอสวิน
ส่วนบอสกันต์ กันตถาวร ถูกควบคุมตัวมาที่กองบัญชาการสอบสวนกลาง เมื่อเวลา 19.28 น. ทันทีที่บอสกันต์ลงจากรถ สื่อมวลชนพยายามสอบถาม แต่เจ้าตัวไม่ตอบคำถามใดๆ เพียงยกมือไหว้ แล้วรีบเดินเข้าไปภายในตึกกองบัญชาการสอบสวนกลาง เพื่อให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน จากการสังเกต กันต์ กันตถาวร มีสีหน้ากังวล เหมือนคนครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนี้ตำรวจทยอยอายัดยึดทรัพย์สินของผู้ต้องหา ทั้งรถ ทรัพย์สินอื่นๆ หลายรายการ เช่น รถฟอร์ดมัสแตง สีแดงคาดขาว พร้อมด้วยรถเอสยูวียี่ห้อปอร์เช่ คาร์เยน สีแดง ของกันต์ กันตถาวร นอกจากนี้ยังมีรถหรูอีกหลายคันที่เป็นของกลุ่มผู้ต้องหา
ส่วนตัวบอสพอล หลังจากตำรวจควบคุมตัวจาก สคบ. ได้นำตัวไปที่บริษัทย่านรามอินทรา และอายัดทรัพย์สิน ทั้งซูเปอร์คาร์ 2 คัน รวมถึงทรัพย์สินที่เป็นของแบรนด์แนมจำนวนหลายรายการ โดยทรัพย์สินมาถึงก่อน แต่เจ้าตัวยังไม่ได้ถูกควบคุมตัวมาที่นี่
ล่าสุดตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาเข้ามาอีก 1 คน คือ บอสปัน โดยทันทีที่ลงจากรถ เจ้าตัวรีบเดินเข้าไปภายในตึกกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางทันที โดยไม่ตอบคำถาม ไม่สบตาสื่อมวลชน ส่วนที่เหลือที่ยังจับกุมไม่ได้อีก 3 คน คือ บอสปีเตอร์, บอสอูมมี่ และบอสทอมมี่
นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ซึ่งวันนี้ได้เดินทางมาติดตามสถานการณ์และบอกว่าต้องการสอบถามผู้ต้องหาว่าจะชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างไร
สรุปตัวเลขผู้ต้องหาในคดีดิไอคอนกรุ๊ป ขณะนี้ตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว 15 คน จากทั้งหมด 18 คน คาดว่าตลอดทั้งคืนนี้ตำรวจจะสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมด แน่นอนว่าต้องแยกสอบ ซึ่งตำรวจมีอำนาจควบคุมตัวผู้ต้องหาเพื่อสอบปากคำ 48 ชั่วโมง นับตั้งแต่จับกุมตัว จากนั้นจะนำตัวส่งศาลเพื่อขอฝากขัง
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าในชั้นพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่.-สำนักข่าวไทย