ผบ.ตร.ยืนยันเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาผู้บริหารดิไอคอน ก่อนสิ้นเดือนนี้

15 ต.ค. – ผบ.ตร.ยืนยัน แจ้งข้ออกล่าวหาผู้บริหาร ดิไอคอน กรุ๊ป ได้ก่อนสิ้นเดือนนี้ ย้ำผู้ต้องหาอยากฟ้องกลับก็ฟ้องตนได้เลย


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงความคืบหน้าคดีดิไอคอน กรุ๊ป ว่า วันนี้มาติดตามความคืบหน้าคดีไอคอน กรุ๊ป ซึ่งมีความคืบหน้าเป็นไปอย่างมาก ตอนนี้อยู่ในระหว่างที่พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน และเชื่อว่าผู้ถูกกล่าวหามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง ส่วนการจะออกหมายจับผู้ถูกล่าวหาทั้งหมดหรือไม่นั้น พนักงานสอบสวนต้องมีความรอบคอบและรัดกุมในการทำสำนวน ซึ่งจากที่เห็นผู้ถูกกล่าวหาได้เดินทางมาแสดงตนกับพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์นั้น มันเป็นสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา การจะเข้าสู่ขบวนการออกขอหมายจับนั้นเป็นเรื่องของอนาคตอยู่ในระหว่างพิจารณา จากที่ดูหลักฐานเชื่อว่า เข้าข่ายความผิด ตลาดขายตรง, พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค, พ.ร.ก.กู้ยืมเงินฯ และฉ้อโกงประชาชน ข้อหาเกิดจากการสอบสวนที่สืบทราบมาได้ ต้องให้เวลากับพนักงานสอบสวนในการรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นหนา ก่อนพิจารณาความผิดกับผู้ถูกกล่าวหา

ส่วนความคืบหน้าในการสอบปากคำผู้เสียหายตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้สอบปากคำไปทั้งหมดมากกว่า 900 คน จากที่ผู้เสียหายได้ลงทะเบียนเกือบ 1,100 คน มูลค่าความเสียหาย 400 ล้านบาท ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องขึ้นทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทำหนังสือไปให้ทาง ปปง.ดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงิน เนื่องจากมีผู้เสียหายร้องเรียนเป็นจำนวนมากและมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท เกรงว่าจะมีการถ่ายโอนทรัพย์สินไปยังบุคคลอื่น จึงรีบดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะเข้าในที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรมในวันที่ 17 ต.ค.นี้


ส่วนการพิจารณาให้เป็นคดีพิเศษหรือไม่นั้น ตามกฎหมายได้กำหนดไว้อยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้อยู่ในการพิจารณาว่าเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่

ส่วนกรณีที่มีทางสถานีตำรวจ หรือ ตำรวจภูธรบางที่ที่ไม่รับแจ้งความนั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีหนังสือสั่งการเวียนชี้แจงทั่วประเทศไปแล้วถึง 2 ครั้ง ให้ทางสถานีตำรวจนครบาลและตำรวจภูธรในพื้นที่ทั้งหมด รับแจ้งความในคดี บริษัทดิไอคอน กรุ๊ป จึงอยากฝากเตือนไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาให้ปฏิบัติตามคำสั่ง หากเกรงว่าไม่ทราบประเด็นในการสอบปากคำ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็จะส่งประเด็นคำถามให้กับพนักงานสอบสวนโดยตรง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าแจ้งความให้กับพี่น้องประชาชนและผู้เสียหายในคดี ไม่ให้เกิดการเสียเวลาเดินทางมายังกองบังคับการปราบปราม

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอาจมีผลกระทบต่อคดี แต่ก็ขอให้ไว้ใจเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินการว่า จะเอาผิดกับทุกคนที่เกี่ยวข้องไม่เว้นแม้แต่คนเดียว หากผลการสอบสวนและหลักฐานพร้อมในการดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านี้ รวมไปถึงธุรกิจที่มีการเข้าข่ายขายตรง หรือแชร์ลูกโซ่


ส่วนกรณีที่ทางผู้ถูกกล่าวหามีการชิงชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียหายก่อนนั้น คิดว่าไม่มีผลกระทบต่อรูปคดีที่เกิดขึ้นมาแล้ว และเป็นสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหาที่จะสามารถกระทำได้ แต่คดีปรากฏชัดเจนไม่สามารถยอมความได้ ก็จะต้องดำเนินไปตามขั้นตอนกฎหมายตาม ป.วิอาญา

พล.ต.อ.กกิตติ์รัฐ กล่าวอีกว่า ตอนนี้การให้ข้อมูลความคืบหน้าคดีดิไอคอน กรุ๊ป ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก. เป็นผู้ดำเนินการให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนและประชาชนที่กำลังติดตามข่าวสาร และขอยืนยันว่า ภายในเดือนนี้จะสามารถออกหมายจับกับผู้กระทำความผิดได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากสุดท้ายคดีดังกล่าวไปถึงที่สุดแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาไม่ผิดอย่างที่คิดและมีการถูกฟ้องกลับมีความกังวลหรือไม่ พล.ต.อ.กกิตติ์รัฐ ตอบว่า หากไปถึงขั้นนั้น ผู้ต้องหาจะฟ้องกลับให้ฟ้องตนคนเดียวในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุด เพราะตนเป็นผู้สั่งการ ดังนั้นตนต้องรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ ขอเตือนไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว ไม่ว่าใครก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน ขอยืนยันว่าไม่กลัวผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน

ซึ่งผู้เสียหายคดีขายตรงของบริษัท “ดิไอคอนกรุ๊ป” สามารถติดต่อนำหลักฐานเข้าแจ้งความได้ 3 ช่องทาง ดังนี้
1.เดินทางเข้ามาแจ้งด้วยตัวเองได้ที่ “ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน (บก.ปคบ.)” ชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ (ตึกกองปราบ) เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.

2.แจ้งความที่สถานีตำรวจ (สน./สภ.) ใดก็ได้ โดยพนักงานสอบสวน จะทำการสอบปากคำ รวบรวมความเสียหาย และพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ลงบันทึกข้อมูลในระบบ เพื่อให้ได้เลขแจ้งความ (Case ID) เพื่อส่งมายัง บก.ปคบ. เพื่อดำเนินการต่อไป

3.แจ้งความผ่านระบบออนไลน์ ทาง www.thaipoliceonline.go.th ซึ่งหลังจากนั้น พนักงานสอบสวนจะสอบสวนปากคำ และส่งเอกสารมายัง บก.ปคบ. เพื่อดำเนินการต่อไป .-414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอโทษทำเข้าใจคลาดเคลื่อน ปมเอกสารสิทธิ์ที่ดินบ้านหนองจาน

สระแก้ว 24 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอโทษที่ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน กรณีเอกสารสิทธิ์ที่ดินบ้านหนองจาน ยืนยันพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในราชอาณาจักรไทย ให้ประชาชนผู้มีหลักฐานยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินได้ วันที่ 23 ส.ค.68 เพจ สวท.สระแก้ว เผยแพร่สารจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ชี้แจงกรณีเอกสารสิทธิ์ชาวบ้านหนองจาน อ.โคกสูง ระบุว่า ผมกราบขอโทษพี่น้องประชาชนทุกท่าน ที่ทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกรณีพื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง ทั้งนี้ ผมขอยืนยันว่า พื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง อยู่ในราชอาณาจักรไทย ประชาชนผู้มีหลักฐานแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) ใบจอง (ส.ค.2) และหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) บริเวณบ้านหนองจาน และบริเวณหลักเขตแดนที่ 45-49 สามารถยื่นคำขอออกโฉนดที่ดิน ต่อเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดสระแก้ว สาขาอรัญประเทศได้ โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชนที่มีสิทธิทุกราย ภายใต้อำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด.-สำนักข่าวไทย

พายุ “คาจิกิ” แนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น เตือน 24-27 ส.ค. ฝนหนักหลายพื้นที่

กทม. 24 ส.ค.-กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 7 พายุ “คาจิกิ” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น เตือน 24-27 ส.ค.68 ไทยฝนเพิ่มมากขึ้น ตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่กับมีลมแรง บริเวณอีสานตอนบน ภาคเหนือ กลาง ตะวันออก และใต้ฝั่งตะวันตก รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 7 เรื่อง พายุ “คาจิกิ” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (24 ส.ค. 68) พายุโซนร้อนกำลังแรง “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 570 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของเมืองดองฮอย ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 17.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.0 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 112 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น […]