15 ต.ค. – นักอาชญาวิทยา ระบุ “บอสพอล” ควรแสดงความบริสุทธิ์ใจอีกขั้นโดยการเข้าเครื่องจับเท็จเพื่อพิสูจน์คำพูด และการกระทำในคดี The icon Group
รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล นักอาชญวิทยา มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า หากว่า “บอสพอล” ต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจให้มากกว่าการไปออกรายการโทรทัศน์ แล้วประกาศจะเยียวยาให้กับผู้เสียหาย เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจที่มากขึ้นไปอีกขั้น ว่าตัวเองไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำของธุรกิจดิไอคอน กรุ๊ป ที่มีผู้เสียหายออกมาแจ้งความจำนวนมาก “บอสพอ” ควรกล้าที่จะขอเข้าเครื่องจับเท็จของกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ เนื่องจากการพิสูจน์ด้วยเครื่องจับเท็จ เป็นกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่ต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกาเป็นที่ยอมรับ ส่วนประเทศไทยสามารถนำประกอบการพิจารณาของศาลได้ แม้ศาลจะไม่ให้น้ำหนักเท่าที่ควร ซึ่งการทำงานของเครื่องจะจับปฏิกิริยาของร่างกาย หากผู้เข้าเครื่องจับเท็จ ปกปิกหรือ ให้ข้อมูลเท็จไม่ตรงกับความเป็นจริง เครื่องจะตรวจพบลักษณะการเต้นของหัวใจที่เร็วกว่าปกติ การหายใจที่มีอัตราการหายใจแรงมากขึ้น รวมถึงเหงื่อที่ปรากฏตามผิวหนัง หาก “บอสพอล” กล้าเข้าเครื่องจับเท็จก็เท่ากับเป็นการพิสูจน์ตัวเองอีกขึ้นหนึ่ง
ทั้งนี้ หาก “บอสพอล” ไม่พร้อมเข้าเครื่องจับเท็จ ก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสืบสวนสอบสวนที่จะต้องค้นหาความจริง จากคำให้สัมภาษณ์ของบอสพอล ในประเด็นต่างๆ ว่าเป็นจริงตามนั้นหรือไม่
ส่วนตัวจับสังเกตความผิดปกติในการให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ของ “บอสพอล” 2 ครั้ง ที่แสดงออกไม่เหมือนกัน ทั้งความผ่อนคลาย สีหน้าแววตา หรือการตั้งคำถามและตอบคำถาม ซึ่งในรายการ โหนกระแส มีความกดดัน และใช้การทวนคำถามเพื่อยื้อเวลา ให้คิดเพื่อตอบคำถามนั้น ๆ ขณะที่อีกรายการ มีความมั่นใจที่จะตอบคำถามมากกว่า.-412-สำนักข่าวไทย