กรุงเทพฯ 11 ต.ค. – สคบ.บุกตรวจบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป เก็บหลักฐานธุรกิจขายออนไลน์ หลังมีผู้ร้องเรียนจำนวนมาก ขณะมีตัวแทนขายสินค้าเข้ามารับสินค้าเพิ่ม บอกทำมา 1 ปี สินค้าขายดี และได้เลื่อนระดับเป็นซูเปอร์ไวเซอร์แล้ว
ที่บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ถ.รามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. นายวิธิเนศวร์ เนียมมีศรี นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ (สคบ.) พร้อมคณะทำงาน สคบ. ตำรวจไซเบอร์ และตำรวจสอบสวนกลาง ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป นานกว่า 2 ชั่วโมง โดยเข้าตรวจผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัท และค้นหาเอกสารการทำธุรกรรม เส้นทางการเงิน รวมถึงเอกสารการจดทะเบียนการค้า หลังมีผู้ร้องเรียนว่ามีการชักชวนลงทุนเป็นจำนวนมาก
ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบบริษัท ได้มีนายวิสิทฐ์ หรือ เบิร์ด ดิไอคอน อายุ 68 ปี ตัวแทนผู้ขายสินค้า เดินทางมารับสินค้ากับบริษัทเพิ่มเติมเพื่อนำไปขาย โดยนายวิสิทฐ์ เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า วันนี้เดินทางมารับสินค้าตัวกาแฟและเม็ดฟู่ ที่เป็นผลิตภัณฑ์ขายดีในเครือของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป พร้อมเผยว่า ก่อนหน้านี้ทำแค่อาชีพขับแท็กซี่ และเริ่มสนใจในเรื่องธุรกิจออนไลน์ โดยมีการศึกษาทั้งหมด 3 บริษัท จนมาพบกับบริษัท ดิไอคอน ที่มีบอสพอล เป็นเจ้าของ ซึ่งมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ไม่โกงกินชาติ และบริษัทดังกล่าวมีสินค้าดี มีคุณภาพ
ตอนเริ่มแรกตนเองเริ่มจากระดับขั้นต้นและไต่ระดับตามสเต็ปเหมือนกับคนอื่น จ่ายครั้งแรกเข้า 2,500 บาท ได้รับผลตอบแทนดี จึงได้ขยับไปในระดับที่มากขึ้นเป็นระดับซูเปอร์ไวเซอร์ หรือระดับกลาง ที่จะต้องมีการจ่ายเพิ่มในราคา 25,000 บาท เป็นตัวแทนขายสินค้ามาเป็นเวลากว่า 1 ปี ได้รับกำไรที่ดีจริง ย้ำไม่อยากบอกกำไรเป็นตัวเลข เดี๋ยวจะหาว่าโม้ เพราะสินค้าดีจริง ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ
จากนั้น นายวิสิทฐ์ มีอาการสะอื้น กล่าวทั้งน้ำตาว่า ส่วนตัวรู้สึกว่า บอสพอล ทุ่มเทและอยากให้ทุกคนมีรายได้ รู้สึกศรัทธาในตัวบอสพอล แต่ในส่วนที่เคยพบดาราที่เป็นผู้บริหารหรือไม่นั้น ไม่เคยได้ยินว่าดาราใช้คำว่าบอสนำหน้า โดยส่วนใหญ่จะเข้ามาให้ข้อมูลสินค้า
ส่วนกระแสข่าวด้านลบที่มีอยู่ขณะนี้ ตนเองขอไม่สนใจ ให้เรื่องนี้ บอสพอล เป็นผู้ตัดสินใจและแก้ไขปัญหานี้เอง แต่เชื่อว่า บอสพอล จะแก้ไขปัญหานี้ได้ ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า ตนมีความเชื่อมั่นต่อบอสพอล ยืนยันไม่ใช่หน้าม้าอย่างแน่นอนและพร้อมโชว์รหัสตัวแทนขายสินค้าจริง.-416-สำนักข่าวไทย