“เจ๊นุช” คนสนิทแม่ตั๊ก เข้าให้ปากคำคดีหลอกขายทอง

บก.ปคบ. 10 ต.ค.-“เจ๊นุช” คนสนิท “แม่ตั๊ก” ผู้ต้องหาคดีหลอกขายทอง เข้าพบพนักงานสอบสวน ปคบ. หลังถูกออกหมายเรียกในฐานะพยาน มาให้ข้อมูลที่ตำรวจ ด้านเจ้าตัวปฏิเสธ พร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อเจ้าหน้าที่ ล่าสุดแจ้ง 2 ข้อหาผิด พ.ร.บ.คอมฯ -โฆษณาเกินจริง ด้านเจ้าตัวโต้ ยันไม่ได้ทำอะไรผิด


นางสาวณปภัช หรือ เจ๊นุช เดินทางเข้าพบตำรวจ ปคบ. ตามหมายเรียกครั้งที่ 1 เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา หลังพบเจ้าตัวไปปรากฏอยู่บนไลฟ์ของแม่ตั๊ก และสามี ผู้ต้องหาในคดีบนสื่อสังคมออนไลน์ขายทองและเคยได้รับทรัพย์สินจากผู้ต้องหาทั้งทองคำและรถยนต์หรู ซึ่งขณะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เจ๊นุชได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่าวันนี้เดินทางมาเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง พร้อมให้กันกับตำรวจโดยไม่มีสีหน้าเคร่งเครียด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ

ขณะที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตำรวจพร้อมทนายความของผู้ต้องหา ได้นำตู้เซฟสีดำที่ถูกนำมาจากบ้านพักของผู้ต้องหาภายในซอยรามอินทรา 65 ซึ่งเป็นตู้เซฟตู้ที่ 2 ที่ยังไม่ได้ทำการเปิด จึงได้ใช้ช่างกุญแจนำเครื่องมือมาเปิดตู้เซฟ โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนเปิดตู้เซฟได้ แต่กลับไม่พบทรัพย์สินมีค่าหรือหลักฐานอื่น ๆ เพิ่มเติม ภายในมีลักษณะเป็นช่องคล้ายช่องใส่นาฬิกา จำนวน 12 ช่อง พร้อมดันทรงนาฬิกา แต่ไม่พบนาฬิกาหรู ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจได้ตรวจยึดนาฬิกาหรูของผู้ต้องหามาได้แล้ว 6 เรือน ส่วนตู้แรกที่มีการเปิดไปแล้วก่อนหน้านี้ในบ้านพักภายในซอยรามอินทรา 65 พบเพียงเงินสดไม่กี่หมื่นบาท ผู้ต้องหาอ้างว่าเงินถูกนำไปคืนให้ผู้เสียหายบางส่วนแล้ว ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียหายที่เข้าร้องทุกข์กับตำรวจกว่า 300 คน ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ใช้ประกอบสำนวนคดี


พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า ตู้เซฟนี้ได้ยึดมาจากบ้านของผู้ต้องหาในวันที่จับกุม แต่ยังไม่สามารถเปิดได้ ก่อนหน้านี้จึงได้ไปพบผู้ต้องหาในเรือนจำ พร้อมกับทนายความ เพื่อขอความยินยอมให้เปิดตู้เซฟ แต่ผู้ต้องหาบอกว่าจำรหัสไม่ได้ และหากุญแจไม่พบ จึงต้องจัดหาช่างกุญแจเข้ามาเปิดเซฟ ซึ่งผู้ต้องหาทั้งคู่ให้การยินยอม โดยมีทนายเดินทางเข้ามาเฝ้าสังเกตการณ์ตลอดการเปิดตู้เซฟในครั้งนี้ด้วย

สำหรับรายการทรัพย์สินที่ตำรวจอายัดไปก่อนหน้านี้ มีทั้งรถยนต์หรู จำนวน 4 คัน โฉนดที่ดิน 16 แปลง อสังหาริมทรัพย์ นาฬิกาหรู 6 เรือน และทรัพย์สินต่าง ๆ รวมมูลค่าหลายล้านบาท ซึ่งทั้งหมดจะส่งรายงานให้ ปปง. ตรวจสอบทรัพย์สิน ว่าเข้าข่ายการฟอกเงินหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการสอบปากคำ “เจ๊นุช” อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง แล้วนั้น ทางพนักงานสอบสวนก็ได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหา ในความผิดฐานโฆษณาสรรพคุณอาหารเสริมอันเป็นเท็จ และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พร้อมนำตัวพิมพ์ลายนิ้วมือรับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอน


อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่คุมตัว เจ๊นุช เดินไปพิมพ์ลายนิ้วมือนั้น เจ้าตัวได้กล่าวกับสื่อมวลชนสั้นๆ พร้อมกับยืนยันว่า “วันนี้มาในฐานะพยาน ยังไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา และตนก็ไม่ได้ทำอะไรผิด หลักฐานชี้แจงของตนที่มีอยู่ทั้งหมดมอบให้กับทางตำรวจแล้ว ยืนยันว่าไม่เครียด 100%”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่พนักงานสอบสวน บก.ปคบ. แจ้งข้อกล่าวหา โฆษณาสรรพคุณอาหารเสริมอันเป็นเท็จ และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นั้นเป็นการแจ้งข้อกล่าวหาในส่วนของคดีรีวิวผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ซึ่งเป็นคนละคดีกับเคสร่วมไลฟ์ขายทองคำออนไลน์กับแม่ตั๊ก ที่มีการออกหมายเรียกให้มาพบวันนี้ ซึ่งในส่วนของคดีนี้เจ้าตัวยังอยู่ในฐานะของพยาน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำ.- 414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

ทหารกล้าเล่านาทีระทึก รอดตายจากระเบิดชายแดน

11 ส.ค.- ทหารกล้า เล่าเหตุการณ์ ลูกระเบิดจากฝั่งกัมพูชา ร่วงใส่จุดที่กำลังพลอยู่พอดี จนได้รับบาดเจ็บ ทีมข่าวลงพื้นที่อำเภอลานสัก จ.อุทัยธานี บ้านของ สิบโทปรีชา เสือบัว อายุ 24 ปี หัวหน้าชุดหมู่ปืนเล็กหมวดปืนเล็ก กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 4 ค่ายจิรประวัติ จังหวัดนครสวรรค์ เล่านาทีรอดชีวิตจากเหตุระเบิดที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ขณะประจำการอยู่ในบังเกอร์ ได้ยินเสียงปืนครกจากฝั่งกัมพูชา จึงรีบถอยตัวออกครึ่งหนึ่งเพื่อให้ลูกน้องหลบเข้าไปด้านในบังเกอร์  แต่จังหวะนั้นกระสุนระเบิดตกใส่ทันทีจนร่างกระเด็นและหมดสติ เหตุระเบิดทำให้สิบโทปรีชา ได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาซ้าย ขณะปฏิบัติหน้าที่พร้อมเพื่อนทหารอีก 3 นาย สิบโทปรีชา ยังบอกอีกว่า “หากต้องบาดเจ็บอวัยวะส่วนไหน ก็ยอม แต่จะไม่ยอมเสียชาติ” พร้อมเผยว่าได้ติดต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อขอกลับไปปฏิบัติหน้าที่ต่อ แม้ได้รับคำสั่งให้พักรักษาตัวก่อน แต่หากมีความจำเป็น เขาพร้อมกลับไปสู้เพื่อประเทศชาติทันที ทั้งนี้ ตัว สิบโทปรีชา และครอบครัวเชื่อว่า เป็นบารมี หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อยูร และหนังเสือ วัดพนมเศษเหนือ จังหวัดนครสวรรค์ รวมถึงหลวงพ่อเคลือบ วัดหนองกระดี่ […]

กต.เดินหน้าร้องเรียนกัมพูชา ปมทุ่นระเบิดสังหาร

11 ส.ค.- กระทรวงการต่างประเทศ รายงานผลการร้องเรียนกัมพูชาต่อองค์กรระหว่างประเทศ กรณีวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บ กระทรวงการต่างประเทศ ออกรายงาน “การดำเนินการของไทยต่อกรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mine Ban Convention) หรือ อนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Convention) สาระสำคัญ คือ ตามที่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 23 กรกฎาคม และ 9 สิงหาคม 2568 ทหารไทยรวม 11 นาย บาดเจ็บสาหัสจากการเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่วางใหม่โดยกองกำลังทหารกัมพูชา ในบริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี และช่องโดนเอาว์-กฤษณา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ตามลำดับ นั้น กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการภายใต้กรอบอนุสัญญา ออตตาวา เพื่อตอบโต้กัมพูชาโดย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา มีหนังสือถึงประธานการประชุมรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 จำนวน 3 ฉบับ เปิดเผยพฤติกรรมการวางทุ่นระเบิด PMN-2 […]

อุตุฯ เตือนไทยมีฝนเพิ่ม-ตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 11 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผย “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” ฝนตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก จับตาพายุไต้ฝุ่น “โพดุล” คาดเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน ก่อนขึ้นฝั่งจีนช่วง 13-14 ส.ค.นี้ ยันไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “โพดุล” (PODUL) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน […]

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย