ส่ง จนท.เก็บเลือด “ติ๊ก ชีโร่” แล้ว ขณะคู่กรณีที่เจ็บโอกาสรอดแค่ 10%

สน.คันนายาว 10 ต.ค. – ผกก.สน.คันนายาว เผยส่งตำรวจไปเก็บเลือดของ “ติ๊ก ชีโร่” ที่โรงพยาบาลแล้ว หลังเจ้าตัวอ้างเจ็บหน้าอก เป่าในที่เกิดเหตุไม่ไหว ด้านคู่กรณีที่บาดเจ็บ แพทย์เผยโอกาสรอดแค่ 10%


นายจีรวัฒน์ อายุ 56 ปี บิดาของ น.ส.เทียนพร อายุ 28 ปี และนายจักรภัคร อายุ 21 ปี 2 พี่น้องที่ถูก “ติ๊ก ชีโร่” นักร้องชื่อดัง ขับรถตู้พุ่งชน ตกสะพานสูง 10 เมตร เสียชีวิต ส่วนน้องชายอาการสาหัส เดินทางมาที่ สน.คันนายาว พร้อมเปิดเผยว่า ตอนนี้อาการของลูกชายคนเล็กยังสาหัส กะโหลกศีรษะร้าว กระดูกต้นคอแตกหัก อยู่ในอาการโคม่า แพทย์บอกว่ามีโอกาสรอด 10% และตอนนี้อยู่ระหว่างการประสานขอย้ายโรงพยาบาลไปยังโรงพยาบาลตามสิทธิ์ เนื่องจากไม่มีเงินรักษา โดยเมื่อคืนนี้ “ติ๊ก” ได้เข้ามากราบขอขมาและขอโทษ จะรับผิดชอบทั้งหมด ส่วนที่กังวลตอนนี้ คือเป็นห่วงลูกชายมากที่สุด ส่วนเรื่องคดีปล่อยให้ตำรวจดำเนินการ

ด้าน พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผู้กำกับการ สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับการประสานจากติ๊ก ชีโร่ ว่าจะขอไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลพญาไทก่อน เนื่องจากเจ็บหน้าอก โดยตนสั่งให้ตำรวจตามไปเก็บเลือดที่โรงพยาบาลแล้ว เพื่อตรวจวัดระดับแอลกอฮอลล์ โดยแพทย์ประเมินให้พักรักษาตัว ส่วนผลเลือดคาดว่าจะใช้เวลา 3 วัน จะรู้ผล ทั้งนี้ หากแพทย์อนุญาตให้กลับบ้าน ก็จะเรียกมาสอบปากคำทันที


สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้รับรายงานว่า เหตุเกิดขึ้นบนสะพานข้ามแยก โดยรถจักรยานยนต์มากัน 3 พี่น้อง โดย 1 ในนั้นทำขวดน้ำตกบนสะพาน จึงบอกให้หยุดรถและลงไปเก็บ ไม่นานรถของติ๊ก ชีโร่ ก็ขับขึ้นมาชนอย่างแรง โดยติ๊ก อ้างว่ามองไม่เห็นรถจักรยานยนต์จึงไม่ได้เบรก ส่วนสาเหตุที่ไม่ให้ติ๊ก เป่าแอลกอฮอล์ในที่เกิดเหตุนั้น ติ๊กมีอาการเจ็บหน้าอกไม่สามารถเป่าได้ จึงให้ไปตรวจที่โรงพยาบาล และติ๊กเองก็ไม่มีพฤติการณ์หลบหนีด้วย

สำหรับการแจ้งข้อกล่าวหาตอนนี้ยังไม่สามารถแจ้งได้เนื่องจากต้องรอผลการตรวจแอลกอฮอล์ในเลือด และหากผลการตรวจออกมามีแอลกอฮอล์ในเลือดก็จะแจ้งความดำเนินคดีกับติ๊กอย่างแน่นอน แต่หากผลออกมาไม่มีแอลกอฮอล์ในเลือด มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะแจ้งข้อหาประมาทร่วม นอกจากนี้ ผกก.สน.คันนายาว ยังบอกอีกว่าทางญาติของ ติ๊ก ชีโร่ ได้เตรียมเงินจำนวน 100,000 บาท เป็นค่าทำศพให้กับผู้เสียชีวิตและจะดูแลค่ารักษาพยาบาลพร้อมกับส่งคนเจ็บไปยังโรงพยาบาลตามที่ญาติร้องขอด้วย. -415-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”

วางระเบิด 4 ลูก เกาะกลางถนนหน้าโรงเรียน จ.นราธิวาส

เช้ามืดวันนี้ (21 พ.ย.) เกิดระเบิดขึ้นอีก 4 ลูก บริเวณเกาะกลางถนนหน้าโรงเรียนบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน