เปิดยุทธการระเบิดสะพานโจรครั้งใหญ่สุดในไทย

กทม. 9 ต.ค.-ผู้ช่วย ผบ.ตร. แถลงเปิดยุทธการระเบิดสะพานโจรครั้งใหญ่สุดในไทย จับ 2 ผู้ต้องหา พร้อมของกลาง simbox โทรศัพท์มือถือ และซิมการ์ดลงทะเบียนแล้วกว่าหมื่นชิ้น

วันที่ 9 ตุลาคม 2567 พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วยผบ.ตร.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) พร้อมด้วยตำรวจกก.1 บก.ป., กก.สสน. บก.ป. และ บก.ปอท. ร่วมกันแถลงเปิดยุทธการระเบิดสะพานโจร โดยจับกุม 2 ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นผู้แทนเครือข่าย (Retailer) ตรวจยึด simbox, โทรศัพท์มือถือ และซิมการ์ดลงทะเบียนแล้วนับหมื่นชิ้น


สำหรับยุทธการระเบิดสะพานโจรในวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบ 4 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 บ้านเลขที่ 538/1 ซอยแฮปปี้แลนด์ทาวน์เฮ้าส์ 4 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. พบเครื่อง Simbox จำนวน 28 เครื่อง (เปิดใช้งาน), ซิมการ์ดไทย ทุกเครือข่าย จำนวนประมาณ 10,000 ซิม โดยมีนายธีรภัทร รับเป็นผู้ดูแล โดยบ้านหลังดังกล่าว ลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้น เมื่อเข้าไปภายในบ้านชั้นล่างพบหลักฐาน SimBox พร้อมซิมมือถือจำนวนมาก พบผู้ต้องหา 2 รายเป็นชายไทยอายุ 68 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านและชายชาวจีนอายุ 33 ปี ซึ่งเป็นผู้ดูแลควบคุมระบบ

จุดที่ 2 บ้านเลขที่ 964 หมู่บ้านสินธร แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. พบเครื่องsimbox 20 เครื่อง, ซิมการ์ดไทย เปิดใช้งานแล้ว จำนวนประมาณ 2000 ซิม


จุดที่ 3 คอนโดแห่งหนึ่งตึก B ชั้น 6 ห้องเลขที่ 562/52 แขวงคลองตัน เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ พบเครื่อง Simbox จำนวน 5 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ จำนวนประมาณ 370 เครื่อง, ซิมการ์ดไทย เปิดใช้งานแล้ว จำนวนประมาณ 6000 ซิม โดยมี MR.Chuanguan Lin หรือ เซี่ยวหลิน สัญชาติจีน เป็นผู้ดูแล

จุดที่ 4 คอนโดแห่งหนึ่ง ตึก B ชั้น 7 ห้องเลขที่ 562/68 แขวงคลองตัน เขตบึงกุ่ม กทม. พบเครื่อง Simbox จำนวน 39 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ จำนวน 103 เครื่อง, ซิมการ์ดไทย เปิดใช้งานแล้ว จำนวนประมาณ 20 ซิม, เอกสารที่เกี่ยวข้อง และ ธนบัตรสกุลหยวน (ประเทศจีน) จำนวนหนึ่ง

พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าวว่า เป็นการตรวจค้นจับกุมครั้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเป็นการตัดวงจรของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่จะมาหลอกลวงคนไทย โดยจากการตรวจค้นสามารถยึด SimBox 100 เครื่องพร้อมเบอร์โทรศัพท์จำนวน 20,000 หมายเลข ซึ่งในการโทรหนึ่งครั้งสามารถโทรออกได้ประมาณ 3,000 หมายเลขต่อครั้ง


สำหรับวิธีการของคนร้ายก็ยังเป็นในรูปแบบเดิม โดยจะอาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน และจะมีการหลีกเลี่ยงเบอร์ที่โทรมาในต่างประเทศ เช่น +67 +68 ซึ่งจะมีการตั้งฐานในประเทศไทยเมื่อโทรไปหาผู้เสียหายเบอร์โทรศัพท์จะขึ้นเป็นเบอร์ประเทศไทย (+66) ทำให้ผู้เสียหายไม่ลังเลที่จะรับสายโทรศัพท์ ทั้งนี้หากมีการปิดซิมหรือซิมหมดอายุ ก็จะสามารถเปลี่ยนหมายเลขใหม่เข้ามาเพื่อเอาไปหลอกลวงในครั้งถัดไป

พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าวว่า หลังจากนี้ก็จะมีการหารือกับทางกสทช. ถึงมาตรการในการลงทะเบียนเบอร์โทรศัพท์มือถือที่มีการลงทะเบียนมากกว่า 5 ซิม และจะมีการขยายผลขบวนการนี้ต่อไป รวมถึงจะมีการตรวจสอบคนรับลงทะเบียนซิมด้าน

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า วันนี้มีการเข้าตรวจค้นทั้งหมด 4 จุด การที่พบซิมการ์ด และอุปกรณ์มือถือจำนวนมากครั้งนี้ถือว่าเป็นการทำลายวงจรของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ เนื่องจากหลักฐานที่ยึดมานั้นมีจำนวนมาก แต่เชื่อว่าในขบวนการนี้ยังมีตัวบงการ หลังจากนี้ก็จะมีการขยายผลต่อไป

จากการสอบสวนชายไทยอายุ 68 ปี รับว่าเป็นเจ้าของบ้าน เดิมก่อนหน้านี้ประกอบอาชีพเป็นคนขายซิมโทรศัพท์มาก่อนจึงมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องเบอร์โทรศัพท์ ได้ประกอบอาชีพนี้มาประมาณ 5 ปี โดยซิมที่ได้มาจะนำมาจดทะเบียนเป็นชื่อตัวเอง กว่า 10,000 เบอร์ โดยได้รับเป็นผลตอบแทน เบอร์ละ 2 บาท ส่วนซิมที่ได้มาได้มาจากการรับซื้อจากตัวแทน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เชื่อว่าชายไทยวัย 68 ปี รับหน้าที่ดูแลระบบ SimBox โดยมีชายชาวจีนเข้ามาดูแลเรื่องระบบ และเซ็ตระบบให้สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้

เบื้องต้นข่ายความผิด 2 ข้อหา คือความผิดฐาน “เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขาย เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้” มาตรา 11 ปรับ 2-5 แสน จำคุก 2-5 ปี และ ร่วมกันทำมีใช้นำเข้า นำออก หรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ร่วมกันใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคม”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. แต่งตั้งนายพล 250 ตำแหน่ง

1 ก.ย. – เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. บัญชีแต่งตั้งนายพลตำรวจ 250 ตำแหน่ง “บิ๊กเต่า” แห้ว “นพศิลป์” ได้ขึ้น พล.ต.ท. เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (รองประธาน ก.ตร.) เป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2568 วาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ถึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประจำปี 2568 โดยแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และโยกย้ายสับเปลี่ยน กว่า 250 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ก.ตร.ครบองค์ประชุม ขาดเพียงนายภูมิธรรม […]

“บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทนอดีตพระอลงกต

กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ส่วน “สมปอง” ยังอยู่ในข่ายถูกดำเนินคดี แม้อ้างว่าเป็นการยืมเงินและคืนไปบางส่วนแล้ว ขณะที่วง “พิงค์แพนเตอร์” ประสานเข้าพบตำรวจเร็วๆ นี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดี “อลงกตการละคร” ระบุว่า คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร และมีตัวละครที่สามารถดำเนินคดีได้หลายคน แต่ตำรวจต้องการพยานหลักฐานมาประกอบข้อมูลตรงนี้ให้ชัดเจนมากขึ้นก่อน ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามทยอยเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อย ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบขยายผลเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน โดยเฉพาะประเด็นที่มีคนใกล้ชิด อักษรย่อ นางสาว ว. ถือครองโฉนดที่ดินมูลค่ารวม 140 ล้านบาทนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบบุคคลเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในจำนวนนั้นยอมรับว่ามีอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ด้วย โดยทั้งคู่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กัน คือ เข้าไปหาผลประโยชน์ และไม่ใช่เพียงผลประโยชน์จากเงินวัดก้อนเดียว แต่หาผลประโยชน์จากกลุ่มเครือข่ายด้วย ซึ่งมีมูลค่าเงินจำนวนมาก และทางอดีตพระอลงกต ก็มองว่าตนเองถูกรังแก ถูกโกงเงินไป ทั้งเรื่องคอนเสิร์ต เรื่องที่ดิน และถือครองทรัพย์สินแทน […]

พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ

พรรคกล้าธรรม 30 ส.ค.-พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์ โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ ชี้ปล่อยให้ประเทศเกิดสุญญากาศไม่ได้ เผยภูมิใจไทยรับข้อเสนอ แก้ กม.ต้องไม่กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อเวลา 15.55 น. พรรคกล้าธรรม (กธ.) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้คณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และจะต้องมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ต่อไปว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้ร่วมกันพิจารณารับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคทุกท่าน เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการของพรรค รวมถึงพิจารณาข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทย โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า พรรคกล้าธรรม จะลงมติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สนับสนุนให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 เนื่องด้วยสถานการณ์ของประเทศไทยขณะนี้ จำเป็นที่จะต้องมีฝ่ายบริหารมาขับเคลื่อนและแก้ปัญหาให้กับประชาชนในทุกด้าน ทั้ง ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ ปัญหาสังคมด้านต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน โดยไม่สามารถประวิงเวลาไปได้อีก พรรคกล้าธรรม ได้แสดงจุดยืนของพรรคให้กับพรรคภูมิใจไทยทราบ คือ 1.พรรคกล้าธรรม ยึดถือ […]

“เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล

พรรคประชาธิปัตย์ 31 ส.ค.- “เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล กร้าว ถ้าหนุนก็ไม่เหลือความเป็นคน บอก รัฐประหาร 100 ครั้ง ก็ไม่เลวร้ายเท่าฮั้ว สว. ยกอำนาจให้คนเดียวชี้ขาดประเทศ ย้ำคดีเขากระโดง ต้องเอาผิดให้เด็ดขาด บอก 2-3 เดือน ก็ยุบสภาได้ ไม่ต้องรอ 4 เดือน นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุภายหลังการเจรจากับพรรคประชาชน ที่พรรคร่วมรัฐบาลรับเงื่อนไขทั้งหมดของพรรคประชาชน ว่า จริงๆ เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาชน ตนไปเป็นเพื่อนเขา ส่วนประเด็นเป็นเรื่องของทั้งสองพรรคต้องคุยกัน เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับเงื่อนไขทั้งหมดใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ปฏิบัติตามเงื่อนไขของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ส่วนจะนำข้อหารือระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน เข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยอมรับว่า อาจอยู่ในวาระอื่นๆ เนื่องจากมีวาระสำคัญอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคประชาชนและและข้อเสนอเพิ่มเติมของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยืนยันว่า […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมย่านการค้า อ.หล่มสัก ลดลงต่อเนื่อง สัญจรได้แล้ว

2 ก.ย. – น้ำท่วมย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ลดลงต่อเนื่อง ถนนหลายสายรถสัญจรได้แล้ว ขณะที่ จ.พิษณุโลก น้ำทะลักกัดเซาะถนนขาด ไหลท่วมบ้านเรือน ส่วน จ.แม่ฮ่องสอน น้ำป่าหลาก-ดินโคลนถล่ม เสียชีวิต 1 ราย ระดับน้ำที่ท่วมบ้านเรือน ร้านค้าตามชุมชน และย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ลดลง จากที่เคยท่วมสูงเกือบ 1 เมตร ลดเหลือ 20-30 เซนติเมตร รวมทั้งบริเวณแยกหอนาฬิกา ซึ่งน้ำท่วมลดลงแต่ยังมีน้ำไหลผ่านอยู่บ้าง และมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ถนนหลายสายรถยนต์สามารถสัญจรไปมาได้แล้ว แต่ถนนบางสายยังปิดการจราจร ป้องกันรถที่วิ่งผ่านทำให้น้ำทะลักเข้าร้านค้า เจ้าของร้านค้าบางส่วนเริ่มสำรวจความเสียหายของข้าวของเครื่องใช้ รวมทั้งสินค้าต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วม หลังแม่น้ำป่าสักที่ไหลผ่าน อ.หล่มสัก ลดลงต่ำกว่าพนังกั้นน้ำราวครึ่งเมตรแล้ว หากไม่มีฝนตกหรือมวลน้ำทางตอนเหนือเติมลงมา คาดว่าน้ำที่ท่วมในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก รวมทั้งบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรใน ต.ตาลเดี่ยว ที่อยู่ทางตอนใต้ จะลดลงเรื่อยๆ และเข้าสู่ภาวะปกติในเร็วๆ นี้ น้ำทะลักตัดถนนขาด ไหลท่วมบ้านเรือนที่ จ.พิษณุโลก น้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ที่หลากลงคลองเนินกุ่ม กัดเซาะถนนบ้านเหนือ ต.เนินกุ่ม […]

ปชน.เสียงแตก! โยน กก.บห.ชี้ขาด 3 ก.ย. โหวตใครนั่งนายกฯ

พรรคประชาชน 2 ก.ย. – ปชน.เสียงแตก! นัด 3 ก.ย. ให้ กก.บห.ชี้ขาด ดัน “อนุทิน” หรือไม่ โหวตเลือกใคร “ปกรณ์วุฒิ” ออกโรงสยบ ยันยังไม่มีมติวันนี้ เป็นเพียงขั้นตอนฟังความเห็น แจงไม่ได้เปลี่ยนตัว “เท้ง” แถลง แต่เพราะเจ้าตัวอยากคุย สส.ต่อ “ไอติม” จี้ “เพื่อไทย” รีบยุบสภา นาฬิกาเดินอยู่ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน ลงมาให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม สส.ของพรรค ถึงทิศทางการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยนายปกรณ์วุฒิ กล่าวยืนยันว่า วันนี้ไม่มีมติ เป็นการรับฟังความเห็น สส. ฟังทุกองคาพยพของพรรค ล่าสุดวานนี้พรรคส่งข้อความให้สมาชิกพรรคทั่วประเทศราว 1 แสนคน ให้ความเห็นต่อการเลือกนายกฯ ณ ตอนนี้มีสมาชิกจำนวนมากให้ความเห็นมาแล้ว ในการประชุมวันนี้ เนื่องจากเมื่อวานมี […]

เพื่อไทยดันเต็มที่ “ชัยเกษม” แคนดิเดตนายกฯ คนสุดท้าย

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ขอบคุณ สส. เพื่อไทย ที่ยังอยู่กับพรรค พร้อมให้กำลังใจ บอกการต่อสู้ตั้งรัฐบาลยังเดินหน้าต่อ ด้านโฆษก เผยที่ประชุม ดัน “ชัยเกษม” แคนดิเดตนายกฯ คนสุดท้ายเต็มที่ ไม่มียกมือหนุนคนอื่น การประชุม สส. ประจำสัปดาห์ของพรรคเพื่อไทย วันนี้ (2 ก.ย.) โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมประชุมกับ สส. พรรคด้วย ซึ่งในครั้งนี้มีนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย มาร่วมประชุมด้วย ภายหลังใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า วันนี้มีสมาชิกเข้าร่วมประชุมเยอะมาก ซึ่งสัปดาห์นี้จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สส.) 3 วัน ซึ่งวันในวันพุธที่ 3 ก.ย. จะประชุมพิจารณากฎหมายร่วมกัน ส่วนวันพฤหัสบดีที่ 4 ก.ย. จะเป็นการรายงานหน่วยงานต่าง ๆ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]