เปิดยุทธการระเบิดสะพานโจรครั้งใหญ่สุดในไทย

กทม. 9 ต.ค.-ผู้ช่วย ผบ.ตร. แถลงเปิดยุทธการระเบิดสะพานโจรครั้งใหญ่สุดในไทย จับ 2 ผู้ต้องหา พร้อมของกลาง simbox โทรศัพท์มือถือ และซิมการ์ดลงทะเบียนแล้วกว่าหมื่นชิ้น

วันที่ 9 ตุลาคม 2567 พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วยผบ.ตร.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) พร้อมด้วยตำรวจกก.1 บก.ป., กก.สสน. บก.ป. และ บก.ปอท. ร่วมกันแถลงเปิดยุทธการระเบิดสะพานโจร โดยจับกุม 2 ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นผู้แทนเครือข่าย (Retailer) ตรวจยึด simbox, โทรศัพท์มือถือ และซิมการ์ดลงทะเบียนแล้วนับหมื่นชิ้น


สำหรับยุทธการระเบิดสะพานโจรในวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบ 4 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 บ้านเลขที่ 538/1 ซอยแฮปปี้แลนด์ทาวน์เฮ้าส์ 4 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. พบเครื่อง Simbox จำนวน 28 เครื่อง (เปิดใช้งาน), ซิมการ์ดไทย ทุกเครือข่าย จำนวนประมาณ 10,000 ซิม โดยมีนายธีรภัทร รับเป็นผู้ดูแล โดยบ้านหลังดังกล่าว ลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้น เมื่อเข้าไปภายในบ้านชั้นล่างพบหลักฐาน SimBox พร้อมซิมมือถือจำนวนมาก พบผู้ต้องหา 2 รายเป็นชายไทยอายุ 68 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านและชายชาวจีนอายุ 33 ปี ซึ่งเป็นผู้ดูแลควบคุมระบบ

จุดที่ 2 บ้านเลขที่ 964 หมู่บ้านสินธร แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. พบเครื่องsimbox 20 เครื่อง, ซิมการ์ดไทย เปิดใช้งานแล้ว จำนวนประมาณ 2000 ซิม


จุดที่ 3 คอนโดแห่งหนึ่งตึก B ชั้น 6 ห้องเลขที่ 562/52 แขวงคลองตัน เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ พบเครื่อง Simbox จำนวน 5 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ จำนวนประมาณ 370 เครื่อง, ซิมการ์ดไทย เปิดใช้งานแล้ว จำนวนประมาณ 6000 ซิม โดยมี MR.Chuanguan Lin หรือ เซี่ยวหลิน สัญชาติจีน เป็นผู้ดูแล

จุดที่ 4 คอนโดแห่งหนึ่ง ตึก B ชั้น 7 ห้องเลขที่ 562/68 แขวงคลองตัน เขตบึงกุ่ม กทม. พบเครื่อง Simbox จำนวน 39 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ จำนวน 103 เครื่อง, ซิมการ์ดไทย เปิดใช้งานแล้ว จำนวนประมาณ 20 ซิม, เอกสารที่เกี่ยวข้อง และ ธนบัตรสกุลหยวน (ประเทศจีน) จำนวนหนึ่ง

พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าวว่า เป็นการตรวจค้นจับกุมครั้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเป็นการตัดวงจรของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่จะมาหลอกลวงคนไทย โดยจากการตรวจค้นสามารถยึด SimBox 100 เครื่องพร้อมเบอร์โทรศัพท์จำนวน 20,000 หมายเลข ซึ่งในการโทรหนึ่งครั้งสามารถโทรออกได้ประมาณ 3,000 หมายเลขต่อครั้ง


สำหรับวิธีการของคนร้ายก็ยังเป็นในรูปแบบเดิม โดยจะอาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน และจะมีการหลีกเลี่ยงเบอร์ที่โทรมาในต่างประเทศ เช่น +67 +68 ซึ่งจะมีการตั้งฐานในประเทศไทยเมื่อโทรไปหาผู้เสียหายเบอร์โทรศัพท์จะขึ้นเป็นเบอร์ประเทศไทย (+66) ทำให้ผู้เสียหายไม่ลังเลที่จะรับสายโทรศัพท์ ทั้งนี้หากมีการปิดซิมหรือซิมหมดอายุ ก็จะสามารถเปลี่ยนหมายเลขใหม่เข้ามาเพื่อเอาไปหลอกลวงในครั้งถัดไป

พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าวว่า หลังจากนี้ก็จะมีการหารือกับทางกสทช. ถึงมาตรการในการลงทะเบียนเบอร์โทรศัพท์มือถือที่มีการลงทะเบียนมากกว่า 5 ซิม และจะมีการขยายผลขบวนการนี้ต่อไป รวมถึงจะมีการตรวจสอบคนรับลงทะเบียนซิมด้าน

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า วันนี้มีการเข้าตรวจค้นทั้งหมด 4 จุด การที่พบซิมการ์ด และอุปกรณ์มือถือจำนวนมากครั้งนี้ถือว่าเป็นการทำลายวงจรของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ เนื่องจากหลักฐานที่ยึดมานั้นมีจำนวนมาก แต่เชื่อว่าในขบวนการนี้ยังมีตัวบงการ หลังจากนี้ก็จะมีการขยายผลต่อไป

จากการสอบสวนชายไทยอายุ 68 ปี รับว่าเป็นเจ้าของบ้าน เดิมก่อนหน้านี้ประกอบอาชีพเป็นคนขายซิมโทรศัพท์มาก่อนจึงมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องเบอร์โทรศัพท์ ได้ประกอบอาชีพนี้มาประมาณ 5 ปี โดยซิมที่ได้มาจะนำมาจดทะเบียนเป็นชื่อตัวเอง กว่า 10,000 เบอร์ โดยได้รับเป็นผลตอบแทน เบอร์ละ 2 บาท ส่วนซิมที่ได้มาได้มาจากการรับซื้อจากตัวแทน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เชื่อว่าชายไทยวัย 68 ปี รับหน้าที่ดูแลระบบ SimBox โดยมีชายชาวจีนเข้ามาดูแลเรื่องระบบ และเซ็ตระบบให้สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้

เบื้องต้นข่ายความผิด 2 ข้อหา คือความผิดฐาน “เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขาย เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้” มาตรา 11 ปรับ 2-5 แสน จำคุก 2-5 ปี และ ร่วมกันทำมีใช้นำเข้า นำออก หรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ร่วมกันใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคม”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่ายกครัว

ตร.เร่งหาสาเหตุฆ่ายกครัว 4 ศพ อดีต สท.สงขลา

คดียิงยกครัว 4 ศพ ครอบครัวอดีต สท.สงขลา คาดภรรยาวางยานอนหลับ ก่อนลงมือยิงสามี ลูกชาย ลูกสาว และยิงตัวเองตายตาม ตำรวจเร่งสอบปมก่อเหตุ

ช้างแม่แตงตกใจเสียงน้ำป่าล้มอีกเชือก

น้ำป่าที่หลากลงลำน้ำแม่แตงทะลักท่วมบ้านเมืองกื้ด อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ แหล่งเลี้ยงช้างใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ เมื่อ 5 วันที่แล้ว ทำให้ช้างพังวัย 70 ปี ของปางช้างแห่งหนึ่งตื่นตกใจน้ำป่าจนป่วยและล้มลงอีกเชือก ขณะที่ประธานศูนย์บริบาลช้าง มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ซึ่งถูกโจมตีทั้งการเลี้ยงช้างแบบสุดโต่ง รวมถึงการอพช้างหนีน้ำท่วมล่าช้า ขอจบดราม่ายืนยันพิสูจน์ตัวเองมา 40 ปีแล้ว

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44-45

วันแรกของการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 44-45 ไทยที่มีบทบาทสำคัญในอาเซียน ได้เสนอแนะประเด็นสำคัญเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการแก้ปัญหาและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ในอาเซียน โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

รรท.ผบ.ตร. ประชุมเร่งรัดคดีหลอกขายทอง

รรท.ผบ.ตร. ประชุมเร่งรัดคดีหลอกขายทอง กำชับดำเนินการเด็ดขาด และสั่งตรวจสอบธุรกิจขายตรงที่ตกเป็นข่าว พร้อมเปิดสายด่วน 1599 รับแจ้งเบาะแส

ส่องความเสียหายเมืองกื้ด ถูกน้ำซัดแรงสุดในรอบ 100 ปี

น้ำจากลำน้ำแม่แตงที่ทะลักเข้าท่วมตำบลกื้ดช้าง อำเภอแม่แตง ซึ่งเป็นทั้งแหล่งเลี้ยงช้างและแหล่งเที่ยวสำคัญของเชียงใหม่ เมื่อ 5 วันก่อน ความแรงของกระแสน้ำสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง บ้านเรือน ร้านอาหาร รวมทั้งปางช้างขนาดเล็กที่อยู่ริมน้ำถูกกระแสน้ำกวาดเรียบเป็นหน้ากลอง ชาวบ้านบอกว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปี

นายกฯ หารือทวิภาคีกับสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนฯ

นายกฯ หารือทวิภาคีกับสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลาม พร้อมผลักดัน MOU ความร่วมมือทางด้านฮาลาลและความมั่นคงทางอาหารระหว่างกัน