สพฐ. เร่งเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสีย เข้มมาตรการทัศนศึกษา

2 ต.ค.- สพฐ. เร่งเยียวยาครอบครัวผู้สูญเสีย เหตุรถบัสไฟไหม้ พร้อมวางมาตรการทัศนศึกษาเข้มข้น


วันที่ 2 ตุลาคม 2567 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า จากกรณีรถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนและครูโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม สพป.อุทัยธานี เขต 2 ประสบอุบัติเหตุเกิดเพลิงไหม้ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายรายนั้น ล่าสุดได้มีการสรุปข้อมูลเบื้องต้น คือ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 โรงเรียนได้พานักเรียนไปทัศนศึกษา จำนวน 112 คน ประกอบด้วยนักเรียนชั้นอนุบาล 2 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยมีครู นักการภารโรง และนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูผู้ควบคุมเดินทางไปด้วย จำนวน 15 คน ซึ่งได้จ้างเหมารถบัสเป็นจำนวน 3 คัน และคันที่เกิดเหตุเป็นคันที่ 2 มีผู้โดยสาร จำนวน 45 คน โดยผู้ประสบเหตุนั้น มีผู้ที่ไม่สามารถออกจากรถได้ จำนวน 23 ราย เป็นครูและนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู จำนวน 3 ราย และนักเรียน จำนวน 20 ราย ซึ่งทีมกู้ภัยได้นำร่างไปพิสูจน์อัตลักษณ์ ณ สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจแล้ว มีผู้ไม่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 19 คน เป็นครู 3 คน และนักเรียน จำนวน 16 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเด็กนักเรียนชั้น ป.1 ป.3 และ ม.3 รวมจำนวน 3 คน ทั้งหมดอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับผู้ป่วยทุกคนไว้เป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ อีกด้วย

สำหรับเด็กที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 89 คน ในจำนวนนี้ มีผู้ปกครองมารับกลับที่กรุงเทพมหานครและรับกลับระหว่างทาง จำนวน 35 คน ส่วนนักเรียนที่เหลืออีก 54 คน และครู 7 คน ได้มีรถมาส่งจำนวน 3 คัน โดยได้รับการประสานจัดหารถจากรัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคม ซึ่งได้เดินทางจากศูนย์ประสานงานโครงการพระราชดำริและความมั่นคง (ศปร.) กองบัญชาการกองทัพไทย ถึงโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม โดยสวัสดิภาพ และมีผู้ปกครองมารับเด็กกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ในส่วนของญาติผู้ประสบภัยได้เข้าพัก ณ หอพัก สกสค. จำนวน 31 คน โดยสำนักงาน สกสค. สนับสนุนค่าห้องพัก อาหารว่างและน้ำดื่ม และ สพฐ. สนับสนุนพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา (พสน.) ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 (สพม.กท.1) ดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกให้แก่ญาติผู้ประสบเหตุ จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (โรงพยาบาลเด็ก) สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ หอพัก สกสค. และสนับสนุนรถตู้รับส่ง และล่าสุดวันนี้ (2 ตุลาคม 2567) สพฐ. ได้จัดเตรียมอาหารเช้าและอาหารกลางวันให้แก่ญาติผู้ประสบภัย พร้อมทั้งจัดบริการรถตู้รับส่งจากหอพัก สกสค. ไปยังโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการจัดเก็บข้อมูลและรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้อง ในการขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยาต่อไป


“จากการประชุมวันนี้ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. ได้มอบนโยบายแก่หน่วยงานในสังกัด ให้งดการทัศนศึกษาที่ไม่จำเป็น ยกเว้นหากจำเป็นต้องไปเพื่อประโยชน์ต่อการศึกษาเรียนรู้ เช่น ค่ายลูกเสือ ให้วางมาตรการความปลอดภัยให้ละเอียด โดยผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นผู้รับผิดชอบหลัก เนื่องด้วยการทัศนศึกษายังเป็นสิ่งจำเป็นต่อการเรียนรู้ แต่ก่อนเดินทางต้องเช็กสภาพความพร้อมของรถ และซักซ้อมการดำเนินการป้องกันเหตุฉุกเฉินด้วย สำหรับการเยียวยาครอบครัวผู้ประสบเหตุ และการประกอบพิธีทางศาสนา ให้ทาง สพฐ. เป็นหน่วยกลางในการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การช่วยเหลือครอบคลุมทุกมิติ โดยเบื้องต้น สพฐ. ได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยและครอบครัว รวม 500,000 บาท และได้เตรียมประสานขอพระราชทานเพลิงศพให้แก่ผู้เสียชีวิตทุกรายแล้ว โอกาสนี้ สพฐ. ขอขอบคุณโรงเรียนและหน่วยงานต่างๆ ที่ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนด้านที่พัก อาหาร และรถรับส่ง อาทิ โรงเรียนเบญจมราชาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนศรีอยุธยาในพระอุปถัมภ์ โรงเรียนวัดมกุฏกษัตริย์ โรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนสายปัญญาฯ โรงเรียนพญาไท โรงเรียนพระยาประเสริฐสุนทราศรัย(กระจ่าง สิงหเสนี) สำนักงาน สกสค. และคุรุสภา เป็นต้น” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว

ทั้งนี้ ในช่วงบ่าย รมว.ศธ. พร้อมด้วย เลขาธิการ กพฐ. ได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ ที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (โรงพยาบาลเด็ก) และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเด็กนักเรียนปลอดภัยและอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด จากนั้นได้เดินทางไปยังสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญเสีย และร่วมส่งร่างผู้เสียชีวิตกลับไปยังภูมิลำเนา เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป. 416.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

แม่คะนิ้งโผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดอุทยานฯ พรุ่งนี้

จังหวัดเลย อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ “แม่คะนิ้ง” โผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) หลังปิดมา 9 วัน จากเหตุช้างป่า

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิขยับลงอีก 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1 – 2 องศาฯ ยอดดอยและยอดภูหนาวจัด มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง

ยิงพรานล่าหมูป่า

เพื่อนรับเป็นคนยิงนายพรานวัย 52 อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า

เพื่อนเปิดปากรับสารภาพเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายพรานวัย 52 ปี เสียชีวิตในสวนผลไม้ อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า ยืนยันไม่ได้มีปัญหาหรือมีเรื่องกันมาก่อน