เร่งสอบหาที่มา รถคันเกิดเหตุขออนุญาตติดตั้งถังก๊าซ 6 ถัง แต่พบ 11 ถัง

2 ต.ค. – กรมการขนส่ง ยอมรับบริษัทรถคันเกิดเหตุขออนุญาตติดตั้งถังก๊าซ 6 ถัง แต่ในรถพบถังก๊าซ 11 ถัง เร่งตรวจสอบหาที่มา ด้าน รรท.ผบ.ตร.ยัน คนขับมีความผิดฐานประมาท รู้ว่ารถมีปัญหาแต่ฝืนขับต่อ ส่งผลสูญเสีย 23 ชีวิต


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะ แถลงความคืบหน้ากรณีรถบัสทัศนศึกษาของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดอุทัยธานี เกิดเพลิงไหม้ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตที่มีทั้งครูและเด็กรวม 23 คน บาดเจ็บสาหัส 3 คน และรอดชีวิต 19 คน โดยก่อนการแถลงข่าว พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้ขอความร่วมมือสื่อมวลชน ยืนสงบนิ่งไว้อาลัย เพื่อแสดงออกถึงความเสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเวลา 1 นาที

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เปิดเผยว่า เมื่อคืนหลังจากนายสมาน คนขับรถ เข้ามอบตัวที่ สภ.วิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ก่อนที่จะนำตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.คูคต จังหวัดปทุมธานี และขณะนี้ยังอยู่ในการควบคุมของตำรวจ โดยนายสมานให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน ถึงองค์ประกอบความผิด รวมทั้งยังต้องสอบสวน และพิจารณาถึงความผิดของผู้ประกอบการด้วย โดยเมื่อวานนี้หลังเกิดเหตุ พยานในที่เกิดเหตุ ระบุว่าได้ยินเสียงเหมือนยางล้อหน้าระเบิด จนทำให้รถเสียหลัก ชนกับรถที่ขับอยู่บริเวณนั้น ก่อนจะได้ไปชนแบริเออร์ ซึ่งจากการสอบปากคำ นายสมาน อ้างว่า ได้ยินเสียงลูกสูบของรถดัง แต่ไม่ได้จอดดู และขับรถต่อ จนรถเสียหลักดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า คนขับรู้อยู่แล้วว่ารถมีปัญหา แต่ไม่หยุดรถ อพยพผู้โดยสาร และตรวจสอบสภาพรถ จึงแสดงให้เห็นถึงความประมาทเลินเล่อที่ก่อให้เกิดความสูญเสียร้ายแรง


ส่วนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ต้องรอความชัดเจน รอการตรวจพิสูจน์หลักฐานจากผู้เชี่ยวชาญก่อน แต่เบื้องต้นสันนิษฐานสาเหตุได้ว่า เกิดจากอุปกรณ์ส่วนควบบกพร่อง จนเกิดประกายไฟ จนเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้

ส่วนการตรวจรถบัสคันเกิดเหตุ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก ดำเนินการตรวจสภาพรถเรียบร้อยแล้ว แต่ยังต้องเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเพิ่ม เช่น รอยล้อรถ และพยานหลักฐานอื่นอีกหลายอย่าง เพื่อประกอบในสำนวน โดยเฉพาะ GPS ของรถคันดังกล่าวว่า ขณะที่เกิดเหตุใช้ความเร็วเท่าไหร่

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยังเปิดเผยถึงการพิสูจน์อัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิต ขณะนี้ยืนยันได้แล้ว 23 ราย แต่เก็บดีเอ็นเอมาเทียบเคียงได้ 22 รายแล้ว ส่วนอีก 1 ราย อยู่ระหว่างการรอครอบครัว มาเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอมาเทียบเคียง ซึ่งในวันนี้จะนำส่งร่าง ผู้เสียชีวิตทั้ง 22 ราย ไปยังจังหวัดอุทัยธานี โดย 1 ศพ จะใช้รถ 2 คัน แบ่งเป็น รถของมูลนิธิบรรจุร่างผู้เสียชีวิต และรถฉุกเฉิน สำหรับครอบครัว จัดเป็น 3-4 ขบวน โดยมีมีรถตำรวจนำทาง และปิดทาง ซึ่งเมื่อถึงที่จังหวัดอุทัยธานี จะมีผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี รอรับ ก่อนจะส่งต่อ ร่างผู้เสียชีวิตให้กับครอบครัว ไปบำเพ็ญกุศล ทั้งนี้ระหว่างที่ผ่านจุดเกิดเหตุ จะหยุดรถให้ครอบครัว ได้ทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณด้วย


นายเอกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่ารถคันดังกล่าวตรวจสอบจดทะเบียน กลับกรมการขนส่งทางบกเมื่อปี 2513 โดยมีการจดทะเบียนใหม่อีกครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2541 ที่มีการดำเนินการตามขั้นตอนของโครงการขนส่งทางบก มีการรับรองโดยวิศวกร ส่วนรายละเอียดว่าระหว่างทางว่ารถคันดังกล่าวมีการจดทะเบียนหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีการจดทะเบียนที่ใด นอกจากนี้รถคันดังกล่าวมีการต่อทะเบียนหรือต่ออายุภาษีเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 วันสิ้นอายุภาษี 30 มิถุนายน 2568 ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบก ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว การตรวจสอบประตูฉุกเฉินพบว่าเปิดได้แต่ไม่ได้หมายความว่าขณะเกิดเหตุ ประตูจะสามารถเปิดได้หรือไม่ เนื่องจากขณะที่ไปตรวจนั้นเป็นการตรวจหลังจากที่รถเกิดอุบัติดหตุไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ไม่พบค้อนทุบกระจกซึ่งเป็นอุปกรณ์นิรภัยที่ควรจะมีติดไว้ในรถ ส่วนกรณีที่อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยมีมากหรือน้อยต้องไปดูว่าทางกรมการขนส่งทางบกกำหนดมาตรฐานไว้อย่างไร ซึ่งในหลักเกณฑ์และระเบียบมีกำหนดไว้อยู่แล้วว่าอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยต้องจะมีอะไรบ้าง

พร้อมบอกว่าตัวรถไม่มีปัญหาแต่ตัวเครื่องยนต์มีการดัดแปลง ซึ่งการที่นำรถเข้าไปในอู่ที่มีการดัดแปลงนั้นอยากให้มองว่าไม่ใช่การดัดแปลงแต่เป็นการทำขึ้นมาใหม่ เบื้องต้นพบว่ามีถังก๊าซเชื้อเพลิง 11 ถัง แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีการขออนุญาตติดตั้งไว้แค่ 6 ถัง ซึ่งจะต้องอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนข้อเท็จจริง ขณะนี้พักใช้ใบอนุญาตผู้ประกอบการขนส่ง พักใช้ใบอนุญาตขับรถของผู้ขับรถ รวมถึงยกเลิกการขึ้นทะเบียนบุคลากรจัดการด้านความปลอดภัยในการขนส่งของบริษัทนี้เป็นที่เรียบร้อย

ซึ่งตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดไว้นั้นบนถนนเส้นที่เหตุมีการจำกัดความเร็วให้รถวิ่งไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นรถคันดังกล่าวใช้ความเร็วอยู่ที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งในประเด็นนี้รถคันดังกล่าวไม่ได้ใช้ความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนด แต่ถึงอย่างไรจะต้องรอผลการตรวจสอบ GPS อย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง.-414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย