สมุทรปราการ 19 ก.ย. – กรมศุลกากรร่วมกับตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกันเข้าตรวจค้นตู้คอนเทนเนอร์ภายในท่าเรือแห่งหนึ่งย่านจังหวัดสมุทรปราการ ที่คาดเป็นสิ่งของนำเข้าผิดกฎหมาย จากการตรวจค้น พบเป็น pot บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ จำนวนมาก
นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี (โฆษกกรมศุลกากร) และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมกันเปิดตู้สินค้าที่คาดว่าภายในจะมีบุหรี่ไฟฟ้า ภายในท่าเรือแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ
โดยตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวเป็นตู้ที่กรมศุลกากรล็อกไว้ เนื่องจากมีสายลับแจ้งว่ามีการลักลอบซุกซ่อนและนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า โดยตู้ดังกล่าวเดินทางโดยเรือเข้ามาที่ประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 พ.ค.67 ซึ่งตามขั้นตอนผู้นำเข้าต้องประสานมารับสินค้าเพื่อเสียภาษี แต่กลับพบว่าไม่มีการมาทำเรื่อง ทางกรมศุลกากรจึงส่งหนังสือให้เจ้าของมาดำเนินการภายใน 30 วัน ในช่วงมิถุนายนที่ผ่านมา แต่เจ้าของก็ยังไม่ดำเนินการ ทำให้กรมศุลกากรจำเป็นต้องอายัดสินค้าภายในตู้คอนเทนเนอร์ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาทำการเปิดตู้เพื่อตรวจสอบสินค้าภายในว่าเป็นสินค้าประเภทใดและถูกกฎหมายหรือไม่
ภายหลังการตรวจค้นสินค้าภายในตู้คอนเทนเนอร์ น้ำหนักกว่า 30 ตัน โดยใช้เวลาไปประมาณครึ่งชั่วโมง ก็พบวัตถุต้องสงสัย ห่อหุ้มด้วยพลาสติกสี เขียว ขี้ม้า จำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดถูกเก็บไว้บริเวณกลางตู้คอนเทนเนอร์ ป้องกันการเปิดตู้ตรวจสอบ นอกจากนี้ยังพบสินค้าประเภทพลาสติกและกระดาษ ซึ่งเป็นสินค้าถูกต้องตามกฎหมาย ปะปน โดยมีการใช้สินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมายไว้บริเวณหัวท้าย ตู้คอนเทนเนอร์
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า พบกล่องบรรจุสินค้าห่อหุ้มพลาสติกสีเขียวขี้ม้า จำนวนกว่า 100 กล่อง มีทั้งกล่องใหญ่และกล่องเล็ก ภายในจะมี port บุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงน้ำยาบุหรี่ กล่องละจำนวน 600 ชิ้น จากการตรวจสอบพบว่าน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่พบในวันนี้เป็นนิโคติน 100% ซึ่งมีอันตรายสูงมากโดยเฉพาะหากผู้สูบนั้นเป็นเยาวชน สินค้าที่พบในวันนี้มีหลากหลายยี่ห้อ
ด้านนายกองตรี ธนกฤต เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า pot บุหรี่ไฟฟ้า ทั้งส่วนหัว และตัวพอที่สมบูรณ์และน้ำยา บุหรี่ ไฟฟ้า รวมกว่า 400,000 ชิ้น ซึ่งถือเป็นการจับกุมที่มากที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า สินค้าดังกล่าวมีการสำแดงว่าเป็นพลาสติก
ด้านนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ซึ่งเป็นผู้ร้องเรียนในเขตนี้ ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า สำหรับบุหรี่ไฟฟ้าลอตนี้ซึ่งถือเป็นลอตใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีการจับกุมมาพบว่าเจ้าของเป็นคนจีน ซึ่งเป็นเจ้าพ่อรายใหญ่ อาศัยอยู่กับที่จังหวัดสมุทรสาคร คนในวงการทราบกันดีว่าเฮียเจนต์ ในการนำสินค้าประเภทบุหรี่ไฟฟ้าจากประเทศจีนเข้ามาสู่ประเทศไทย ทำมาแล้วเป็นเวลากว่า 2 ปี และสินค้าลอตนี้เป็นการขยายผลมาจากการจับกุม บุหรี่ไฟฟ้าในโกดังพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เมื่อ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในประเทศไทยมีผู้นำเข้าในประเทศไทยเพียง 3 เจ้าเท่านั้น ซึ่งเป็นคนจีนทั้งหมด ขณะนี้มีรายชื่อหมดแล้ว อยู่ระหว่างการขยายผล.-414-สำนักข่าวไทย