กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – วิศวกรสาวสุดทน ร้องสายไหมต้องรอด หลังเพื่อนบ้านปล่อยสุนัขถ่ายเรี่ยราดนานหลายปี ร้องนายก อบต. กลับบอกว่าให้ทำใจรับสภาพ เนื่องจากเป็นเพื่อนกับเจ้าของสุนัข
วิศวกรสาวเดินทางมาจาก จ.สระบุรี เพื่อมาร้องกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมเล่าว่า ตนซื้อบ้านหลังนี้ต่อจากเจ้าของบ้านคนเก่าเมื่อ 3 ปีก่อน โดยคู่กรณีเป็นเพื่อนบ้านตรงข้าม มีสุนัขและแมว อย่างละ 1 ตัว และชอบปล่อยสุนัขมาขี้หน้าบ้านโดยไม่มาตามเก็บ และในช่วงนั้นแมวของบ้านคู่กรณีเข้ามาที่บ้านตนและชนกระถางต้นไม้แตก ตนจึงเขียนข้อความในกระดาษไปให้เพื่อนบ้านว่า “รบกวนดูแมวหน่อยนะคะ มาชนกระถางแตกเมื่อคืนค่ะ”
หลังจากนั้นคู่กรณีมีการด่าทอตนมาโดยตลอด เป็นการด่าเสียๆ หายๆ และเป็นคำหยาบทุกคำ ตนจึงเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.หนองแค แต่ทางพนักงานสอบสวนแจ้งกลับมาว่าต้องไปร้องที่นายก อบต. เพราะในส่วนของถนนหน้าบ้านเป็นเขตรับผิดชอบของ อบต. หลังจากนั้นตนจึงโทรไปหานายก อบต. โดยนายก อบต. รับปากจะลงพื้นที่มาดู
หลังจากนั้นตนทำป้ายไวนิลติดหน้าบ้านว่า “ห้ามปล่อยหมาขี้หน้าบ้านเด็ดขาด” ทำให้เพื่อนบ้านคู่กรณีเดือดหนัก ด่ากลับมาว่า “หมาขี้บนถนนสาธารณะ ถ้าไม่อยากให้ขี้หมาเข้าบ้านก็ปิดประตูบ้านสิ” แต่ถึงให้ปิดบ้านยังไง แมวบ้านเขาก็กระโดดข้ามรั้วไปขี้ในบ้านอยู่ดี โดยสุนัขที่มาขี้มีทั้งหมด 4 หลัง หลังจากมีการแจ้งความและแจ้งเรื่องไปยังนายก อบต. ตอนแรกนายก อบต. พูดจากับตนดีมาก แต่พอรู้ว่าหนึ่งในเจ้าของสุนัขเป็นตำรวจ และเป็นเพื่อนที่รู้จักกัน ก็พูดจาไม่ดีใส่ บอกว่าให้ตนยอมรับสภาพ เพราะตนมาทีหลัง เขาไม่อยากไปทะเลาะกับเจ้าของสุนัขเป็นสิบคน เพื่อแก้ปัญหาให้ตนเพียงคนเดียว และไล่ให้ตนไปแจ้งความกับตำรวจ และให้ไปแจ้งที่ศูนย์ดำรงธรรม
โดยระยะเวลาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ตนเคยไปแจ้งความมาแล้วถึง 4 ครั้ง และไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรม 5 ครั้ง แต่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือมีการดำเนินการใดๆ ขณะนี้ตนได้จ้างทนายความเพื่อเอาผิดกับเพื่อนบ้านคู่กรณี ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน
หลังจากเหตุดังกล่าว ตนได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองจรเข้ ในความผิดตามมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่ขณะนี้ผ่านไปกว่า 2 เดือนแล้วยังไม่มีความคืบหน้า ประกอบกับเจ้าของบ้านยังมาด่าทอตนอย่างต่อเนื่อง
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ เป็นวันหยุด ถ้าตนไม่มาร้องที่สายไหมต้องรอด คงต้องทนฟังเสียงเพื่อนบ้านด่าทั้งวัน และไม่ใช่แค่สุนัขของเพื่อนบ้านคู่กรณีเพียงตัวเดียวที่มาขี้หน้าบ้าน ยังมีเพื่อนบ้านบริเวณใกล้เคียงอีก 3 หลัง ที่ปล่อยสุนัขมาขี้เช่นกัน อาจจะเป็นเพราะยังมีกลิ่นเดิมของสุนัขตัวอื่นเลยมาขี้ แต่ตนติดใจสุนัขของบ้านคู่กรณีที่มาขี้ทุกวัน แถมเจ้าของสุนัขยังมาตะโกนด่าทุกวัน จึงเป็นเหตุผลให้ตนออกมาร้องในวันนี้
นอกจากนี้วิศวกรสาวที่เป็นผู้เสียหายยังบอกอีกว่าอยากให้ทั้งตนและคู่กรณีไปพบจิตแพทย์พร้อมกัน และให้หมอตรวจดูว่าใครกันแน่ที่เป็นโรคประสาท นอกจากนี้ตนได้สอบถามไปยังเจ้าของบ้านคนเก่าที่อาศัยมากว่า 20 ปี ก็เจอปัญหาเดียวกัน เลยแก้ปัญหาด้วยการขายบ้านทิ้ง
ด้านนายเอกภพ เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวส่วนตัวมองว่าการจะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นเรื่องที่สามารถทำได้แต่เจ้าของควรมีความรับผิดชอบ ดูแลสัตว์เลี้ยงไม่ให้ไปก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับผู้อื่น เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องที่ควรต้องยอมรับสภาพ ผู้พูดต้องยอมรับคำพูดของตัวเอง เพราะเข้าข่ายมีความผิดตามมาตรา 157 โดยตนเองจะติดตามความคืบหน้าการแจ้งดำเนินคดีกับตำรวจ กรณีนี้หากมีการตักเตือนและปรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกครั้งที่พบการกระทำความผิดปัญหาก็จะจบ หลังจากนี้ตัวเองจะประสานกับผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองแค เพื่อแจ้งความเอาผิดเจ้าของสัตว์เลี้ยงต่างกรรมต่างวาระ.-420 สำนักข่าวไทย