fbpx

ป.ป.ส.ร่วม นบ.ยส.35 สกัดยาเสพติด ยึดยาบ้าทะลุ 256 ล้านเม็ด

ป.ป.ส.9 ก.ย. – พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พล.อ.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบ.ยส.35) และฝ่ายปกครอง จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน และแม่ฮ่องสอน แถลงผลงานปราบปรามยาเสพติด ในการสกัดกั้นปราบปราม และป้องกันยาเสพติดในพื้นที่เป้าหมาย 18 อำเภอชายแดนของ 6 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ตาก แม่ฮ่องสอน พะเยา และน่าน ณ โรงแรมกรีนเลค รีสอร์ท อ.เมืองเชียงใหม่


สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2567 ที่ผ่านมานั้น ได้ดำเนินการสกัดกั้น ปราบปรามขยายผล ป้องกันยาเสพติดอย่างเข้มข้น มีเหตุปะทะ 44 ครั้ง กลุ่มขบวนการเสียชีวิต 31 ศพ ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย ปริมาณของกลางยาบ้า 256 ล้านเม็ด ไอซ์ 2,682 กก. เฮโรอีน 375 กก. ฝิ่น 206 กก. และคีตามีน 21 กก. จับกุมผู้ต้องหาได้ 1,607 ราย รวมทั้งการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ และสืบสวน ขยายผล ยึดอายัดทรัพย์สินเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติด จำนวนกว่า 94 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้จัดระเบียบหมู่บ้านชายแดน สถานประกอบการ สถานบันเทิงในพื้นที่ และได้ดำเนินการพัฒนาศักยภาพแกนนำหมู่บ้าน/ชรบ. ในพื้นที่ชายแดน และส่งเสริมให้ ชรบ. ปฏิบัติการตรวจตราเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดในพื้นที่หมู่บ้าน

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนปฏิบัติการในปี 2568 จะยกระดับการปราบปรามยาเสพติดให้เข้มข้นยิ่งขึ้น เน้นการทำงานเชิงรุก และมุ่งเน้นที่ภารกิจหลัก ได้แก่ ด้านการสกัดกั้น ฝ่ายทหาร บูรณาการกำลังกับฝ่ายปกครองและตำรวจ กำหนดแผนปฏิบัติการและแบ่งมอบพื้นที่รับผิดชอบ ในการลาดตระเวน ป้องกันการลักลอบขนยาเสพติดตามแนวชายแดนอย่างมีประสิทธิภาพ ด้านปราบปราม ใช้กลยุทธ์การข่าว ติดตาม เฝ้าระวัง จับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด ตั้งแต่ระดับสั่งการจนถึงผู้ค้ารายย่อย ด้านป้องกัน เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับหมู่บ้าน/ชุมชนชายแดน ให้เป็นเกราะป้องกันยาเสพติด โดยสนับสนุนให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส และเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การใช้สนธิสัญญาความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา (Mutual Legal Assistance Treaty-MLAT) ประสานการปฏิบัติ สกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดข้ามแดน และร่วมกันจับกุมผู้กระทำผิด.-119-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ไทยเตรียมรับมือพายุลูกที่ 15 อีกระลอก

สถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำป่าจากอิทธิพลพายุยางิเพิ่งผ่านพ้นไป มีคำเตือนว่าไทยต้องเตรียมรับมือพายุลูกที่ 15 อีสานตอนบน-เหนือตอนบน โดยจะมีฝนหนัก เตือนน้ำสาขาเอ่อท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำอีกระลอก

เสริมนวัตกรรมสูบน้ำ กู้เมืองหนองคาย

ท่อพญานาคซิ่ง นวัตกรรมสูบน้ำอันโด่งดังที่เคยไปช่วยภารกิจ 13 หมูป่า ติดถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ล่าสุดเดินทางถึง จ.หนองคาย กำลังสวมบทฮีโร่อีกครั้ง เพื่อช่วยกู้ตัวเมืองหนองคาย หลังจมน้ำมา 4 วัน

น้ำท่วมเชียงราย เสียหายกว่า 100 ล้าน วอนรัฐช่วยฟื้นฟู

น้ำท่วม อ.เมืองเชียงราย สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง หลายคนสูญเสียทรัพย์สิน บางคนบ้านพังทั้งหลัง พื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมเสียหาย รวมทั้งโรงแรมหลายแห่งได้รับผลกระทบหนัก ส่งผลต่อธุรกิจและการท่องเที่ยวเสียหายแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เรียกร้องภาครัฐช่วยเหลือฟื้นฟู

น้ำป่าทะลักท่วมพะเยา เสียหายหนักเป็นวงกว้าง

น้ำป่าที่ทะลักท่วมชุมชนหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา ช่วงเช้ามืดวันนี้ (17 ก.ย.) แม้น้ำท่วมเพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่สร้างความเสียหายอย่างหนักเป็นบริเวณกว้าง เนื่องจากเป็นชุมชนที่เต็มไปด้วยหอพักนักศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ทันตั้งตัว ทำให้ไม่สามารถขนย้ายข้าวของได้ทัน