หนุ่มใหญ่ซิ่งรถอีแต๊ก ชาวบ้านตำรวจช่วยกันไล่จับ

กทม. 8 ก.ย.-หนุ่มใหญ่ซิ่งรถอีแต๊กหวาดเสียวในพื้นที่กรุงเทพฯ ชาวบ้านและตำรวจช่วยกันไล่จับ

จากกรณีตำรวจ สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุประชาชนช่วยกันไล่จับคนร้ายขับรถอีแต๊ก ด้วยความหวาดเสียว จากพื้นที่ของ สน.ปทุมวัน โดยมี ส.ต.ต.พรหมมินทร์ ฤทธิ์ชัยสงค์ ผบ.หมู่(ป) สน.ปทุมวัน ช่วยในการไล่จับ แต่เมื่อมาถึงเชิงสะพานข้ามคลองแสนแสบ จึงใช้ปืนพกยิงเข้าที่ยางหลังด้านซ้าย 2 นัด จนยางแตก และยิงอีกนัดบริเวณแยกคลองตัน จนรถเสียหลักวิ่งขึ้นเกาะกลางถนน จากนั้นคนร้ายทราบชื่อภายหลังคือ นายบัญชา อายุ 45 ปี ได้วิ่งหลบหนีไปถึงหน้าการไฟฟ้าบางกะปิ ชาวบ้านที่ตามมาต่างกรูกันวิ่งตามไปด้วยความโกรธแค้น กระทั่งคนร้ายหมดแรง ถูกชาวบ้านจับตัวไว้ได้ และลงประชาทัณฑ์จนคนร้ายแน่นิ่งไป และทราบภายหลังว่าเสียชีวิตที่โรงพยาบาล จากนั้นส่งศพไปชันสูตรที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ


จากการสอบถาม พ.ต.อ.พรทวี สมวงค์ ผกก.สน.หัวหมาก บอกว่าจากการตรวจสอบทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าของรถอีแต๊ก ไม่ได้ไปขโมยมา และได้ขับมาจาก อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อมาหาญาติในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่วนรายละเอียดยังไม่ขอเปิดเผย และเมื่อถามถึงกรณีที่ชาวบ้านไปรุมทำร้ายจนผู้เสียชีวิตแน่นิ่งไปจะมีความผิดหรือไม่ เบื้องต้นผู้กำกับ ระบุว่า ตนไม่ได้รับรายงานว่ามีการรุมประชาทัณฑ์ แต่ได้รับรายงานว่าชาวบ้านไปช่วยกันไล่จับ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิดและประสานกลุ่มชาวบ้านเข้ามาสอบปากคำ ส่วนตัวผู้เสียชีวิตตอนนี้อยู่ที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ต้องรอผลชันสูตรว่าเสียชีวิตจากสาเหตุอะไร เบื้องต้นพบยาเสพติดภายในกระเป๋าของผู้เสียชีวิต เป็นยาบ้า 9 เม็ด กับไอซ์ 1 ถุง

นายสุรกิตติ เจ้าที่กู้ภัยที่อยู่ในเหตุการณ์ บอกว่า ตนได้รับแจ้งเหตุเกิดประมาณ 00.10 น. ว่าพบรถอีแต๊กขับในพื้นที่ถนนในลักษณะหวาดเสียวโดยที่มีชาวบ้านและพลเมืองดีไล่ตามกันมา เพราะกังวลว่าจะขับไปชนกับใครเหมือนกับเหตุการณ์รถ 10 ล้อที่พระราม 4 ส่วนตำรวจที่ติดตามจับกุม ไม่ทราบว่าเป็นตำรวจ สน.ไหน (ทราบภายหลังเป็นตำรวจ สน.ปทุมวัน) เมื่อมาถึงบริเวณแอร์พอร์ตลิ้งค์รามคำแหง รถอีแต๊กเกิดอาการเสียหลักหมุน ทำให้คนขับลงจากรถและวิ่งหนี จากนั้นชาวบ้าน พลเมืองดี และตำรวจวิ่งตามไล่จับ เมื่อถึงตัว ตำรวจจึงใช้ยุทธวิธีในการสกัดจับและควบคุมตัวโดยให้คว่ำหน้า มือไพร่หลัง ใส่กุญแจมือ และประสานตำรวจท้องที่มารับตัว แต่ระหว่างนั้นตนเองได้ตรวจดูทรัพย์สินของคนขับเพื่อหาเอกสารประจำตัวจากกระเป๋า เมื่อเปิดไปก็พบอุปกรณ์การเสพและยาบ้าจำนวนหนึ่ง จึงเรียกตำรวจให้ตรวจสอบ แต่ระหว่างนั้นตนเห็นคนขับอาการไม่ดีเนื่องจากปัสสาวะราด น้ำลายฟูมปาก หายใจเร็วและแรง และตาค้าง ตนจึงให้ตำรวจถอดกุญแจมือ เพื่อจะเช็กอาการ พบว่าไม่มีชีพจรจึงทำการปั๊มหัวใจและใช้เครื่องช็อตไฟฟ้ากระตุ้นหัวใจ ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก่อนศูนย์เอราวัณมาถึง จากนั้นใช้เวลาอีกประมาณ 30 นาทีในการช่วยเหลือจนชีพจรกลับมาก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดและทราบภายหลังว่าเสียชีวิตที่โรงพยาบาล


นายสุรกิตติ ยืนยันว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีการรุมประชาทัณฑ์ เพราะตัวของคนขับไม่มีร่องรอยบาดแผล ใบหน้าไม่ปูดบวม มีเพียงรอยถลอกจากการยื้อเล็กน้อยเท่านั้น

ทางด้าน อารีรัตน์ อายุ 43 ปี น้องสาวของผู้เสียชีวิต ระบุว่า ตอนนี้ทางญาติยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของพี่ชาย เพราะในคลิปการจับกุม ในขณะที่ใส่กุญแจมือนั้น เห็นมีคนเอาเท้าเหยียบพี่ชาย คาดว่าอาจจะขาดอาการตอนนั้นหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ทางบ้านลำบากมาก เพราะพี่ชายคอยดูแลพ่อกับแม่ที่เป็นอัลไซเมอร์ที่บ้าน และคอยทำเกษตรเล็กๆ น้อยๆ ที่บ้าน ซึ่งตอนนี้ก็ไม่มีใครคอยดูพ่อแม่ ซึ่งปกติพี่ชายสติไม่ดีอยู่แล้ว เคยรักษาอาการติดยาเสพติด ในวันเกิดเหตุพี่ชายกำลังเดินทางไปหาญาติอีกที่ใน กทม. เพื่อไปกินข้าวกัน แต่กลับเกิดเหตุเสียก่อน ตอนญาติแจ้งต่อๆ กันมาว่าพี่ชายเสียชีวิต ก็ได้ไปรับศพที่นิติเวช แพทย์ไม่ได้ระบุการเสียชีวิต ต้องรอผล 2 เดือน ซึ่งขณะนี้ได้รับศพมาฝังตามพิธีทางศาสนาเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้อยากให้ทางตำรวจ และแพทย์ ตรวจสอบสาเหตุการตายให้แน่ชัด ถ้าเกิดจากการเสพยาเสพติดเกินขนาด ทางญาติก็จะยอมรับผล

นอกจากนี้ทางทีมข่าวยังได้โทรหาหลานสาวของคุณบัญชา ที่อยู่กับคุณบัญชา คนสุดท้าย ระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. น้าได้เข้ามาที่บ้านที่ซอยกรุงเทพกรีฑา พอมาถึงก็ขอกินน้ำ สักพักน้าก็ขับรถออกไปข้างนอก แต่ตนคิดว่าอีกสักพักน้าคงกลับมา แต่ก็ไม่มีใครสามารถติดต่อได้เลย ตอนเจอกันก็อาการปกติ แต่ไม่ค่อยได้พูดคุยอะไรกันมาก เพราะเป็นช่วงเวลาที่ตนจะเข้านอน จนมีคนมาบอกว่าเห็นคนอีแต๊กอยู่ที่ สน. เลยไปดูปรากฏว่าเป็นรถของน้าจริงๆ ตนเองทราบว่าน้าเคยมีประวัติเสพยา แต่หลังจากการบำบัดก็ไม่เคยทราบอีกว่ากลับมาเสพหรือไม่ ปกติน้าจะเดินทางมาเดือนละ 3-4 วัน แบบ ไป-กลับ เพราะเขามีลูกอยู่ที่ กทม. ตอนนี้ทางญาติก็ยังคงติดใจ ว่าน้าไปเสียชีวิตตรงนั้นได้อย่างไร ทั้งที่ทางเส้นนี้ไม่ใช่ทางผ่าน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปไหน แต่ถ้าผลชันสูตรพบว่าเป็นการเสพยาเกินขนาดทางญาติก็จะยอมรับ.-420.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย