กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – ชายฉุนหนุ่มข้างห้องเอาไม้เบสบอลมาตีประตู คว้ามีดแทงดับ แม่มือมีดอ้างลูกสติไม่ดี
ภาพนาทีชายรูปร่างผอมเดินถือไม้เบสบอลจะเข้าไปทำร้ายชายข้างห้อง รูปร่างอ้วน ก่อนชายข้างห้องจะใช้มีดแทงไม่ยั้ง จนชายรูปร่างผอมวิ่งหนีเลือดอาบและไปเคาะประตูเรียกภรรยาแล้วล้มลงกับพื้น เสียชีวิตจมกองเลือด
วันนี้ (7 ก.ย.) ช่วงเวลา 08.52 น. เจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน สน.ห้วยขวาง รับแจ้งเหตุชายถูกแทงเสียชีวิตที่ ซ.ประชาสงเคราะห์ 39 แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร
จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณชั้น 2 ของแฟลตพักอาศัย 5 ชั้น พบร่างนายนาวิน อายุ 25 ปี นอนเสียชีวิต สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด ไม่ใส่เสื้อ สวมกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน เบื้องต้นมีรายงานแจ้งว่าผู้ตายมีปากเสียงกับผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อนายน้อย อายุ 42 ปี ผู้พักอาศัยภายในแฟลตเดียวกัน เป็นชายสติไม่ดี และพบประวัติการเสพยามาก่อน ได้ใช้มีดทำครัวความยาวประมาณ 24 นิ้ว เเทงนายนาวิน และหลบหนีไป
ด้านนางเอ (นามสมมติ) แม่ของนายน้อย เปิดเผยว่า ลูกเคยรักษาที่โรงพยาบาลเจ้าพระยา หลายครั้งเกี่ยวกับเรื่องอาการป่วยทางประสาท อีกทั้งลูกเคยเสพยาเสพติดมาก่อน แต่ตนคิดว่าที่ลูกเป็นเช่นนี้เพราะเล่นของ ประกอบกับในช่วงที่บวชอยู่ไม่ได้ลาสิกขาตามขั้นตอน อาจทำให้ของเข้าตัวจึงทำให้สติไม่ดี
ป้าร้านขายน้ำที่อยู่ข้างห้องผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า นายน้อย ผู้ก่อเหตุ สติไม่ค่อยดี ชอบพูดจาคนเดียว ป้าเองเคยมีปัญหากับนายน้อย เนื่องจากเคยมาชอบลูกจ้างของป้าที่เป็นชาวเมียนมา พักหลังป้าจึงมักให้เงินเขาหรือเลี้ยงน้ำ เขาก็จะดีกับป้า ที่ผ่านมานายน้อยเคยผ่านการรักษาจิตเวชมาแล้ว แต่พักหลังไม่ได้รับการรักษาแล้ว กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าวได้ยินว่าทะเลาะกัน ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
ต่อมาช่วงเวลา 11.00 น. ตำรวจทราบว่านายน้อยหลบหนีไปที่ซอยประชาสงเคราะห์ 47 จึงเข้าไปควบคุมตัว ก่อนนำตัวมาที่ สน.ห้วยขวาง ทีมข่าวสอบถามนายน้อยว่าทำไมถึงแทงนายนาวิน นายน้อยตอบกลับว่าผู้ตายใช้ไม้เบสบอลตีที่ประตูหน้าห้องของตนหลายรอบแล้ว ก่อนจะออกไปทะเลาะวิวาทกันหน้าห้อง และตนใช้มีดเเทงนายน้อยไป 2-3 ครั้ง ก่อนจะก่อเหตุตนเห็นนายเนวินนำมีดไว้ข้างหลัง และนำท่อนเหล็กสีเขียวคล้ายด้ามไม้ม็อบออกมาจากห้อง ก่อนที่จะลงมือ
ขณะนี้เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวนายน้อยไปสอบสวนที่ สน.ห้วยขวาง จากการสืบสวนนายน้อยให้การเลอะเลือน พูดจาวกไปวนมา อ้างว่าตนเป็นทหารจากสหรัฐ ถูกกลุ่มผู้ตายซึ่งเป็นทหารฝัง GPS ไว้แล้วตามมาจากสหรัฐ
จากนั้นเจ้าที่ทำประวัติและพิมพ์ลายนิ้วมือ ก่อนควบคุมตัวไปเข้าห้องควบคุมตัวผู้ต้องหา เบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น ส่วนเรื่องเป็นผู้ป่วยจิตเวช ต้องรอผลพิสูจน์อีกครั้งหนึ่ง
ภรรยาผู้ตายเผยเหตุการณ์ก่อนสามีถูกแทงดับ
ทีมข่าวพูดคุยกับนางสาวก้อย อายุ 27 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุตนกำลังซักผ้าอยู่หลังห้อง สามีออกไปสูบบุหรี่อยู่หน้าห้องพัก ตอนนั้นตนได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะวิวาทกัน กระทั่งไม่นานสามีวิ่งมาเคาะประตูเพื่อขอความช่วยเหลือ บอกให้ตนหาผ้ามาปิดแผลและเรียกรถพยาบาลให้หน่อย เนื่องจากถูกแทงมา ตอนนั้นตกใจมาก จึงรีบหาผ้ามาช่วยปิดแผล แต่ไม่นานสามีก็ล้มลง
ตลอดเวลาที่ผ่านมาตนไม่เคยทราบมาก่อนว่าสามีมีปัญหากับผู้ก่อเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจอดรถหรือเรื่องใดก็ตาม เพราะแฟนไม่เคยเล่าให้ฟัง ยอมรับว่าตอนนี้ยังช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่รู้จะดำเนินชีวิตอย่างไรต่อไป เนื่องจากสามีเป็นเสาหลักของครอบครัว อีกทั้งตนกำลังตั้งครรภ์ และมีกำหนดผ่าคลอดในวันที่ 12 กันยายนนี้ จึงรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก และต้องการให้ผู้ก่อเหตุรับผิด.-สำนักข่าวไทย