“แม่โยโกะ” มอบหลักฐาน DSI เชื่อมีการจัดฉากวางแผนฆาตกรรมลูกสาว

ดีเอสไอ 2 ก.ย. – “แม่โยโกะ” มอบหลักฐานสำคัญ “DSI” ตรวจสอบ เชื่อมีการจัดฉากวางแผนฆาตกรรมลูกสาว ยังติดใจการตายทุกขั้นตอน


สืบเนื่องจากกรณีการเสียชีวิตปริศนาของ น.ส.พราวรวี หรือ น้องโยโกะ พริตตี้สาว ต่อมานางธัญพัฒน์ มารดา ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ภายหลังผลการชันสูตรพลิกศพของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุสาเหตุการเสียชีวิต “ภาวะพิษจากไซยาไนด์” แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คลองตัน กลับรีบเร่งสรุปสำนวนด้วยการลงท้ายว่า ญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย ทั้ง ๆ ที่มารดาของโยโกะ ระบุค้านต่อเนื่องว่ายังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตลูกสาว และที่มาที่ไปของขวดสารไซยาไนด์ รวมถึงไม่เคยเห็นเอกสารสำนวนของพนักงานสอบสวน จึงเชื่อว่าลูกสาวไม่ได้ฆ่าตัวตายเอง แต่มีการจัดฉากฆาตกรรมเกิดขึ้น และครอบครัวยังคงไม่ได้รับความเป็นธรรม

วันนี้ (2 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. นางธัญพัฒน์ มารดาโยโกะ พร้อมด้วยทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อมอบพยานหลักฐาน และพยานเอกสารเพิ่มเติมแก่ดีเอสไอ เพื่อขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการตรวจสอบและรับทำคดีการเสียชีวิตของโยโกะ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีหนังสือที่ ยธ.0816/203 ลงวันที่ 5 ก.พ.67 แจ้งการรับเรื่องเบื้องต้น ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เรียนว่าพฤติการณ์ตามคำร้องอาจเข้าข่ายเป็นความผิดอาญาฐานฆ่าผู้อื่น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการให้ความยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้ส่งเรื่องให้กองกิจการอำนวยความยุติธรรม เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป


มารดาโยโกะ กล่าวว่า จากผลการชันสูตรพลิกศพของลูกสาว ตรวจพบสารไซยาไนด์ในร่างกาย แต่ตนสงสัยแฟนลูกสาว และการทำงานของตำรวจ สน.คลองตัน ที่แถลงปิดสำนวนว่าลูกสาวฆ่าตัวตายและญาติไม่ติดใจเอาความ แต่ที่จริงแล้วทางครอบครัวยังสงสัยการเสียชีวิตมาโดยตลอด ซึ่งขัดแย้งกับทางตำรวจ ส่วน 26 ประเด็นที่ครอบครัวเคยยื่นเรื่องให้พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ตรวจสอบ ซึ่งมีเพียงบางประเด็นตำรวจแจ้งให้รับทราบ แต่ก็ไม่ใช่ข้อสรุปทางคดี

ด้านทนายกฤษณะ เผยว่า ทางตำรวจ สน.คลองตัน เคยเรียกสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องแต่ละฝ่าย แต่คุณแม่น้องโยโกะยังมีประเด็นสงสัยแต่ไม่เรียกสอบปากคำเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด หรือ สารไซยาไนด์ที่พบในร่างกายโยโกะ แต่กลับไม่มีการระบุว่าสารไซยาไนด์ดังกล่าวได้เข้าไปในร่างกายจากทางใด ซึ่งถ้าเป็นตามข่าวคดีอื่นหากรับประทานสารไซยาไนด์เข้าไป จะมีรอยไหม้บริเวณขอบปาก แต่น้องโยโกะไม่มี จึงมีข้อสงสัยอาจมีการใช้ผ่านแคปซูลหรือไม่ อย่างไรก็ตาม โดยปกติพนักงานสอบสวนต้องเสาะแสวงหาหลักฐานให้ครบถ้วน รวมทั้งข้อความแชทในโทรศัพท์มือถือ รอยนิ้วมือในการเปิดขวดสารไซยาไนด์ที่มีลักษณะผิดปกติ ซองที่พบมีปรากฏรอยนิ้วมือหลายรอย ครอบครัวยังติดใจ จึงไม่ทราบว่าพนักงานสอบสวนตรวจสอบประเด็นเหล่านี้หรือไม่ แม้แต่ในวันแถลงข่าวปิดคดี คุณแม่ก็ไม่เคยเห็นสำนวนที่ตำรวจสรุปส่งอัยการ อย่างไรก็ตาม ตามหลักการแล้ว ตำรวจที่ทำสำนวนต้องบอกครอบครัวผู้เสียหายในรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อความสบายใจ แต่ที่ผ่านมาคุณแม่ไม่ทราบอะไรเลย

ก่อนหน้านี้ทางครอบครัวน้องโยโกะ ได้เคยเข้ายื่นเรื่องกับดีเอสไอขอให้รับเป็นคดีพิเศษ เพราะติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของโยโกะ จึงทราบความคืบหน้าว่าดีเอสไอได้มีการตั้งเลขสืบสวนไว้แล้ว โดยประสานขอข้อมูลจาก สน.คลองตัน แต่ทางดีเอสไอยังไม่ได้รับ ทำให้ดีเอสไออาจมีการลงพื้นที่ตรวจสอบพยานหลักฐานด้วยตัวเองเพื่อเร่งรัดตรวจสอบการทำคดี นอกจากนี้ ที่ผ่านมาทางคุณแม่โยโกะยังไม่เคยได้รับการติดต่อกลับจากอดีตแฟนหนุ่มของโยโกะเลยสักครั้ง


ด้าน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ได้พูดคุยกับคุณแม่ของโยโกะ ทราบว่าสำนวนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ดำเนินการนั้น จะเป็นสำนวนคดีชันสูตรพลิกศพ ที่ปัจจุบันอยู่ในชั้นของพนักงานอัยการ ซึ่งจะต้องแยกออกจากที่คุณแม่สงสัยว่าเป็นความผิดทางอาญากรณีที่ลูกสาวเสียชีวิต โดยในส่วนนี้ทางดีเอสไอได้มอบหมายให้กองกิจการอำนวยความยุติธรรม ดำเนินการสืบสวน เพื่อจะดูว่ามีมูลความผิดทางอาญาและเข้าเงื่อนไขที่จะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ระหว่างที่สืบสวนคดีอยู่นั้น ดีเอสไอยังมีอำนาจในการแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานทุกอย่าง ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษเห็นว่ามีเหตุจำเป็นที่จะต้องเชิญมาให้ข้อมูลก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องรอการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คลองตัน เพราะในเชิงคดีอาญา ยังไม่มีการดำเนินการของตำรวจ ฉะนั้น หากผู้ตายไม่ได้ตายด้วยธรรมชาติ อาจมีการจัดฉากวางแผนให้มีการฆาตกรรม ถ้าดีเอสไอสืบสวนแล้วพบว่าการตายน่าจะเกิดจากการกระทำความผิดทางอาญา ก็เป็นหน้าที่ที่ดีเอสไอจะต้องลงไปดูรายละเอียดว่าการตายนั้น ในชั้นสืบสวน อาจจะไม่มีหมายเรียกผู้ต้องหาออกมา เพราะเจ้าหน้าที่ต้องสืบสวนก่อนว่ามีการกระทำความผิดทางอาญาเกิดขึ้นหรือไม่ และมีความซับซ้อนตามกฏหมายคดีพิเศษที่กำหนดไว้หรือไม่ หากใช่ ก็จะเสนอรับเป็นคดีพิเศษ และเมื่อรับเป็นคดีพิเศษแล้วก็จะเข้าสู่กระบวนการดำเนินการพิสูจน์ความจริง รวมทั้งการออกหมายเรียกผู้ต้องหาให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา โดยในวันนี้ภายหลังรับเรื่องราวและพยานหลักฐานต่าง ๆ ทางกองบริหารคดีพิเศษ จะได้ประมวลเรื่องความประสงค์ของผู้เสียหายส่งไปยังกองกิจการอำนวยความยุติธรรม เพื่อไปประสานข้อมูลคดีกับ สน.คลองตัน ตามขั้นตอน. -420-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”