“แม่โยโกะ” มอบหลักฐาน DSI เชื่อมีการจัดฉากวางแผนฆาตกรรมลูกสาว

ดีเอสไอ 2 ก.ย. – “แม่โยโกะ” มอบหลักฐานสำคัญ “DSI” ตรวจสอบ เชื่อมีการจัดฉากวางแผนฆาตกรรมลูกสาว ยังติดใจการตายทุกขั้นตอน


สืบเนื่องจากกรณีการเสียชีวิตปริศนาของ น.ส.พราวรวี หรือ น้องโยโกะ พริตตี้สาว ต่อมานางธัญพัฒน์ มารดา ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ภายหลังผลการชันสูตรพลิกศพของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุสาเหตุการเสียชีวิต “ภาวะพิษจากไซยาไนด์” แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คลองตัน กลับรีบเร่งสรุปสำนวนด้วยการลงท้ายว่า ญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย ทั้ง ๆ ที่มารดาของโยโกะ ระบุค้านต่อเนื่องว่ายังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตลูกสาว และที่มาที่ไปของขวดสารไซยาไนด์ รวมถึงไม่เคยเห็นเอกสารสำนวนของพนักงานสอบสวน จึงเชื่อว่าลูกสาวไม่ได้ฆ่าตัวตายเอง แต่มีการจัดฉากฆาตกรรมเกิดขึ้น และครอบครัวยังคงไม่ได้รับความเป็นธรรม

วันนี้ (2 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. นางธัญพัฒน์ มารดาโยโกะ พร้อมด้วยทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อมอบพยานหลักฐาน และพยานเอกสารเพิ่มเติมแก่ดีเอสไอ เพื่อขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการตรวจสอบและรับทำคดีการเสียชีวิตของโยโกะ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีหนังสือที่ ยธ.0816/203 ลงวันที่ 5 ก.พ.67 แจ้งการรับเรื่องเบื้องต้น ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เรียนว่าพฤติการณ์ตามคำร้องอาจเข้าข่ายเป็นความผิดอาญาฐานฆ่าผู้อื่น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการให้ความยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้ส่งเรื่องให้กองกิจการอำนวยความยุติธรรม เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป


มารดาโยโกะ กล่าวว่า จากผลการชันสูตรพลิกศพของลูกสาว ตรวจพบสารไซยาไนด์ในร่างกาย แต่ตนสงสัยแฟนลูกสาว และการทำงานของตำรวจ สน.คลองตัน ที่แถลงปิดสำนวนว่าลูกสาวฆ่าตัวตายและญาติไม่ติดใจเอาความ แต่ที่จริงแล้วทางครอบครัวยังสงสัยการเสียชีวิตมาโดยตลอด ซึ่งขัดแย้งกับทางตำรวจ ส่วน 26 ประเด็นที่ครอบครัวเคยยื่นเรื่องให้พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ตรวจสอบ ซึ่งมีเพียงบางประเด็นตำรวจแจ้งให้รับทราบ แต่ก็ไม่ใช่ข้อสรุปทางคดี

ด้านทนายกฤษณะ เผยว่า ทางตำรวจ สน.คลองตัน เคยเรียกสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องแต่ละฝ่าย แต่คุณแม่น้องโยโกะยังมีประเด็นสงสัยแต่ไม่เรียกสอบปากคำเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด หรือ สารไซยาไนด์ที่พบในร่างกายโยโกะ แต่กลับไม่มีการระบุว่าสารไซยาไนด์ดังกล่าวได้เข้าไปในร่างกายจากทางใด ซึ่งถ้าเป็นตามข่าวคดีอื่นหากรับประทานสารไซยาไนด์เข้าไป จะมีรอยไหม้บริเวณขอบปาก แต่น้องโยโกะไม่มี จึงมีข้อสงสัยอาจมีการใช้ผ่านแคปซูลหรือไม่ อย่างไรก็ตาม โดยปกติพนักงานสอบสวนต้องเสาะแสวงหาหลักฐานให้ครบถ้วน รวมทั้งข้อความแชทในโทรศัพท์มือถือ รอยนิ้วมือในการเปิดขวดสารไซยาไนด์ที่มีลักษณะผิดปกติ ซองที่พบมีปรากฏรอยนิ้วมือหลายรอย ครอบครัวยังติดใจ จึงไม่ทราบว่าพนักงานสอบสวนตรวจสอบประเด็นเหล่านี้หรือไม่ แม้แต่ในวันแถลงข่าวปิดคดี คุณแม่ก็ไม่เคยเห็นสำนวนที่ตำรวจสรุปส่งอัยการ อย่างไรก็ตาม ตามหลักการแล้ว ตำรวจที่ทำสำนวนต้องบอกครอบครัวผู้เสียหายในรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อความสบายใจ แต่ที่ผ่านมาคุณแม่ไม่ทราบอะไรเลย

ก่อนหน้านี้ทางครอบครัวน้องโยโกะ ได้เคยเข้ายื่นเรื่องกับดีเอสไอขอให้รับเป็นคดีพิเศษ เพราะติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของโยโกะ จึงทราบความคืบหน้าว่าดีเอสไอได้มีการตั้งเลขสืบสวนไว้แล้ว โดยประสานขอข้อมูลจาก สน.คลองตัน แต่ทางดีเอสไอยังไม่ได้รับ ทำให้ดีเอสไออาจมีการลงพื้นที่ตรวจสอบพยานหลักฐานด้วยตัวเองเพื่อเร่งรัดตรวจสอบการทำคดี นอกจากนี้ ที่ผ่านมาทางคุณแม่โยโกะยังไม่เคยได้รับการติดต่อกลับจากอดีตแฟนหนุ่มของโยโกะเลยสักครั้ง


ด้าน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ได้พูดคุยกับคุณแม่ของโยโกะ ทราบว่าสำนวนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ดำเนินการนั้น จะเป็นสำนวนคดีชันสูตรพลิกศพ ที่ปัจจุบันอยู่ในชั้นของพนักงานอัยการ ซึ่งจะต้องแยกออกจากที่คุณแม่สงสัยว่าเป็นความผิดทางอาญากรณีที่ลูกสาวเสียชีวิต โดยในส่วนนี้ทางดีเอสไอได้มอบหมายให้กองกิจการอำนวยความยุติธรรม ดำเนินการสืบสวน เพื่อจะดูว่ามีมูลความผิดทางอาญาและเข้าเงื่อนไขที่จะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ระหว่างที่สืบสวนคดีอยู่นั้น ดีเอสไอยังมีอำนาจในการแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานทุกอย่าง ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษเห็นว่ามีเหตุจำเป็นที่จะต้องเชิญมาให้ข้อมูลก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องรอการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คลองตัน เพราะในเชิงคดีอาญา ยังไม่มีการดำเนินการของตำรวจ ฉะนั้น หากผู้ตายไม่ได้ตายด้วยธรรมชาติ อาจมีการจัดฉากวางแผนให้มีการฆาตกรรม ถ้าดีเอสไอสืบสวนแล้วพบว่าการตายน่าจะเกิดจากการกระทำความผิดทางอาญา ก็เป็นหน้าที่ที่ดีเอสไอจะต้องลงไปดูรายละเอียดว่าการตายนั้น ในชั้นสืบสวน อาจจะไม่มีหมายเรียกผู้ต้องหาออกมา เพราะเจ้าหน้าที่ต้องสืบสวนก่อนว่ามีการกระทำความผิดทางอาญาเกิดขึ้นหรือไม่ และมีความซับซ้อนตามกฏหมายคดีพิเศษที่กำหนดไว้หรือไม่ หากใช่ ก็จะเสนอรับเป็นคดีพิเศษ และเมื่อรับเป็นคดีพิเศษแล้วก็จะเข้าสู่กระบวนการดำเนินการพิสูจน์ความจริง รวมทั้งการออกหมายเรียกผู้ต้องหาให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา โดยในวันนี้ภายหลังรับเรื่องราวและพยานหลักฐานต่าง ๆ ทางกองบริหารคดีพิเศษ จะได้ประมวลเรื่องความประสงค์ของผู้เสียหายส่งไปยังกองกิจการอำนวยความยุติธรรม เพื่อไปประสานข้อมูลคดีกับ สน.คลองตัน ตามขั้นตอน. -420-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรง “แพทองธาร” คลิปคุย “ฮุนเซน”

กทม. 14 ก.ค. – ป.ป.ช. มติเอกฉันท์ตั้งองค์คณะไต่สวนจริยธรรมร้ายแรงต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปมคลิปเสียงคุยกับ “ฮุน เซน” ที่สำนักงาน ป.ป.ช. วันนี้มีรายงานว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้ประชุม และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้แต่งตั้งองค์คณะไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีปรากฏคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งบริเวณแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา โดยนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการ ป.ป.ช. และนายประภาศ คงเอียด กรรมการ ป.ป.ช. ร่วมเป็นองค์คณะไต่สวน การตั้งองค์คณะไต่สวนครั้งนี้ เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา51 ซึ่งเปิดช่องให้ ป.ป.ช. ตั้งกรรมการไม่น้อยกว่า 2 คนไต่สวนได้ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงมีผลกระทบต่อสาธารณะอย่างกว้างขวางหรือเกี่ยวพันกับองค์กรตุลาการ ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องไว้พิจารณาเบื้องต้น และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 10 วัน โดยให้มีการถอดเทปคำสนทนาและจัดทำคำแปลจากภาษาต่างประเทศอย่างถูกต้อง ครอบคลุมการสอบพยาน และการศึกษา คดีเปรียบเทียบ เช่น […]

เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ลาสิกขา ปมโอน 13 ล้าน

พระนครศรีอยุธยา 14 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ สมัครใจลาสิกขา หลังโอนเงินกว่า 13 ล้าน ให้ “สีกากอล์ฟ” ยืนยันไม่มีสัมพันธ์เชิงชู้สาว แต่ยอมรับว่า “อ่อนต่อโลก” พระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำพิธีลาสิกขาด้วยความสมัครใจในวันนี้ ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ลงพื้นที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด พร้อมสอบปากคำพระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสฯ นานเกือบ 3 ชั่วโมง พันตำรวจโท สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. เปิดเผยว่า อดีตเจ้าอาวาสฯ เต็มใจลาสิกขา เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกากอล์ฟ พบว่า เส้นเงินถูกโอนจากบัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสฯ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการรับกิจนิมนต์และสอนหนังสือ โดยโอนไปให้สีกากอล์ฟ รวม 12.8 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีเงินจากบัญชีวัดอีก 3.8 แสนบาท ซึ่งมีทั้งโอนผ่านโทรศัพพ์และให้เป็นเงินสด เริ่มโอนตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งในเดือนเดียวกันพบว่าโอนให้สีกากอล์ฟ […]

แก๊งจีนดำลวงเพื่อนร่วมชาติเรียกค่าไถ่ สังหารโหด

เชียงราย 14 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีแก๊งจีนดำฆ่าจีนเทา หลอกเพื่อนร่วมชาติมาเรียกค่าไถ่ที่เชียงใหม่ สังหารโหด และนำศพทิ้งกลางป่า ตำรวจพบศพนายหยาง อายุ 24 ปี สัญชาติจีน ถูกห่อด้วยถุงดำ และผ้าปูที่นอน แล้วใช้ผ้ายางพลาสติกห่อทับอีกชั้น ถูกนำมาทิ้งไว้ที่ป่าละเมาะข้างทางริมถนน ใกล้กับหมู่บ้านป่าเหว ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยก่อนหน้านี้ ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากพี่สาวของนายหยางให้ช่วยติดตามตัวน้องชาย หลังข้ามชายแดนมาจากเขตเศรษฐกิจพิเศษคิงส์โรมัน ในฝั่งลาว ผ่าน ตม.สบรวก อำเภอเชียงแสน ที่ จ.เชียงราย มาพร้อมกับนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนอีกคนหนึ่ง โดยจ้างแท็กซี่เดินทางมายังเชียงใหม่ เมื่อ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมาและหายตัวไป ก่อนถูกเรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พลตำรวจโทกฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า พบตัวนายฮูกัง เพื่อนชาวจีนที่เดินทางมากับนายหยาง และอ้างว่า ถูกนายซาง เบนซิน และนายหวังซวง นัดหมายให้พานายหยาง […]

“รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์

วัดไตรมิตร 14 ก.ค.- “รมต.สุชาติ” เข้าพบสมเด็จฯ วัดไตรมิตร รับแนวทางแก้ปัญหาวงการสงฆ์ ชี้ต้องร่วมมือกัน ทั้งตำรวจ-มส.-พศ. ย้ำต้องเร่งแก้ให้เร็วที่สุด ก่อนประชาชนหมดศรัทธา สั่งสำนักพุทธฯ ดูกฎหมายอาญา 206 เอาผิดสีกา ก. ได้หรือไม่ ย้อนถาม พศ. ทำไมไม่รู้ จี้ให้ทำงานเชิงรุก บอกหลัง 1 ต.ค.นี้ ทุกวัดต้องส่งรายงานการเงินทุกเดือนและทุกปี ตามกฎกระทรวงใหม่ นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เมื่อมาถึงได้เข้ากราบสักการะสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ก่อนเข้ากราบนมัสการสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เพื่อรับแนวทางปฏิบัติ ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ภายหลังการเข้าพบสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) นานกว่า 30 นาที นายสุชาติ กล่าวว่า เรื่องสงฆ์ที่เกิดปัญหาอยู่ในขณะนี้ เป็นเรื่องที่มหาเถรสมาคม มีการประชุมตั้งแต่เมื่อวาน ซึ่งเป็นการประชุมเร่งด่วนฉุกเฉิน […]