ร้อง “กัน จอมพลัง” ถูกเพื่อนบ้านลูกตำรวจ คุกคามนาน 6 ปี

กรุงเทพฯ 1 ก.ย.-ผู้เสียหายร้อง “กัน จอมพลัง” หลังถูกเพื่อนบ้านลูกตำรวจ คุกคามนาน 6 ปี

ครอบครัวจากจังหวัดนครราชสีมา มาร้องทุกข์กับนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง หลังถูกเพื่อนบ้านซึ่งเป็นหนุ่มข้าราชการมีพ่อเป็นตำรวจยศใหญ่ คุกคามมานานนับ 10 ปี อาทิ ปาขวดใส่หลังคาบ้านตอนกลางคืน, นำปืนมาชักสไลด์เสียงดัง จนทำให้เกิดความหวาดกลัว, กวาดขยะแล้วเอามาเทในบ้าน, นำเลเซอร์มาส่องใส่กล้องวงจรปิดจนได้รับความเสียหาย, ทำร้ายร่างกายแม่และพ่อของผู้เสียหาย ฯลฯ ทั้งนี้เมื่อแจ้งไปยังหน่วยงานให้เข้ามาดำเนินการแต่ได้รับคำตอบให้ไปฟ้องเอาเอง


ด้านผู้เสียหายซึ่งเป็นแม่ อายุ 50 ปี เล่าเหตุการณ์ว่า เหตุการณ์เริ่มมีปัญหาตั้งแต่ 2561 จากลูกสาวคนเล็กเกิดโทรศัพท์เสีย จึงไปยืมโทรศัพท์ของนายกร ซึ่งเป็นลูกตำรวจที่เป็นเพื่อนบ้านกันมานาน 10 ปี ลูกสาวได้ใช้ 3-4 วัน หลังจากนั้นลูกชายตำรวจมาแจ้งว่าโทรศัพท์เสีย เขาอ้างว่าโทรศัพท์เสียจะต้องส่งไปซ่อมที่สิงคโปร์เป็นยอดเงิน 1,600 บาท ซึ่งตอนนั้นตัวเองยินดีที่จะชดใช้ให้ ทั้งนี้ฝั่งของแม่ได้พูดกับลูกสาวว่าไม่ชอบพฤติกรรมของลูกที่ไปเอาโทรศัพท์คนอื่นไปใช้ จึงลงโทษลูกโดยต้องเอาเงินเก็บของลูกสาวมาใช้ เพราะไม่อยากลงโทษด้วยการตี แต่ในช่วงที่เขาทวงมาในวันนั้นแม่ไม่สบาย เมื่อเขาแชทมาทวงถามเรื่องเงิน ทางแม่ไม่ได้เปิดแชทอ่านเพียงหนึ่งวัน หลังจากนั้นเขาก็ไปฟ้องพ่อเขาซึ่งเป็นตำรวจว่าทางฝ่ายเราไม่รับผิดชอบเรื่องโทรศัพท์

ผู้เสียหายเล่าอีกว่า หลังจากนั้นมีประเด็นกับนายตำรวจผู้เป็นพ่อ หลังจากที่ฝ่ายตัวเองไปแจ้งความกับบุคคลหนึ่งในข้อหาหมิ่นประมาท เนื่องจากมีการโพสต์ด่ากันผ่านทางเฟซบุ๊ก จึงไปแจ้งความที่โรงพักแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมาเกี่ยวกับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ทางตำรวจคนดังกล่าวจึงได้เข้ามารับทำคดีให้ ส่วนที่แจ้งความดำเนินคดีเพราะไม่อยากได้เงิน แต่ต้องการให้คู่กรณีมาขอขมาหรือขอโทษเท่านั้น แต่ทางตำรวจได้ไกล่เกลี่ยให้ตกลงยอมความกันที่ยอดเงินจำนวน 30,000 บาท ทั้งนี้ฝ่ายตัวเองบอกว่าหากได้เงินมาจะนำเงินดังกล่าวไปทำบุญ แต่เมื่อได้เงินมาก็ยังไม่ได้มีการนำไปทำบุญ หลังจากนั้นนายตำรวจคนนี้ก็มาทวงถามเรื่องเงินส่วนหนึ่งที่จะนำไปทำบุญแต่ก็ไม่ได้ให้กัน จากนั้นกลายเป็นประเด็นมาเรื่อยๆ และเกิดความไม่พอใจซึ่งกันและกัน เพราะไม่ได้นำเงินในส่วนนั้นไปให้


ผู้เสียหายเล่าว่า ครอบครัวโดนระรานมาเรื่อยๆ 4 ครั้ง ครั้งแรกที่ได้ทำบุญขึ้นบ้านใหม่โดนถูกปาขวดเข้ามาในบ้านทำให้เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นกระจกแตกร้าว จึงได้ไปแจ้งความดำเนินคดี แต่กว่าจะขึ้นศาลก็ใช้เวลานาน โดยตำรวจบอกว่าให้ไปพูดคุยกันก่อน เมื่อไปแจ้งความทีหลังก็อ้างว่าคดีขาดอายุความ เนื่องจากไปแจ้งความในคดีอาญาเกินกว่า 90 วัน จุดประสงค์ที่ไปแจ้งความเพราะเห็นว่าใครทำโดยเห็นว่าเป็นลูกนายตำรวจเพื่อนบ้าน จึงมีการชะลอเรื่องเอาไว้ทำให้คดีขาดอายุความ ตัวเองจึงไปร้องเรียนกับทางผู้กำกับการว่ามีเจตนาที่จะดำเนินคดีทำไมไม่ทำเรื่องให้ หลังจากนั้นก็มีการทำเอกสารกลับมาว่าจะทำเรื่องให้ หลังจากที่เริ่มมีปัญหาโคมไฟหน้าบ้านก็ถูกทุบและมีการกดกริ่งเรียกคนในบ้านแต่ตัวเองไม่ทราบว่าเป็นใคร ในเวลานั้นมีเรื่องเพียงแต่กับเขา

จากนั้นก็ถูกทุบกล้องวงจรปิดก็ไปแจ้งความอีก แต่ทางโรงพักดังกล่าวบอกว่าหลักฐานไม่ชัดเจน และต่อมาก็มีการขว้างขวดโซดามาที่บ้าน 3-4 ขวด ทั้งนี้เห็นว่าใครเป็นคนทำ เพราะทุกคนอยู่ในบ้าน ได้ใช้เป็นกล้องมือถือถ่ายคลิปเอาไว้เห็นว่านายกรเป็นคนทำ ทั้งนี้ที่บ้านไม่มีปัญหาหรือประเด็นกับใคร จากนั้นก็โดนทั้งทิ้งขยะขว้างเข้ามาเต็มบ้าน โยนไฟที่เอาผ้าใส่ในกระป๋องที่มีน้ำมันโยนเข้ามาในบ้าน จึงไปแจ้งความเอาไว้แต่ทางตำรวจบอกว่าหลักฐานไม่ชัดเจน ไม่เห็นคนทำจึงให้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้

ผู้เสียหายเล่าว่า ต่อมาต้องพาครอบครัวไปย้ายไปอยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรี เพราะอยู่ไม่ได้ ส่วนลูกสาวคนโตไปเรียนที่เชียงราย ลูกสาวคนเล็กมาเรียนที่กรุงเทพฯ ระหว่างที่มีปัญหาระหว่างกันฝ่ายตัวเองถูกแจ้งดำเนินคดีไป 10 กว่าคดีภายในปี 2561 ถึง 2562 โดยผู้เป็นพ่อโดนแจ้งความ 3 คดี ลูกสาว 2 คดี ส่วนตังเองโดนไป 9 คดี ส่วนใหญ่เป็นข้อหาแจ้งความเท็จ เพราะที่ไปแจ้งความหลักฐานไม่ชัดเจน เขาจึงแจ้งความกลับ


ทั้งนี้ระหว่างที้กำลังไปแจ้งความกรณีที่โดนขวางขวดมาที่บ้านอยู่บนโรงพัก นายกรก็มาเดินโวยวายว่าเป็นลูกสารวัตรและเดินมาข้างหลังพ่อพยายามจะตบหัว แต่กลับกลายเป็นว่าพ่อถูกดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย เพราะเอามือสะบัดไปโดนเขาเนื่องจากตกใจ ในคดีขว้างขวดโซดา ศาลลงโทษเสียค่าปรับไป 300 กว่าบาท ส่วนคดีของฝั่งตัวเองศาลยกฟ้องเพราะไม่มีเจตนา จากการตรวจสอบพบว่านายกรมีพ่อเป็นสารวัตรจริง โดยเป็นสารวัตรสอบสวนในโรงพักที่ไปแจ้งความ ก่อนที่จะย้ายไปปฎิบัติหน้าที่ที่โรงพักอื่น

“ส่วนตัวรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ในส่วนที่ตัวเองไปแจ้งความดำเนินคดี บางคดีต้องติดตามนานกว่า 2 ปี ปัจจุบันครอบครัวก็ยังคุกคามอยู่ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ทั้งนี้โดนคุกคามและโดนคดีจนไม่มีเวลาทำมาหากิน
และเป็นห่วงลูกสาว เพราะบางวันก็มีขยะโยนเข้ามาในบ้าน อยากให้เขาหยุดทำพฤติกรรมคุกคาม ให้ต่างคนต่างอยู่ และอยากให้เอาต้นไม้ที่ปลูกขวางทางเข้าบ้านออก“ ผู้เสียหายซึ่งเป็นแม่กล่าว

ด้านกัน จอมพลัง กล่าวว่า ในส่วนของคลิปและมีข้อมูลอีกหลายส่วนที่ยังไม่ครบในส่วนที่เล่าเท่าที่จับใจความได้คือมีปัญหาเรื่องคดี แจ้งความกันไปกันมา ทั้งนี้ตัวเองจะประสานไปยังอธิบดีอัยการคุ้มครองสิทธิ เพื่อมาคุยกันเรื่องคดีว่าจะจบลงอย่างไรเพราะถ้าแจ้งกันไปกันมาก็เสียเวลากันทั้งคู่ จากที่ดูคลิปมีการพิพาทกันกินแหนงแคลงใจกันมานานไม่มีใครมีความสุขทั้งคู่ หากคุยกันไม่ได้จะประสานไปยังผู้บังคับการจังหวัดนครราชสีมา หากพูดคุยกันไม่ลงตัวจะดำเนินคดีกันอย่างไรให้ถึงที่สุดหรือไม่ก็ว่ากันไป ทั้งนี้จะต้องให้ความเป็นธรรมกับอีกฝ่ายด้วย เพื่อหาทางออกที่ดึ เชื่อว่าปัญหาเพื่อนบ้านจะจบง่ายที่สุดคือการมานั่งพูดคุยกัน.-419.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.แจงปมขอบริจาคลวดหนาม จำเป็นต้องใช้เร่งด่วน

กองทัพบก 13 ส.ค.- โฆษก ทบ. แจงกองทัพภาค 2 ขอบริจาค “ลวดหนามหีบเพลง” เหตุจำเป็นต้องใช้เร่งด่วน เพื่อความปลอดภัยกำลังพล สกัดการลักลอบเข้าพื้นที่ของทหารกัมพูชา ชี้ หากรอกระบวนการจัดซื้อตามกฎหมายใช้เวลา 1 เดือน ย้ำรัฐบาลและกองทัพ มีงบประมาณเพียงพอ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ขอให้กองทัพภาคที่2 หยุดรับบริจาคลวดหนามหีบเพลงจากประชาชน และให้มาขอกับรัฐบาลว่า ยืนยันรัฐบาลและกองทัพมีงบประมาณเพียงพอ แต่ติดขัดในกระบวนการจัดซื้อตามกฎหมาย ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน และหากไม่ปฏิบัติตามระเบียบ อาจทำให้ผู้จัดซื้อมีความผิด ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน มีความจำเป็นต้องใช้ลวดหนามหีบเพลงทันที โดยเฉพาะ 4 จังหวัดชายแดน “อุบลฯ-ศรีสะเกษ-สุรินทร์-บุรีรัมย์” จึงต้องขอรับการสนับสนุนจากประชาชน “การจัดซื้อต้องเป็นไปตามระเบียบราชการ แต่วิธีจัดหาใช้แบบพิเศษได้ แต่ก็ใช้เวลาเป็นเดือน ที่สำคัญ กรณีลวดหีบเพลงสเปกที่ทหารใช้ ไม่มีในท้องตลาดต้องสั่งผลิตจึงใช้เวลานานขึ้นไปอีก ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องของงบประมาณ งบประมาณมีอย่างเพียงพอ มีแค่เรื่องเวลา” โฆษก ทบ. กล่าวและว่า […]

โรงเรียน-โรงพยาบาลในอุบลฯ เปิดวันแรก หลังเหตุปะทะไทย-กัมพูชา

13 ส.ค. – ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ เช้านี้ (13 ส.ค.) ยังปกติ ชาวบ้านติดชายแดนต่างวิตก หวั่นเกิดการปะทะ จึงเก็บสัมภาระเตรียมพร้อมหากต้องอพยพออกจากพื้นที่ ส่วนโรงเรียน-โรงพยาบาล ใน จ.อุบลราชธานี เปิดวันแรก ทำเอาชาวบ้านอยู่ไม่ได้ หลังมีกระแสข่าวว่าจะเกิดการยิงกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จนชาวบ้านต้องขนของอพยพออกจากบ้านกลางดึก เพื่อมาตั้งหลักในตัว อ.กันทรลักษ์ แต่หลังจากแน่ใจว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นจึงเดินทางกลับเข้าบ้านเรือน แต่ยังมีบางส่วนที่ยังไม่ไว้วางใจในสถานการณ์ ออกไปพักบ้านญาติพี่น้องต่างอำเภอ สำหรับสถานที่ราชการในตัว อ.กันทรลักษ์ วันนี้ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ส่วนโรงเรียนบางแห่งประกาศให้เรียนทางออนไลน์แทน เพื่อความปลอดภัย โรงเรียนชายแดน จ.สุรินทร์ ปิดต่อ ให้เรียนออนไลน์เช่นเดียวกับ จ.สุรินทร์ โรงเรียนชายแดนยังปิดต่อ และให้เรียนออนไลน์แทน เพื่อรอดูสถานการณ์ ส่วนผู้ปกครองกังวลถ้ายังเปิดเรียนในช่วงสถานการณ์ยังไม่สงบและไม่ปลอดภัย 100% ส่วนในพื้นที่ อ.พนมดงรัก โรงเรียนประถมฯ บางโรงประกาศให้มีการเรียนการสอนในระบบออนไลน์ช่วงวันที่ 13-15 สิงหาคมนี้ และมีบางโรงเรียนที่กลับมาเปิดเรียนตามปกติแล้ว แต่ไม่บังคับว่านักเรียนต้องมาเรียนทุกคน โดยมีการแจ้งใน LINE กลุ่มผู้ปกครองว่าหากผู้ปกครองท่านใดยังมีความกังวลใจก็อนุญาตให้เด็กลาได้ ส่วนชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ เช้านี้ […]

South Korea Leader and wife at Presidential plane Apr 2023

เกาหลีใต้จับอดีตสตรีหมายเลข 1

โซล 13 ส.ค.- นางคิม คอน ฮี อดีตสตรีหมายเลข 1 ของเกาหลีใต้ ถูกควบคุมตัวตามที่ศาลออกหมายจับเมื่อค่ำวานนี้ หลังจากอัยการยื่นขอหมายจับเพราะเกรงว่าเธอจะทำลายหลักฐานและแทรกแซงการสอบสวนในคดีที่ถูกกล่าวหาหลายคดี นางคิม ซึ่งจะมีอายุครบ 53 ปีในเดือนกันยายน เป็นอดีตสตรีหมายเลข 1 คนแรกของเกาหลีใต้ที่ถูกจับกุม ขณะที่สามีของเธอ คือ อดีตประธานาธิบดียุน ซอก ยอล วัย 64 ปี กำลังถูกคุมขังระหว่างรอการพิจารณาคดี หลังจากถูกถอดถอนจากตำแหน่งกรณีประกาศกฎอัยการศึกเมื่อปลายปี 2567 ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันนางคิมได้โค้งคำนับและไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวขณะเดินทางถึงศาล จากนั้นไปรอฟังคำตัดสินที่สถานกักขังในกรุงโซลตามธรรมเนียมปฏิบัติของเกาหลีใต้ โฆษกคณะอัยการพิเศษที่ได้รับการแต่งตั้งเมื่อต้นเดือนมิถุนายนแถลงว่า อัยการยื่นขอหมายจับนางคิม เนื่องจากเกรงว่าเธอจะทำลายหลักฐานและแทรกแซงการสอบสวน สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้รายงานว่า ศาลอนุมัติหมายจับตามคำแถลงเรื่องเธอมีความเสี่ยงที่จะทำลายหลักฐาน อดีตสตรีหมายเลข 1 ของเกาหลีใต้ถูกตั้งข้อหาหลายคดี ตั้งแต่การปั่นหุ้นไปจนถึงการรับสินบนและการใช้อิทธิพลแทรกแซงอย่างผิดกฎหมายที่พัวพันกับเจ้าของธุรกิจ บุคคลทางศาสนา และผู้มีอิทธิพลทางการเมือง เธอถูกกล่าวหาว่า ทำผิดกฎหมายเรื่องสร้อยคอประดับจี้ยี่ห้อหรูที่สวมไปร่วมการประชุมสุดยอดองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ที่สเปน พร้อมกับสามีในปี 2565 เนื่องจากไม่ได้แจ้งรายการทรัพย์สินจี้ดังกล่าวที่มีข่าวว่าราคาสูงกว่า 60 ล้านวอน (กว่า 1.4 ล้านบาท) เธอให้การกับอัยการว่าเป็นของปลอมที่ซื้อในฮ่องกงเมื่อ […]

สภาถกงบฯ 69 วันแรก “พิชัย” แจงหั่นงบ 8,920 ล้าน

รัฐสภา 13 ส.ค. – ที่ประชุมสภาฯ เริ่มถกงบฯ 69 วันแรกแล้ว “พิชัย” แจงรายงาน กมธ. เหตุหั่นงบ 8,920 ล้านบาท เพราะไม่สอดคล้องภาาวะปัจจุบัน-การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย ในการประชุมสภาฯ เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระสอง ซึ่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาแล้วเสร็จเป็นวันแรก โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2569 ว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้พิจารณาร่างงบประมาณ 69 เรียบร้อยแล้ว โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินภารกิจเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคแห่งชาติ เป้าหมายพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งแผนปฏิบัติราชการของกระทรวง โดยพิจารณาตามความจำเป็นและภารกิจของหน่วยรับงบประมาณ และแผนพัฒนาพื้นที่ตามความต้องการของประชาชน […]