กทม. 1 ก.ย.-สืบนครบาล ร่วมสืบ 115 รวบ “ดาริกา” แม่ค้าในไอจี ชักชวนให้ซื้อเสื้อผ้าลอตใหญ่ เสียหายกว่า 1.2 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2567 สืบนครบาล ร่วมสืบ 115 จับกุม น.ส.ดาริกา อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี กระทำผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยจับกุมได้บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้า ซอยสุขุมวิท 19 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม.
พฤติการณ์ที่เป็นเหตุให้ถูกออกหมายจับ เมื่อประมาณเดือนมกราคม 2565 น.ส.สุพรรณี ผู้กล่าวหา ได้ทำการซื้อสินค้าประเภทเครื่องสำอางแบรนด์เนม จากหน้าเพจฝากขายอินสตาแกรม (ig) ซึ่ง น.ส.ดาริกา ผู้ต้องหา ฝากขายและผู้กล่าวหาได้รู้จักผู้ต้องหา โดยเห็นจากหน้าเพจฝากขายอินสตาแกรม (ig) ของเว็บไซต์ขายสินค้าของผู้ต้องหา โดยผู้กล่าวหาได้แอดไลน์หาส่วนตัว เพราะเห็นว่าผู้ต้องหาขายสินค้าราคาถูกกว่าหน้าร้านปกติทั่วไป ซึ่งผู้กล่าวหาซื้อจริง มีสินค้าจริง แต่ซื้อปริมาณสินค้าน้อย มีมูลค่าหลักร้อยบาทถึงหลักพันบาท และเป็นการซื้อผ่านแอปพลิเคชัน ระหว่างนี้ผู้ต้องหาพยายามพูดชักชวนผู้กล่าวหาให้ลงทุนซื้อสินค้าดังกล่าวมาขายเอง โดยผู้ต้องหาเสนอว่ามีสินค้าอีกจำนวนมากแต่เป็นของพี่สาวผู้ต้องหาจะเอามาขายให้ผู้กล่าวหาและจะหาลูกค้าซื้อสินค้าให้ ผู้กล่าวหาจึงตกลงซื้อสินค้ามาขาย และเริ่มซื้อสินค้าเงินหลักหมื่นบาท เนื่องจากผู้ต้องหาได้ส่งสินค้าให้ตามที่ตกลง ต่อมาผู้ต้องหาได้ชวนให้ซื้อสินค้ามาขาย จำนวนลอตใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โดยใช้กลอุบายต่างๆ มาหลอกลวงทำให้ผู้กล่าวหาหลงเชื่อ สั่งสินค้ามาขายเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,809,590 บาท และผู้ต้องหาได้นำสินค้ามาส่งให้ผู้กล่าวหาคิดเป็นเงิน 572,930 บาท และผู้ต้องหายังไม่ส่งสินค้าให้ผู้กล่าวหา คิดเป็นเงินรวมจำนวน 1,236,660 บาท เมื่อผู้กล่าวหาขอตรวจสอบว่าผู้ต้องหาได้โอนเงินไปชำระค่าสินค้าที่บัญชีธนาคารใด ผู้ต้องหาก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ จึงเชื่อว่าถูกผู้ต้องหาหลอกลวงมาแต่ต้น จึงเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.โคมคราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ทำบันทึกการจับกุม และ นำตัวผู้ถูกจับส่งพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ สน.โคกคราม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ฝากเตือนว่า การซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ได้กลายมาเป็นตัวเลือกอันดับแรกของใครหลายๆ คน ทั้งสะดวก ประหยัดเวลา อย่างไรก็ตาม ย่อมทำให้มิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาในโลกอินเตอร์เน็ตมากขึ้นด้วย ฉะนั้นมาป้องกันไม่ให้เราตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ด้วยวิธีการเบื้องต้น ดังนี้ ตรวจสอบและเปรียบเทียบราคาสินค้าจากหลายๆร้าน เลือกซื้อของจาก Official store หรือแพลตฟอร์มที่ไว้ใจได้ เก็บหลักฐานการโอนเงินไว้เสมอ ทำลายข้อมูลส่วนตัวบนกล่องพัสดุ ตรวจสอบบัญชีผู้โอน สืบประวัติของผู้ขายเบื้องต้น โดยนำเลขที่บัญชีหรือชื่อของผู้ขายไปค้นหาบน Google เพื่อที่จะหาประวัติว่าเคยมีคนโพสต์เกี่ยวกับการฉ้อโกงในการซื้อของหรือไม่ โอกาสที่เราจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพจะเกิดขึ้นน้อยมากหากเราใช้ “สติ”.-414.-สำนักข่าวไทย