เร่งหาแหล่งขาย “เมทานอล” ให้เจ้าของโรงงานผลิตเหล้าขาว

29 ส.ค.- ตำรวจเร่งสืบหาแหล่งขาย “เมทานอล” ให้สองพี่น้องเจ้าของโรงงานผลิตเหล้าขาว ส่วนคลัสเตอร์ใหม่ 5 จุด อยู่ระหว่างการทยอยเรียกผู้เสียหายมาสอบปากคำ ด้าน กรมคุ้มครองสิทธิฯ เตรียมเยียวยาผู้เสียหายทุกคน


พันตำรวจเอก อิสระ ณ พัทลุง รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 เปิดเผยความคืบหน้าคดียาดองมรณะ ว่า จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนพบว่านายสุรศักดิ์ หรือ เอส และนายสุรชัย หรือ อาร์ท 2 พี่น้องเจ้าของโรงงานผลิตเหล้าขาว มีการสั่งซื้อผ่านนายกรกฏ หรือ บอล และนางนฤวร หรือป้อน สามีภรรยา เป็นผู้ค้าคนกลางที่ไปซื้อเอทานอลที่ร้านเคมีภัณฑ์แห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ มานานกว่า 1 ปี โดยตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ทำธุรกิจด้วยกันมา นายเอสและนายอาร์ตมีการติดเงินอยู่บ่อยครั้ง กระทั่งเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่าน สามีภรรยาจึงไม่ส่งสินค้าให้นายเอสและนายอาร์ต จึงทำให้ตนเองไม่ทราบว่าพี่น้อง 2 คนนี้ไปหาซื้อสารเมทานอลที่ใด ซึ่งขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผลหาแหล่งที่มาอยู่

ผลการตรวจวัดหาสารเมทานอลภายในโรงงานผลิตเหล้าขาวของสองพี่น้อง ที่กรมสรรพสามิตรายงานมาพบว่ามีค่าเกินมาตรฐาน เช่นเดียวกันกับบ้านของเจ๊ปู ส่วนคลัสเตอร์ 18 จุดที่เป็นเครือข่ายของเจ๊ปูนั้น พบว่าสารเมทานอลมีความแตกต่างกันในแต่ละจุด ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าผู้ค้ารายย่อยมีการไปผสมเพิ่มเติม หรือสารเมทานอลมีความเจือจาง เนื่องจากผู้ค้ารายย่อยแต่ละคนรับยาดองกันมาต่างวันกัน ส่วนเรื่องคลัสเตอร์ใหม่ 5 จุด ในโซนกรุงเทพฯตะวันออก อยู่ระหว่างการทยอยสอบปากคำผู้เสียหาย เพื่อพิสูจน์ว่าทั้ง 5 จุดนี้รับยาดองมาจากผู้ใด


ขณะที่ผลการตรวจค้นโรงงานผลิตเหล้าขาวของสองพี่น้องที่อยู่ในซอยกาญจนาภิเษก 25 แยก 1-3 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่ายังมีแกลลอนที่บรรจุเอทานอลจำนวนหนึ่ง รวมทั้งอุปกรณ์ในการใช้ผลิตเหล้าขาว และยังมีบรรจุภัณฑ์ที่เป็นโลหะบางอย่าง ซึ่งต้องสงสัยว่าอาจจะเคยใช้ในการบรรจุเมทานอล ซึ่งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจอยู่ระหว่างการพิสูจน์

ด้านนายปวินท์ หน่อแก้ว เจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวจะให้การเยียวยาในส่วนของความเสียหายจากคดีอาญา โดยคดีนี้มีทั้งผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต และได้มีญาติผู้ตายพร้อมด้วยผู้บาดเจ็บในบางรายเข้ามาแจ้งความที่ สน.มีนบุรี ทางเราก็ได้รับเรื่องจาก สน.มีนบุรี และก็จะทยอยรับเรื่องต่อไป โดยในส่วนนี้จะมีค่าเยียวยาในกรณีที่เสียชีวิตมีค่าตอบแทนคนตายให้ 30,000 – 100,000 บาท ค่าจัดงานศพ 20,000 บาท ค่าอุปการะเลี้ยงดู 40,000 บาท และความเสียหายอื่นๆ อีก 40,000 บาท ส่วนกรณีที่มีผู้บาดเจ็บจะขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของอาการ ซึ่งจะให้ค่ารักษาพยาบาลตามจริงไม่เกิน 40,000 บาท ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายจิตใจไม่เกิน 20,000 บาท ค่าขาดประโยชน์ทางรายได้ตามค่าแรงขั้นต่ำไม่เกิน 14,000 บาท หลังจากที่มีการรับเรื่องร้องเรียนจากทางญาติก็จะดำเนินการทำหนังสือและยื่นถึงคณะอนุกรรมการ เพื่อดำเนินการพิจารณาต่อไป

ขณะที่พันตำรวจเอก กฤษ ก้อมน้อย ผู้กำกับการ สน.มีนบุรี เปิดเผยว่า ในความคืบหน้าของคดีนี้ จากการสืบสวนทราบว่ามีขบวนการแอบอ้างนำสารเอทานอลมาผสมกับน้ำ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าเป็นสุราขาว และขายตามสถานบันเทิงหรือร้านค้าต่างๆ จึงอยากจะขอเตือนผู้ที่กระทำการดังกล่าว ให้นึกถึงผู้บริโภค ส่วนผู้ที่ผลิตยาดองแล้วจะนำสุราขาวมาผสมไว้จำหน่ายนั้น ควรจะนำสุราขาวที่ได้รับรองจากกรมสรรพสามิตมาผสมเป็นยาดองเท่านั้น ส่วนผู้บริโภคที่รู้อยู่แล้วว่ายาดองหรือสุราเป็นอันตรายต่อสุขภาพก็อยากให้พิจารณาในการบริโภคด้วยเช่นกัน


ขณะที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี สน.บางชัน นำหมายค้นจากศาลอาญามีนบุรี เข้าค้นบ้านของนายสุรศักดิ์ หรือ เอส อายุ 46 ปี และนายสุรชัย หรือ อาร์ท อายุ 44 ปี 2 ผู้ต้องหาเจ้าของโรงงานเหล้าขาว ภายในบ้านพักหลังหนึ่งในซอยกาญจนาภิเษก 25 แยก 1-3 เพื่อให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเก็บหลักฐานภายในบ้านเพิ่มเติม

โดยในระหว่างที่ตำรวจกำลังนำหมายค้นเข้าไปภายในบ้านพักนั้น ได้มียายของนายเอส และนายอาร์ท ได้ร้องไห้โฮออกมา เจ้าหน้าที่ต้องพยายามปลอบประโลม และอธิบายว่าเป็นแค่มาค้นบ้านเพื่อพยายามหาหลักฐานเพิ่มเติม

สำหรับนายเอส และนายอาร์ท พนักงานสอบสวน สน.บางชันได้ควบคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญามีนบุรีฝากขังไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการขยายผลว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนไปซื้อเมทิลแอลกอฮอล์มาจากที่ใด. 415.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย