นิติเวชยืนยันหากได้รับเมทานอลสูงเกิน 150 มก./ลิตร ทำให้ตายได้

พฐ.27 ส.ค. – นิติเวชยืนยันเลือดออกในสมองเกิดจากสารพิษเมทานอลผสมในเหล้าเถื่อน รอผลห้องปฏิบัติการ 30 วัน ชี้หากได้รับปริมาณเกิน 150 มิลลิกรัมต่อลิตร ทำให้ตายได้


พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) เปิดเผยถึงกรณีการผ่าชันสูตรศพที่เสียชีวิตจากการได้รับสารพิษเมทานอลจากการดื่มเหล้าเถื่อนว่า คดีเมทิลแอลกอฮอล์มีโรงพักที่เกี่ยวข้องคือ สน.บางชัน และ สน.มีนบุรี โดยที่ สน.มีนบุรี ได้แจ้งเหตุให้ไปทำการตรวจพิสูจน์ในวันที่ 26 สิงหาคม 67 ในเวลา 17.00 น. โดยเก็บพยานหลักฐานเพื่อส่งตรวจพิสูจน์ ซึ่งมีสมุนไพรต่างๆ ในโอ่งภายในห้องครัว ด้านหลังชั้นล่างพบสมุนไพรต่างๆ มีหลายชนิด ประกอบไปด้วย ดอกคำฝอย กระชาย มะตูม ชะเอม ฯลฯ ซึ่งเป็นการเตรียมพวกยาดองได้ส่งมอบพนักงานสอบสวนแล้ว อยู่ระหว่างการส่งกลับมาให้ พฐ.ตรวจพิสูจน์ ส่วนที่ สน.บางชัน ตำรวจร่วมกับกรมสรรพสามิต เข้าตรวจค้นของเหลวประมาณ 10 ลิตร อยู่ในแกลลอนสีขาว และมีถังพลาสติกเปล่าขนาด 200 ลิตร ซึ่งสันนิษฐานไว้ว่าใช้ในการเตรียมผสมเหล้าได้ส่งของกลางทั้งหมดมาที่ พฐ.เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนห้องปฏิบัติการเพื่อแยกของเหลวตรวจหาให้ได้ว่าเป็นเมทิลแอลกอฮอล์ หรือเป็นเอทิลแอลกอฮอล์อย่างไร โดยยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นเมทิลแอลกอฮอล์หรือไม่ ส่วนที่ส่งไปนิติเวชจะเป็นการยืนยันผลซ้ำ ส่วนจะสอดคล้องกับการผ่าพิสูจน์หรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับผลจากห้องปฏิบัติการ ทั้งนี้หากทราบผลจะรายงานกลับไปยัง สน.บางชัน คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 3 วัน จะรู้ผล

ด้าน พ.ต.อ.หญิงณปภัช ณัฏฐสุมน หัวหน้ากลุ่มงานนิติพยาธิ สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า สถาบันนิติเวชได้รับศพทั้งสามรายจากสน.มีนบุรี 2 ราย สน.บางชัน 1 ราย ได้รับมา เมื่อวันที่ 24-26 ส.ค.67 วันละ 1 ราย เป็นเพศชายอายุ 30-47 ปี ในการตรวจสอบเบื้องต้นถ้าเป็นพิษจากเมทานอลจะต้องใช้การตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันว่าได้รับพิษมา แต่เนื่องจากทั้ง 3 ราย ได้รับการรักษามาก่อน จึงยากต่อการตรวจสอบและอาจไม่พบได้ ซึ่งจะต้องไปดูจากผลเลือดที่ได้รับการรักษาในวันแรก ทั้งนี้ หากได้รับเมทานอลในปริมาณ 20 มิลลิกรัมต่อลิตร จะมีอาการเริ่มต้นจากปวดท้อง หากได้รับเยอะจะมีอาการตาพร่ามัว และมีอาการทางประสาทได้ และหากได้รับในปริมาณมากจะระคายเคืองท้อง ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งหากได้รับเมทานอลในปริมาณมากจะส่งผลจำเพาะต่อตา จะทำให้ตาพร่ามัว หากได้รับระดับสูงจะทำให้เกิดอาการโคม่าและเสียชีวิตได้ หากพบเกินปริมาณ 150 – 200 มิลลิกรัมต่อลิตร


ส่วนกรณีพบเลือดออกในสมอง บ่งชี้ได้หรือไม่ว่าเป็นผลข้างเคียงจากการได้รับเมทานอล พ.ต.อ.หญิงณปภัช กล่าวว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเลือดออกในสมองเป็นผลจากการได้รับสารพิษชนิดนี้โดยตรงหรือไม่ จากการผ่าพิสูจน์พบ 1 ราย จาก 3 ราย มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดจากเมทานอล เพราะเมทานอลจะทำให้เกิดกรดในเลือด แต่จะต้องดูที่สาเหตุอื่นด้วย เพราะศพบางรายก็ไม่พบ ทั้งนี้ ทั้ง 3 ราย พบว่ามีประวัติการดื่มสุรา แต่ยังไม่สามารถยืนยันว่าได้ดื่มสุราจริงหรือไม่ เพราะต้องรอผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 30 วัน ที่ผ่านมาเคยมีประสบการณ์ตรวจศพที่ได้รับสารพิษเมทานอล แต่จะไม่มีอาการเฉพาะเจาะจงนอกจากจะตรวจเลือดแล้วเจอในระดับที่เป็นอันตราย.-419- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย