19 ส.ค. – ตำรวจ ปคบ.บุกทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้า YAI VAPE เจ้าพ่อค้าส่งบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ทางออนไลน์ในภาคเหนือ ยึดของกลาง 31,790 ชิ้น รวมมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท พบมีผู้สูบหน้าใหม่เด็กนักเรียนวัย 12 ปี ส่วนบุหรี่ไฟฟ้าพัฒนาให้ 1 อัน สูบได้ถึง 2 หมื่นครั้ง ทำให้เด็กและเยาวชนสามารถซื้อไปแบ่งกันสูบ
ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค แถลงผลปฏิบัติการผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าช่องทางออนไลน์รายใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือ ยึดของกลาง 31,790 ชิ้น รวมมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท
พล.ต.ท.นิรันดร เหลือมศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เครือข่าย YAI VAPE ที่เข้าจับกุม พบว่าได้ดำเนินธุรกิจมา 4 ปีกว่าแล้ว มีเงินหมุนเวียนเดือนละประมาณ 10 ล้านบาท กลุ่มลูกค้าอยู่ในเขตจังหวัดภาคเหนือตอนบน ซึ่งจากของกลางที่ตรวจยึดได้ พบว่ามีรูปแบบของบุหรี่ไฟฟ้าที่หลากหลาย ทั้งรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดเด็กๆ และการพัฒนาให้ 1 อันสามารถสูบได้ถึง 2 หมื่นครั้ง ทำให้เด็กและเยาวชนสามารถซื้อไปแบ่งกันสูบได้ รวมถึงกลิ่นรสต่างๆ เช่น กลิ่นนม กลิ่นขนม
ก่อนหน้านี้ ตำรวจ ปคบ. ได้สืบสวนพบว่า มีการประชาสัมพันธ์ ขายบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ผ่านทางเว็บไซต์ เมื่อมีคนสนใจ จะชักชวนให้เข้าไปพูดคุยในกลุ่มไลน์ เจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่สืบสวน โดยใช้เวลากว่า 3 เดือน เนื่องจากเครือข่ายนี้ ได้ใช้บ้านพักเปิดเป็นบริษัทขนส่งเอกชนเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ จนเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา จึงได้ดำเนินการขอศาลออกหมายค้นและเข้าตรวจค้นบ้านพักภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ พบของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ รวมจำนวน 31,790 ชิ้น มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท และยังพบ นายศรัณยู อยู่ภายในบ้าน ซึ่งยอมรับว่า เป็นเจ้าของร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า และเป็นผู้รับเงินเข้าบัญชีโดยตรง จัดจำหน่ายช่องทางออนไลน์และแพคสินค้าจัดส่งตามออเดอร์ จึงได้จับกุมดำเนินคดี ในความผิดขายสินค้าที่ห้ามขาย ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค และความผิดฐานซ่อนเร้นของที่นำเข้ามาโดยผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ศุลกากร และจะตรวจสอบว่าเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินหรือไม่ต่อไป / ในส่วนของแหล่งผลิตต้นทางนั้น ตอนนี้ตำรวจมีข้อมูลแล้ว แต่แหล่งผลิตต้นทางนั้นไม่ได้ผิดกฎหมาย จึงต้องไปเข้มงวดในเรื่องของการนำเข้า และได้มีการประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อแก้ปัญหาช่องโหว่ทางกฎหมายต่อไป
นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าจากการขยายผลพบว่า ในจังหวัดนครปฐมมีนักการเมืองท้องถิ่น รองนายก อบต. เกี่ยวข้องกระทำผิด ซึ่งขณะนี้มีคำสั่งให้ออกจากราชการเรียบร้อยแล้ว สำหรับของกลางที่ตรวจยึดมาได้ ทางกระทรวงสาธารณสุขจะนำไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจหาสารภายในบุหรี่ไฟฟ้าต่อไป ย้ำบุหรี่ไฟฟ้าแม้จะมาจากประเทศใดก็ตาม แต่ประเทศไทยยังถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ทุกหน่วยงานต้องทำงานสกัดกั้นอย่างเข้มข้น พร้อมฝากอยากให้ทุกพื้นที่เฝ้าระวัง หากพบยังมีการปล่อยปะละเลยอาจต้องมีการพิจารณาปรับเปลี่ยนโยกย้ายการบริหารงานในพื้นที่ทันที
นอกจากนี้บุหรี่ไฟฟ้ามีการเปลี่ยนแปลงพัฒนารูปแบบ เช่น ทำให้สามารถสูบได้หลายครั้งมากขึ้น รูปลักษณ์ที่เป็นแฟชั่น ทำเป็นรูปตัวการ์ตูน มีสายคล้องคอ เพื่อให้เด็กและเยาวชนสามารถตบตาผู้ปกครองและครูอาจารย์ได้ โดยบุหรี่ไฟฟ้ามีผลเสียต่อสุขภาพ มีทั้งสารนิโคติน / สารปรอท / สารตะกั่ว / และสารอื่นๆ อีก เช่น น้ำมันกัญชาที่ถูกนำมาผสมให้คนสูบได้ชื่นชอบมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากการจับกุม เคยพบผู้สูบเป็นนักเรียนหญิงชั้น ม.ต้น อายุเพียง 12 ปีเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง จึงอยากให้มีกฎหมายควบคุมโดยตรงด้วย สำหรับการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าป็นความผิดตามกฎหมาย มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ. -416-สำนักข่าวไทย