26 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์รวบ “นางฟ้า ตาโต” เจ้าแม่เงินกู้ดอกโหดชุมพร คิดดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาทต่อวัน จ่ายช้าโพสต์ประจานโซเชียล
สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ตำรวจไซเบอร์ระดมกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา, กลุ่มเจ้าหนี้ที่มีพฤติการณ์ใช้ความรุนแรงในการทวงหนี้ และการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาขนจากนายทุนปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 ลงพื้นที่ออกสืบสวนหาข่าว จนพบเบาะแสการกระทำผิดบนสื่อโซเชียล ว่ามีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “นางฟ้า ตาโต” ได้ปล่อยเงินกู้เรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 2 บาทต่อวัน หรือร้อยละ 60 บาทต่อเดือน มีค่าปรับวันละ 50 บาท หากลูกหนี้ไม่จ่ายหรือจ่ายล่าช้า จะทำการโพสต์ภาพประจานลูกหนี้ผ่านโซเชียล และยังมีการโทรศัพท์ข่มขู่และใช้ถ้อยคำหยาบคายต่อว่าลูกหนี้อีกด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนสามารถพิสูจน์ทราบตัวตนและที่พักอาศัยของเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดหลังสวนออกหมายค้นสถานที่เป้าหมายได้สำเร็จ
กระทั่งช่วงเย็นของวันที่ 24 ก.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้นำหมายค้นศาลจังหวัดหลังสวนที่ 60/2567 ลงวันที่ 23 ก.ค.67 เข้าตรวจค้นร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.สวี จ.ชุมพร พบ น.ส.อังคณา อายุ 41 ปี เจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว สามารถตรวจยึดโทรศัพท์มือถือที่ใช้โพสต์ปล่อยกู้เงินและทวงเงินลูกหนี้ และรถยนต์เก๋งสีขาว จำนวน 1 คัน ที่มีผู้มาจำนำไว้กับตน
เบื้องต้น น.ส.อังคณา รับว่าตนเองได้ปล่อยเงินกู้จริง โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาทต่อวัน ยกตัวอย่างเงื่อนไข การกู้เงินและอัตราดอกเบี้ย เช่น 5,000/300/25 วัน หมายความว่า เงินต้น 5,000 บาท จ่ายวันละ 300 บาท จำนวน 25 วัน เป็นต้น ส่วนรถยนต์เก๋งสีขาวดังกล่าว ก็มีผู้ติดต่อมาทางแชทเฟซบุ๊กเพื่อขอจำนำ
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้แจ้งข้อหา “ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงินโดยมีลักษณะ (1) เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้, ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล โดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบกิจการโรงรับจำนำโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ” จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.-416-สำนักข่าวไทย