ตร.โชว์ยิงเสื้อเกราะ ยันไม่ได้ทำจากไม้อัด

กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – ตำรวจจัดโชว์ยิงเสื้อเกราะที่ปรากฏในสื่อโซเชียล ยันไม่ได้ทำจากไม้อัด เป็นเส้นใยซ้อนทับตามมาตรฐานสากล ชุดจัดซื้อนี้เลิกใช้งานมา 8 ปีแล้ว ป้องกันได้ถึงระดับอาวุธสงคราม


ทีมโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวชี้แจงกรณีปรากฏภาพเสื้อเกราะของตำรวจว่าวัสดุด้านในลักษณะคล้ายไม้อัด ทำให้สังคมเกิดข้อสงสัยว่าเสื้อเกราะดังกล่าวสามารถป้องกันอันตรายให้เจ้าหน้าที่ผู้ใช้งานได้หรือไม่

พ.ต.อ.วีระยุทธ หิรัญ รองผู้บังคับการกองสรรพาวุธ กล่าวว่า เสื้อเกราะที่ปรากฏตามภาพในโซเชียลมีเดีย ที่มีหมายเลขซีเรียลนัมเบอร์ 8A154338 ดังกล่าวเคยใช้ในราชการตำรวจ โดยจัดซื้อเมื่อเดือนเมษาย 2553 ทั้งหมด 650 ตัว เป็นเสื้อเกราะพร้อมแผ่นเกราะแข็งระดับ 3 จำนวน 500 ตัว และเป็นเกราะอ่อนอีก 150 ตัว ยืนยันว่าเกราะทุกตัวเป็นไปตามมาตรฐาน NIJ (National institute of Justice) ประเทศสหรัฐอเมริกา


หลังเกิดประเด็นในสังคม ทางกองสรรพาวุธได้ไปตรวจสอบในส่วนของการจัดซื้อจัดจ้างเสื้อเกราะ ซึ่งวิธีการจัดซื้อจัดจ้าง คือ ให้ผู้เสนอราคานำแผ่นเกราะมาเสนอพร้อมยื่นราคา จากนั้นจะมีการทดสอบประสิทธิภาพการป้องกัน โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ยิงทดสอบ จนเมื่อผ่านเกณฑ์ไปแล้ว ผู้ที่เสนอราคาผ่านจะต้องถูกสุ่มตรวจวัสดุของเกราะอีกครั้งหนึ่งแบบมีหลักการจากหน่วยงานกลาง เพื่อพิจารณาเรื่องเส้นใยวัสดุที่จะต้องมีความแข็งแรงปลอดภัยสูงสุด สรุปได้ราคาจัดซื้อชุดดังกล่าวที่ราคา 34,000 บาทต่อตัว

พ.ต.อ.วีระยุทธ ยืนยันว่า การจัดซื้อจัดจ้างเกราะเป็นไปโดยโปร่งใสตามขั้นตอน ตรวจสอบได้ ยุทธภัณฑ์นี้มีประสิทธิภาพป้องกันได้ถึงระดับปืนซุ่มยิง หรือที่รู้จักปืน M16 ปืนอาก้า ปืนอาวุธสงคราม

ด้าน พล.ต.ต.นิรันดร ศิริสังข์ไชย ผู้บังคับการกองสรรพาวุธ กล่าวว่า นอกจากการจัดหาเสื้อเกราะให้กำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำหนดการประกันคุณภาพเสื้อเกราะ รวมทั้งประกันชีวิตและประกันการบาดเจ็บของผู้สวมใส่ไว้ตามระยะเวลาข้างต้นด้วยหากได้รับบาดเจ็บ เป็นเงิน 500,000 บาท เสียชีวิตเป็นเงิน 1 ล้านบาท ทั้งนี้ เกราะดังกล่าวที่เป็นประเด็นตามระเบียบราชการ ถือว่าหมดอายุการใช้งานแล้วเมื่อปี 2559 เพราะตามอายุที่กำหนดไว้คือ 5 ปีเท่านั้น ขั้นตอนจากนี้จะเป็นการจำหน่ายและทำลายยุทธภัณฑ์ตามระเบียบราชการ


ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ กล่าวว่า ภาพเกราะที่ปรากฏตามสื่อโซเชียลเป็นเกราะของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในชุดจัดซื้อ 8A154338 จริง แต่เศษไม้ลักษณะสามเหลี่ยมที่วางอยู่บนเกราะ ยืนยันว่าไม่ใช่ส่วนหนึ่งของเกราะแน่นอน แต่เป็นชิ้นส่วนจากสิ่งใดยังไม่สามารถให้คำตอบได้ เนื่องจากภาพที่โพสต์เป็นการครอปภาพแบบแคบ จนไม่เห็นภาพรวมของเสื้อเกราะ

ทั้งนี้ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานได้รับแผ่นเกราะมาทดสอบเพื่อหาคำตอบว่าวัสดุภายในเป็นสิ่งใดบ้าง โดยเจ้าหน้าที่นำมาชำแหละตรวจสอบโครงสร้างวัดขนาด ชั่งน้ำหนัก จากนั้นตรวจสอบทางกายภาพ พบว่าวัสดุของเกราะมีการวางซ้อนกันด้วยผ้าแผ่นบางๆ ซ้อนกันมากกว่า 100 ชั้น

เมื่อถ่ายจากกล้องวิดีโอไมโครสโคป 3D กำลังขยาย 1,500 ขึ้นไป จะพบว่าวัสดุของเกราะเป็นเส้นใยโพลีเอทิลีน ผสมกับพอลิสไตรลีน อัดด้วยกำลังอัดแน่นความดันสูง จนทำให้ผ้าทั้งหมดรวมตัวกัน จึงมีลักษณะเหมือนของแข็ง

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า คุณสมบัติของเส้นใหญ่โพลีเอทิลีน เมื่อผ่านกระบวนการผลิตเทคนิคพิเศษทำให้เกิดความแข็งแรงและมีน้ำหนักเบา เมื่อมาใช้กันกระสุน คุณสมบัติของเส้นใยชนิดนี้กระสุนจะถูกจับยึดด้วยเส้นใย เส้นใยเหล่านี้จะดูดซับและกระจายพลังงานของหัวกระสุนปืน เป็นผลให้กระสุนนั้นบิดเบี้ยวหรือเสียรูปไปจนไม่สามารถทะลุเกาะได้

หลังตรวจสอบวัสดุ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานฯ ได้ทดสอบด้วยการยิงกระสุนจริงใส่เสื้อเกาะ โดยใช้กระสุนขนาด 9 มม. ขนาด .357 และขนาด 45 มม. อย่างละ 3 นัด รวม 9 นัด ผลปรากฏว่าเสื้อเกราะทั้ง 3 ตัว สามารถกันกระสุนได้ทั้งหมด ไม่มีกระสุนนัดใดทะลุเสื้อเกราะ

ขณะที่ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า หลังจากยุทธภัณฑ์หมดอายุการใช้งานจะไม่สามารถขายให้บุคคลใดได้ เนื่องจากเป็นยุทธภัณฑ์ของทางราชการ ขอย้ำกับพี่น้องข้าราชการตำรวจที่ต้องทำงานที่มีความเสี่ยงว่าผู้บังคับบัญชาทุกระดับมีความเป็นห่วงในการที่พวกท่านต้องออกปฏิบัติหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชน สิ่งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดหาให้ขอให้เชื่อมั่นว่าเป็นไปตามมาตรฐาน

โดยในระหว่างการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ได้เปิดคลิปวิดีโอยิงทดสอบเสื้อเกราะ ระบุหมายเลขซีเรียลนัมเบอร์ 8A154338 ซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่ปรากฏในภาพดังกล่าวให้รับชม ด้วยอาวุธปืนพก 3 แบบ ประกอบด้วยกระสุนขนาด 9 มม., ขนาด .357 แม็กนั่ม และขนาด .45 อย่างละ 3 นัด พร้อมอธิบายถึงวัสดุและเส้นใยที่ใช้ผลิตเสื้อเกราะตัวดังกล่าว ซึ่งผลปรากฏว่าเกาะดังกล่าวสามารถกันกระสุนได้จริง นอกจากนี้ยังได้นำเสื้อเกราะตัวดังกล่าวมาทดลองให้สื่อมวลชนชายได้นำทดสอบเลื่อยด้วยตนเอง ซึ่งพบว่าเกราะดังกล่าวยังมีความเหนียว และไม่สามารถตัดเข้าได้สำเร็จ

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวยังได้ขอให้มีการทดลองยิงเสื้อเกราะตัวเดียวกันอีกครั้ง โดยมีตัวแทนผู้สื่อข่าวเข้าไปร่วมสังเกตการณ์ โดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ นำเสื้อเกราะตัวเดียวกันไปทดสอบยิงที่ห้องปฏิบัติการ ด้วยอาวุธปืนพก 3 แบบ ประกอบด้วยกระสุนขนาด 9 มม., ขนาด .357 แม็กนั่ม และขนาด .45 รวม 8 นัด ในระยะยิง 5 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่อาวุธปืนทั้ง 3 ชนิดสามารถแสดงผลความเสียหายได้ดีที่สุด โดยปรากฏร่องรอยกระสุน บริเวณท้อง ไหล่ซ้าย-ขวา ซึ่งพบกระสุนทั้งหมดฝังอยู่ในเสื้อเกราะ ไม่ได้ทะลุออกไป.-419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน

“สันธนะ” เปิดใจหลังเคลียร์ใจ “ชูวิทย์” กลับไทยขึ้นศาล

“สันธนะ” เผย นอนคิดมา 1 คืนเริ่มใจอ่อนรับคำขอโทษ “ชูวิทย์” รับรู้ถึงความจริงใจ แต่คดีอาญาถอนฟ้องไม่ได้ ต้องปล่อยไปตามกฎหมาย