อาลัย “รองหรั่ง” ตั้งบำเพ็ญกุศลวัดยางสุธาราม

วัดยางสุทธาราม 22 ก.ค.- ญาตินำร่าง “รองหรั่ง” ตั้งบำเพ็ญกุศลวัดยางสุธาราม ขณะที่บุคคลสำคัญทางการเมืองและตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ทยอยร่วมแสดงความอาลัยเนืองแน่น


บรรยากาศที่วัดยางสุทธาราม ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา หลังญาติได้นำร่างของ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม สน.ท่าข้าม มาประกอบพิธีศาสนา พบว่ามีบุคคลสำคัญทางการเมืองและตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนายได้ส่งพวงหรีดมาร่วม แสดงความอาลัย เช่น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอกธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมทั้งบรรดาเพื่อนร่วมรุ่นตำรวจอีกหลายนาย

สำหรับกำหนดการพระราชทาน น้ำหลวงอาบศพ สวดพระอภิธรรม เริ่มขึ้นในเวลา 16.00 น. โดยเป็นพิธีรดน้ำศพ ก่อนที่ในเวลา 17.00 น. จะเป็นพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และในเวลา 19.00 น. เป็นพิธีสวดพระอภิธรรม ซึ่งจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมไปจนถึงวันที่ 27 กรกฎาคม ก่อนที่จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 29 กรกฎาคม 2567 เวลา 17.00 น.


ขณะที่ พันตำรวจโทวันเผด็จ จันยะรมณ์ รองผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ บก.ปอศ. ซึ่งเป็นหลานของพันตำรวจโทกิตติ์ชนม์ เปิดเผยว่า รู้สึกตกใจหลังจากทราบเหตุ แต่ส่วนตัวเข้าใจว่าในวันเกิดเหตุ อาคงคิดว่าเหตุเบาลงแล้ว เพราะตอนแรกเห็นอาใส่ชุดเกราะและมีการเจรจากับผู้ก่อเหตุแล้ว ประกอบกับภรรยาของผู้ก่อเหตุห่วงลูกและอยากให้นำตัวลูกออกมาจากบ้าน อาจึงเข้าไปชาร์จ แต่ลูกผู้ก่อเหตุวิ่งสวนออกมาจึงทำให้อาเสียหลัก และเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น เชื่อว่าอาประเมินสถานการณ์มาแล้ว เพราะบ้านหลังนี้เกิดเหตุการณ์ประมาณนี้หลายครั้งแล้ว

ส่วนตัวรู้สึกเสียใจ ไม่ว่าใครก็ไม่ควรจบชีวิตแบบนี้ แต่ก็มองว่าเป็นการสูญเสียที่มีผลประโยชน์ เพราะหากอาไม่ถูกยิง อาจจะเป็นเด็กที่ถูกยิงและไม่ได้เติบโตมาก็ได้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็ไม่อยากโทษใคร เพราะมองว่าชีวิตคนสำคัญทุกคน และทุกเรื่องไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และไม่มีใครรู้ว่าจะเกิด เพราะเป็นอารมณ์ชั่ววูบของคนบางคน ที่ผ่านมา อาตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ตำรวจมาตลอด มีเลือดตำรวจสูงมาก รักในอาชีพ ชอบออกตรวจ ขยัน กลางคืนจะฟังวอตลอด ทั้งที่ร่างกายไม่ไหวเหมือนตอนหนุ่มๆ แต่อาก็สู้ ส่วนตัวคิดเสมอว่าอาทำเต็มที่และทำดีที่สุดแล้ว

สำหรับตนเองที่มาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เพราะว่าอาตั้งความหวังอยากให้เป็นตำรวจตั้งแต่เด็ก ประกอบกับคุณปู่ที่มีความชอบอาชีพนี้และอยากให้ลูกหลานเป็น จึงเป็นตำรวจตามที่อาหวัง และอาคอยสอนมาเสมอมาว่า ทุกคนต้องรู้หน้าที่ ควรอยู่ในกรอบ และชีวิตต้องไม่ประมาท ตอนนี้อาก็เสียชีวิตไปแล้ว ตนเองจะอ่อนแอไม่ได้ และเชื่อว่าอารู้ว่าตนรู้หน้าที่ว่าจะต้องทำอะไรต่อ เพราะที่ผ่านมา อาไว้ใจตนมาตลอด ซึ่งตนก็ตั้งใจทำให้ครอบครัวสบาย


สุดท้ายนี้อยากฝากถึงทุกครอบครัว ว่า ให้รักกันไว้ และเมื่อมีปัญหาอยากให้จับเข่าคุยกัน อยากให้มีสติ ถอยกันคนละก้าว และหากทุกคนอยู่ในกรอบ ทุกคนรู้หน้าที่ เหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้จะไม่เกิด

เมื่อเวลา 15.50 น. หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้เคารพศพและแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ แล้ว ได้มีการพูดคุยถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดย พล.ต.ท.สำราญ ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่านายกฯ ได้แสดงความเป็นห่วงและเน้นย้ำความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ อะไรที่ทางตำรวจขาดเหลือท่านนายกฯ จะจัดสรรให้ ในส่วนของเสื้อเกราะไม้อัดที่เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในโลกโซเชียลขณะนี้ ตนยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว เป็นเพียงกระแสการพูดคุยกันในโซเชียลเท่านั้น ทั้งนี้ในทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปฏิบัติการที่สำเร็จหรือล้มเหลว ก็จะนำมาถอดบทเรียนและนำไปฝึกอบรมให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาต่อไป

ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้เดินทางมาเคารพศพ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ เช่นเดียวกัน ก่อนจะเดินทางกลับในทันที

ต่อมาเวลา 17.10 น. ก่อนการสวดอภิธรรม เวลา 17.30 น. ภรรยาของนายบุญมา หรือ “เฮียตุ้ง” พร้อมลูกสาวทั้ง 3 คน เดินทางมาเคารพศพ โดยทันทีที่ทุกคนเดินทางมาถึง ผู้สื่อข่าวพยายามถามว่าวันนี้มาแสดงความเสียใจยังไงบ้าง ลูกสาวตอบเพียงว่า ขอไม่ให้ข่าว ก่อนจะเข้าไปในศาลาที่มีการตั้งสวดฯ -.

ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาร่วมพิธีเคารพศพ และสวดอภิธรรมศพ “รองหรั่ง” โดยให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงเรื่องการเยียวยาครอบครัวของรองหรั่ง ว่า การเยียวยาจะมีตามกฎหมายปกติอยู่แล้ว และจะมีกฎหมายของตำรวจในการเยียวยาอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทาง ก.ยุติธรรม จะเข้ามาดูแล

พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า รองหรั่งเคยไปปฏิบัติหน้าที่ที่ชายแดนใต้ และรู้จักกันในช่วงนั้น รองหรั่งเป็นตำรวจที่ดี มีความรู้ความสามารถ เราสูญเสียกำลังที่สำคัญของประเทศไป ยืนยันรองหรั่งไม่ได้ประมาท แต่เท่าที่ดูประวัติของผู้ก่อเหตุ มีอาการจิตเวชและไม่ได้ทานยามาเป็นปี ซึ่งผู้ป่วยจิตเวชเป็นเรื่องที่เราต้องดูแล เพราะมีจำนวนเยอะมาก รัฐต้องยกระดับการดูแลเพราะอาการจิตเวชไม่ได้เกิดเฉพาะสาเหตุของยาเสพติด ถ้าขาดการรักษาอาการก็จะกำเริบและสามารถก่อเหตุทำร้ายใครก็ได้ ในสังคมปัจจุบันมีผู้ป่วยจิตเวชสูง รัฐควรจะเข้ามายกระดับเกี่ยวกับเรื่องนี้ การเป็นผู้ป่วยจิตเวชไม่ได้แปลว่าจะไม่สามารถอยู่ในสังคมได้ แต่เขาควรทานยา และควรมีกฎหมายระบุไว้ว่า หากพบว่าผู้มีอาวุธมีอาการทางจิตควบด้วยให้ยกเลิกใบอนุญาต. – 420 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย