สาวร้อง ตร. กักตัวแฟนหลังขับรถชน จนเส้นเลือดในสมองแตก

21 ก.ค.- แฟนสาวผู้เสียชีวิตจากเส้นเลือดในสมองแตก ขับรถชนดะย่านยานนาวา ร้องขอความเป็นธรรมกับสายไหมต้องรอด หลังตำรวจกักตัวแฟนหนุ่มนาน 2 ชั่วโมง ไม่ยอมส่งโรงพยาบาล อ้างเมาแล้วขับ


นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เดินทางมาที่วัดบุณยประดิษฐ์ เขตบางแค หลังได้รับการร้องเรียนจาก นางสาวมะนาว อายุ 39 ปี ร้องเรียนและขอความเป็นธรรมหลังแฟนหนุ่มเสียชีวิตจากอาการเส้นเลือดในสมองแตก เพราะเข้ารับการรักษาล่าช้า

นางสาวมะนาว เล่าว่าวันเกิดเหตุคือวันที่ 13 กรกฎาคม แฟนของเธอขับรถสนามบินไปรับลูกค้าจากสนามบินสุวรรณภูมิไปส่งที่โรงแรมย่านยานนาวา พอส่งลูกค้าเสร็จระหว่างเดินทางกลับ แฟนหนุ่มโทรศัพท์หาบอกว่าปวดหัวมากและอาเจียน จึงบอกให้แฟนไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ระหว่างขับรถไปโรงพยาบาลแฟนหนุ่มเริ่มมีอาการหนัก ไม่สามารถควบคุมรถได้ จึงประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คันอื่นหลายคัน พอโทรศัพท์หาแฟนเบอร์แรกไม่รับสาย จึงโทรเข้าอีกเครื่องซึ่งเชื่อมต่อกับระบบบลูทูธของรถและรับสายอัตโนมัติ ตอนนั้นได้ยินเสียงคนเคาะกระจกรถ โวยวาย และบอกให้แฟนลงมาจากรถ แต่ไม่ได้ยินเสียงแฟน จึงวางสายไป


จากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง แม่ของแฟนก็โทรศัพท์มาหาตน บอกว่าตำรวจโทรมา บอกว่าแฟนเมาแล้วขับรถไปชนคันอื่น ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สน.ยานนาวา ตนติดธุระอยู่ต่างจังหวัดจึงให้แม่ไปที่โรงพักก่อน ระหว่างนั้นตนก็โทรศัพท์หาตำรวจ ขอคุยกับแฟน และขอให้พาแฟนไปส่งโรงพยาบาลก่อน เพราะแฟนป่วย และยืนยันว่าแฟนไม่ได้เมา แต่ตำรวจไม่ยอมให้คุยกับแฟน บอกว่าแฟนไม่ยอมลงจากรถ และให้รีบตามบริษัทประกันมาที่ สน.ด่วน

ประมาณ 3 ทุ่ม ตนจึงวิดีโอคอลหาพี่ชายของแฟนที่อยู่ สน. พบว่าแฟนหมดสติไปแล้ว กู้ภัยจึงนำตัวส่งโรงพยาบาล ถึงโรงพยาบาลเกือบ 4 ทุ่ม แพทย์ที่ให้การรักษาบอกว่ามาช้าไป หลังจากนั้นก็พยามรักษาตามอาการอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 3 วัน ก่อนเสียชีวิต ซึ่งในใบรับรองแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าเส้นเลือดในสมองแตก เธอจึงตรวจสอบ GPS ย้อนหลัง พบว่าแฟนอยู่ที่ สน.ยานนาวา เกือบ 2 ชั่วโมง ซึ่งตนมองว่าหากนำส่งโรงพยาบาลเร็วกว่านี้แฟนอาจไม่เสียชีวิต ขณะเดียวกันแพทย์ได้นำเลือดของแฟนหนุ่มไปตรวจหาแอลกอฮอล์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจ และยืนยันว่าแฟนไม่เคยมีพฤติกรรมดื่มแล้วขับแน่นอน และถ้าผลตรวจออกมาพบว่าไม่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดก็จะปรึกษากับฝ่ายกฎหมาย อาจจะดำเนินการกับตำรวจ สน.ยานนาวา เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แฟนหนุ่ม ซึ่งอยากได้คำขอโทษจากตำรวจ เพราะวันนี้สูญเสียคนในครอบครัวไป และหลังเกิดเหตุตนและครอบครัวยังไม่ได้รับการขอโทษหรือแสดงความรับผิดชอบจากตำรวจเลย แม้กระทั่งพวงหรีดแสดงความเสียใจก็ยังไม่ได้รับ

ด้านนายเอกภพระบุว่ากรณีนี้เป็นบทเรียนราคาแพงให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างรอบคอบและระมัดระวังมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้กล่าวโทษว่าตำรวจทำงานไม่ดีหรือบกพร่อง ซึ่งต้องใช้วิจารณญาณในการทำงานเพราะเป็นเรื่องของชีวิตคน แต่อยากให้ใช้ความระมัดระวัง พร้อมเน้นย้ำว่าเหตุการณ์แบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และในกรณีนี้ผู้เสียหายที่ถูกผู้ตายเฉี่ยวชน ยังมีความเห็นอกเห็นใจ บอกให้ตำรวจรีบพาผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว ผู้เสียหายยังบอกอีกว่าจากที่เข้าไปดูอาการผู้ตายเบื้องต้น ไม่ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ติดที่ตัวเลย แต่ดูก็รู้แล้วว่าป่วย ไม่ใช่คนเมา .-414-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”