พฐ. เข้าตรวจวิถีกระสุนจุดเกิดเหตุชายคลั่งยิงตำรวจดับ

กทม. 21 ก.ค. – พฐ. เข้าตรวจวิถีกระสุน ในจุดเกิดเหตุชายคลั่งยิงตำรวจดับ ด้านเพื่อนบ้านร่วมวงเหล้า ระบุผู้ตายเป็นคนอารมณ์รุนแรง ชอบทำร้ายลูกเมียเป็นประจำ และมีอาการป่วยทางจิตเวชด้วย


เมื่อเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ พฐ. ประมาณ 20 นาย พร้อมอุปกรณ์ ตรวจวัด วิถีกระสุนและเขม่าดินปืน ได้เดินทางเข้ามาเก็บหลักฐาน และวัดร่องรอยกระสุน และคราบเขม่าดินกลืนในพื้นที่เกิดเหตุ

โดยเจ้าหน้าที่กองพิรุธหลักฐานกลางได้วัดวิถีกระสุนบริเวณฝาครอบถังน้ำมันรถเก๋งสีเลือดหมู 1 จุด ซึ่งเป็นรถของเสี่ยตุ้ง ผู้ก่อเหตุ ที่จอดอยู่บริเวณหน้าบ้านเกิดเหตุ ซึ่งรอยกระสุนปืนดังกล่าว เกิดจากเสี่ยตุ้ง ผู้ก่อเหตุ สาดกระสุนออกมาจากภายในบ้านพัก ซึ่งเป็นกระสุนชุดเดียวกันกับที่สังหาร พันตำรวจโทกิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม สน.ท่าข้าม เสียชีวิต และผู้ใต้บังคับบัญชา ดาบตำรวจไชยวัฒน์ อัตโสภณวัฒนา ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม ได้รับบาดเจ็บบริเวณนิ้วโป้ง


ส่วนจุดที่ 2 เป็นการตรวจวัดระดับวิถีกระสุนที่บริเวณประตูเหล็กดัด ของตัวบ้านพัก รวม 5 จุด และภายในบริเวณบ้านพักอีกจำนวน 7 จุด อย่างไรก็ตาม จากการวัดด้วยเลเซอร์ พบว่า วิถีกระสุนจากประตูเหล็กดัด กระสุนไปถึงบริเวณชั้นลอยร้านขายของชำ ซึ่งเป็นร้านประจำที่เสี่ยตุ้ง มักไปดื่มเหล้า อยู่ห่างจากบ้านเกิดเหตุประมาณ 15 เมตร

ขณะที่ลูกๆ ของเสี่ยตุ้ง ผู้ก่อเหตุ ยืนสังเกตการณ์อยู่ในบริเวณใกล้ๆ แต่ไม่พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยระบุเพียงสั้นๆ ว่า การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาไม่ถูกต้องคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง โดยเฉพาะประเด็นที่นำเสนอว่าลูกสาวคนเล็กวิ่งสวนออกมาจากที่เกิดเหตุเป็นเหตุให้รองผู้กำกับถูกยิงนั้นไม่เป็นความจริง ขอไปดำเนินการงานศพของผู้เป็นพ่อ และให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปก่อน

อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจ ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่าครอบครัวจะรับศพ พันตำรวจโทกิตติ์ชน จากสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลศิริราชในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) แล้วจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดยางสุทธาราม ย่านบางกอกน้อย


ด้าน ผู้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่เปิดร้านขายของฝั่งตรงข้ามบ้านเสี่ยตุ้ง เล่าว่า เสี่ยตุ้มมีพฤติกรรมโมโหรุนแรง ทำร้ายลูกเมีย นับตั้งแต่ตนเองมาขายของอยู่ที่นี่ได้ 2 ปี เห็นเสี่ยตุ้มเอาปืนและยิงลูกเมียจนต้องออกมาขอความช่วยเหลือกับเพื่อนบ้านมาแล้ว 2 ครั้ง และชอบเอาปืนยิงในบ้าน จนเพื่อนบ้านต่างเอือมระอา แต่ไม่กล้าทำอะไร เพราะเสี่ยตุ้งมีอาวุธปืน ที่ผ่านมาเสี่ยตุ้ง จะมาปรับทุกข์ให้ตนเองฟังบางทีก็นั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมกับระบายเรื่องลูกสาวและคนในครอบครัวว่า ส่งลูกสาวเรียนหมอจนจบ แต่ไม่เคยมาดูแลรักษาตนเอง เลยตนเองป่วยเป็นหลายโรค ครอบครัวก็ไม่เข้าใจ มีทรัพย์สินเงินทอง แต่ไม่มีความสุข

เพื่อนบ้านยังเล่าถึงช่วงเวลาเกิดเหตุ เมื่อคืนว่า ได้ยินเสียงทะเลาะโวยวายและลูกสาวกับเมียก็วิ่งออกมา เห็นเสียตุ้งใช้ปืนตบไปที่ใบหน้าลูกสาว จากนั้นลูกสาวก็วิ่งขึ้น ชั้น 2 ปีนบันไดหนีเอาชีวิตรอด ยืนยันว่าตำรวจปฏิบัติหน้าที่ตามยุทธวิธี ตำรวจไม่ได้วิสามัญ แต่เสียตุ้งเป็นคนยิงตัวตายหนีความผิดเอง ตนเองนั่งหมอบอยู่ในร้านขายของได้ยินเสียงปืนที่ออกมาจากในบ้านเสี่ยตุ้งครั้งสุดท้าย เมื่อตอนตี 2 ตอนนั้นยังไม่มีตำรวจบุกเข้าไปในบ้านจึงเชื่อว่าเสี่ยตุ้งน่าจะปลิดชีพตนเองหนีความผิด .-414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

พระยันตระ

ปิดตำนาน “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตในวัย 73 ปี ที่สหรัฐ

“อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี ที่วัดในสหรัฐอเมริกา ปิดตำนานอดีตพระภิกษุที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์ไทย

เงินหมื่นเฟส3

นายกฯ ไฟเขียว! เงินดิจิทัลเฟส 3 กลุ่ม 16-20 ปี 2.7 ล้านคน

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ เห็นชอบ โอนเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 กลุ่ม อายุ 16-20 ปี 2.7 ล้านคน หวังคนรุ่นใหม่ใช้ไอทีคล่องกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี รองรับเปิดเทอม ยืนยันกลุ่มวัยทำงาน เฟส 4 ได้เงินแน่นอน