ผบก.น.9 ยืนยันดูแลครอบครัว “พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์” เต็มที่

กทม. 21 ก.ค.- ผบก.น.9 ยืนยันเยียวยาและดูแลครอบครัว “พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์” อย่างเต็มที่ หลังเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ขณะที่ผู้ใต้บังคับบัญชา เล่านาทีเกิดเหตุ ก่อนยอมรับเสียใจเกิดเหตุเศร้า เพราะผู้บังคับบัญชาเป็นหัวหน้าที่ดีมาก


พลตำรวจตรีประสงค์ อานมณี ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 เปิดเผยว่า การเสียชีวิตของพันตำรวจโทกิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม สน.ท่าข้าม เป็นกรณีที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งส่วนนี้ยืนยันจะดูแลอย่างเต็มที่ โดยมีสวัสดิการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กองบัญชาการตำรวจนครบาลและกองบังคับการตำรวจนครบาล 9 ที่จะเข้ามาดูแล

ขณะที่รายละเอียดยังไม่ได้ข้อสรุป อยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ พันตำรวจโทกิตติ์ชนม์ ได้เดินทางมาระงับเหตุด้วยตัวเอง พร้อมกับดาบตำรวจไชยวัฒน์ ซึ่งครั้งแรกที่เดินทางมาถึงได้พบว่าผู้ก่อเหตุ และลูก 2 คน อยู่ภายในบ้าน ทางญาติได้ขอร้องให้ช่วย ซึ่งตำรวจได้พยายามเข้าไปภายในบ้าน เพื่อเข้าประกบตัวผู้ก่อเหตุ แต่ระหว่างนั้นลูกของผู้ก่อเหตุได้วิ่งสวนออกมาทางประตูด้านหน้า ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกกระสุนปืนยิงใส่ และไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุตั้งใจยิงหรือไม่ สำหรับพันตำรวจโทกิตติ์ชนม์ มีรายงานว่าจะเกษียณอายุราชการในปี 2568 ซึ่งจากข้อมูลพบว่าเจ้าตัวเป็นคนขยันทำงาน และมักเข้าระงับเหตุสำคัญด้วยตัวเองมาโดยตลอด


สำหรับศพของพันตำรวจโทกิตติ์ชนม์ ในวันนี้เจ้าหน้าที่นิติเวชจะทำการชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด ก่อนจะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดยางสุทธาราม วันพรุ่งนี้

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำไปแล้ว 6 ปาก ประกอบด้วยภรรยาผู้ก่อเหตุ และลูกของผู้ก่อเหตุ อีก 5 คน พบว่าทั้งหมดอยู่ในอาการเครียด ส่วนสาเหตุที่ตำรวจให้น้ำหนักสาเหตุการเสียชีวิตของเฮียตุ้งไปที่การจบชีวิตตัวเอง เนื่องจากเมื่อเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าเลือดในที่เกิดเหตุแห้งแล้ว แต่ความชัดเจนต้องรอผลพิสูจน์หลักฐานจากทางแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชต่อไป

จากนั้นทีมข่าวได้สอบถามกับพันตำรวจโทมงคล สังข์เพิ่ม สารวัตรป้องกันและปราบปราม สน.ท่าข้าม ลูกน้องของพันตำรวจโทกิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ หรือ รองหรั่ง รองผู้กำกับป้องกันและปราบปราม สน.ท่าข้ามที่เสียชีวิต บอกว่า ตัวเองและรองหรั่ง ได้รับแจ้งเหตุแล้ว จึงเดินทางมาช่วย เมื่อมาถึงก็พยายามเข้าไปช่วยตัวประกัน และเมื่อเห็นจังหวะที่รองหรั่งจะเข้าไปชาร์จ ตัวเองก็จะรีบวิ่งเข้าไป แต่เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ตัวประกันวิ่งสวนออกมา ทำให้เฮียตุ้งยิงรัวออกมา กระสุนจึงไปโดนรองหรั่ง วินาทีนั้นตัวเองเห็นจึงรีบเอาโล่มากำบังและรีบลากร่างของรองหรั่งออกมาจากหน้าบ้าน และรีบเรียกรถพยาบาลทันที


เมื่อถามว่ารองหรั่งตอนนั้นมีสติหรือไม่ ยอมรับไม่ทราบจริงๆ เพราะเหตุการณ์เร็วมาก และต้องการจะช่วยเหลือผู้บังคับบัญชาอย่างเดียว พันตำรวจโทมงคล มองว่า คนร้ายตั้งใจยิงออกมาถึงทำให้ผู้บังคับบัญชาของตัวเองเสียชีวิต ในฐานะลูกน้อง เสียใจมาก ท่านรองเป็นคนดีมากๆ เป็นผู้บังคับบัญชาที่ดี ไม่พูดหยาบกับลูกน้อง ถามตำรวจคนไหนก็ได้ ก็จะบอกว่ารองหรั่งเป็นคนดีมากจริงๆ เมื่อถามว่ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเสียขวัญหรือไม่ ยืนยันว่าไม่เสียขวัญ เพราะตำรวจมีหน้าที่รับใช้ประชาชน

เมื่อถามถึงครอบครัวของรองหรั่งนั้น ท่านรองมีลูกชายเป็นตำรวจ “ยศร้อยตำรวจโท” เป็นรองสารวัตรอยู่ที่ สภ.แห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ ขณะที่มีข้อมูลว่าเมื่อประมาณเดือนที่แล้ว แม่ของรองหรั่งก็เพิ่งเสียชีวิตไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

พระยันตระ

ปิดตำนาน “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตในวัย 73 ปี ที่สหรัฐ

“อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี ที่วัดในสหรัฐอเมริกา ปิดตำนานอดีตพระภิกษุที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์ไทย

เงินหมื่นเฟส3

นายกฯ ไฟเขียว! เงินดิจิทัลเฟส 3 กลุ่ม 16-20 ปี 2.7 ล้านคน

บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ เห็นชอบ โอนเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 กลุ่ม อายุ 16-20 ปี 2.7 ล้านคน หวังคนรุ่นใหม่ใช้ไอทีคล่องกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี รองรับเปิดเทอม ยืนยันกลุ่มวัยทำงาน เฟส 4 ได้เงินแน่นอน