ดีเอสไอส่งคืนรถยนต์ 30 คัน ที่ถูกโจรกรรมคืนผู้เสียหาย

ดีเอสไอ 19 ก.ค. – ดีเอสไอส่งคืนรถยนต์ 30 คัน ถูกคนไทยร่วมต่างชาติโจรกรรมจากอังกฤษ ชี้ผู้เสียหายซื้อรถกลุ่มนี้มาต้องไปฟ้องกับบริษัทที่ขายรถให้ เผยมี 2 คดีชนะแล้ว


พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีรักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ, พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ, นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน, Mr.Mark Gooding เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย และผู้แทน National Crime Agency หรือ NCA ร่วมกันแถลงข่าวการส่งคืนรถยนต์หรูที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษให้กับผู้เสียหาย คดีพิเศษที่ 78/2561 โดยมีรถที่ถูกโจรกรรมมา 35 คัน ติดตามส่งคืนได้ครั้งนี้จำนวน 30 คัน เหลืออีก 5 คัน อยู่ระหว่างดำเนินการ

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า คดีนี้ดีเอสไอเริ่มทำคดีมาตั้งแต่ปี 2559 กลุ่มขบวนการคนไทยร่วมกับต่างชาติได้เช่าซื้อรถยนต์จากบริษัทต่าง ๆ ในประเทศอังกฤษ แล้วโจรกรรม โดยส่งออก สำแดงศุลกากรประเทศอังกฤษเป็นรถยนต์ใหม่ ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง แล้วขนส่งทางเครื่องบินจากท่าอากาศยานฮีทโธรว์ ประเทศอังกฤษ ไปยังประเทศสิงคโปร์ จากนั้นนำขึ้นเรือสินค้าส่งต่อยังประเทศไทย มีรถที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษคดีนี้อ35 คัน นำเข้าโดยบริษัทกว่า 10 บริษัท จึงได้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง


ด้านรองอธิบดีอัยการฯ กล่าวว่า เป็นคดีที่กดดัน ทำคดียากเนื่องจากมีการกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร จึงต้องมีสำนักงานอัยการสูงสุด มาร่วมสอบสวนตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556 พนักงานสอบสวนต้องเร่งทำคดีพร้อมกับต้องรีบส่งรถของกลางคืนให้อยู่สภาพที่ดีที่สุด ส่วนผู้เสียหายที่ซื้อรถเป็นผู้ครอบครองรถจำนวนนี้ ต้องไปฟ้องร้องกับบริษัทที่ขายรถให้ เพราะตามกฎหมายจะต้องคืนรถของกลางให้เจ้าของที่แท้จริงเท่านั้น ซึ่งกรณีนี้เป็นการโจรกรรมมา ต่างจากการซื้อรถในตลาดรถทั่วไป

พ.ต.ท.พเยาว์ กล่าวเสริมว่า ล่าสุดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา มีผู้เสียหาย 2 ราย ที่เป็นผู้ครอบครองรถที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษ ในจำนวนนี้ได้ฟ้องร้องบริษัทที่ขายรถให้ ล่าสุดเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลพิพากษาให้บริษัทที่ขายคืนเงินให้เต็มจำนวน ซึ่งเป็นคดีตัวอย่างที่ผู้ครอบครองรายอื่น ๆ สามารถไปดำเนินการฟ้องร้องเพื่อเรียกคืนความเสียหายได้เช่นกัน.-119-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์

เร่งล่าฆาตกรโหดตัดนิ้วชิงทรัพย์หญิงวัย 67 ทิ้งศพกลางสวนปาล์ม

ตำรวจเร่งล่าฆาตกรโหดฆ่าตัดนิ้วหญิงวัย 67 ปี ชิงทรัพย์ ก่อนทิ้งศพกลางสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยพบรถเก๋งต้องสงสัยสีขาววิ่งเข้าไปในจุดพบศพ

จับนายก อบต.นาบัว

คอมมานโดบุกจับนายก อบต.นาบัว-พวก รวม 16 คน

คอมมานโดกองปราบฯ บุกจับฟ้าผ่า! นายก อบต.นาบัว อ.นครไทย ประธาน “ธนาคารหมู่บ้าน” พร้อมพวก รวม 16 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันกู้ยืมเงิน มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

มนุษย์ ภัยคุกคามพะยูน ?

ช่วงนี้พบพะยูนในทะเลฝั่งอันดามันตายเพิ่มขึ้นแบบถี่ยิบ จนน่าเป็นห่วงว่าพะยูนอาจสูญพันธุ์ไปในอนาคต โดยเฉพาะล่าสุดเมื่อมีการพบพะยูนตายในทะเลภูเก็ต อยู่ในสภาพถูกตัดหัว คาดนักล่าหวังเอาเขี้ยว

typhoon Man-Yi barrels through the Philippines

ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” เข้าฟิลิปปินส์

มะนิลา 17 พ.ย.- ซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ พัดเข้าเกาะลูซอนที่เป็นเกาะหลักและมีประชากรอยู่หนาแน่นที่สุดของฟิลิปปินส์แล้วในวันนี้ เสี่ยงทำให้เกิดฝนตกหนักในกรุงมะนิลาที่เป็นเมืองหลวง หม่านหยี่ เป็นภาษาจีนกวางตุ้ง เป็นชื่อของอ่างเก็บน้ำในฮ่องกง นับเป็นพายุลูกที่ 6 ที่พัดเข้าฟิลิปปินส์ในรอบ 1 เดือน มีความเร็วลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อ่อนกำลังลงเล็กน้อยหลังจากขึ้นฝั่งเมืองปางานีบัน จังหวัดคาตันดัวเนส ที่เป็นเกาะขนาดเล็ก เมื่อคืนวันเสาร์ ข้ามมาจนถึงจังหวัดคามารีเนส นอร์เต บนเกาะลูซอน ในเช้าวันนี้ ไต้ฝุ่นลูกนี้มีแนวโน้มจะทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วเขตมหานครมะนิลา ซึ่งมีการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงแล้วกว่า 1 ล้านคน แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แม้ว่ากระแสลมแรงได้สร้างความเสียหายให้แก่สิ่งปลูกสร้างในจังหวัดคาตันดัวเนสก็ตาม.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ดอยอินทนนท์คึกคักรับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้า

นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นดอยอินทนนท์รับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้าวันหยุด หลายคนบอกไม่ผิดหวัง เพราะพระอาทิตย์สาดแสงเป็นประกายประทับใจ