ทีมชันสูตรยืนยันสาเหตุดับ 6 ศพ เกิดจาก “ไซยาไนด์”

รพ.จุฬาฯ 17 ก.ค. – ทีมชันสูตร 6 ศพ ยืนยันสาเหตุการตายเกิดจากสารไซยาไนด์ หากมากพอทำให้เสียชีวิต ไม่สามารถยืนยันใครตายก่อน ส่วนสารประกอบอื่นรอผลห้องปฏิบัติการยืนยันความชัดเจน


รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พร้อมด้วย รศ.นพ.กรเกียรติ วงศ์ไพศาลสิน อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.), พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร โฆษกสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ, พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (ผบก.น.5) ร่วมกันแถลงผลชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตของชาวเวียดนาม 6 ราย บริเวณชั้น 5 ของโรงแรมย่านราชประสงค์ กรุงเทพฯ

รศ.นพ.ฉันชาย กล่าวว่า เบื้องต้นจากลักษณะที่ตรวจพบทั้งภายนอกและอวัยวะภายในไม่พบว่ามีปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นเหตุให้เสียชีวิตนอกจากสารไซยาไนด์ ต้องรอผลตรวจอวัยวะภายในเชิงลึก เพื่อหาสารบางอย่างเพิ่มเติม แต่เบื้องต้นหากได้รับสารไซยาไนด์ระดับมิลลิกรัมในเลือด ถ้าได้รับเกิน 3 มิลลิกรัมต่อซีซี จะเสียชีวิตทุกราย หากได้รับไซยาไนด์ในปริมาณ 1-2 มิลลิกรัมต่อซีซี ผู้ป่วยจะมีอาการค่อนข้างหนัก แต่หากรักษาทันอาจจะรอด ซึ่งจะต้องรอผลจากห้องปฏิบัติการอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่งว่าได้รับไปประมาณเท่าใด สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับสารพิษไซยาไนด์จะขึ้นอยู่กับปริมาณและวิธีการที่ได้รับ เช่น การสูดดมหรือการรับประทาน หากรับประทานในปริมาณที่สูงจะเกิดอาการในระยะเวลาที่สั้น คนไข้จะมีอาการเหนื่อยหอบ หมดสติ รวมถึงมีการชักเกร็ง เพราะขาดออกซิเจนในสมองเฉียบพลัน ซึ่งสามารถเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็วมากในเวลาหลักนาที


รศ.นพ.กรเกียรติ กล่าวว่า การชันสูตรในสถานที่เกิดเหตุและนำมาชันสูตรพลิกศพในภาพรวมทั้งหมด 6 ราย เป็นหญิง 3 ราย ชาย 3 ราย ประกอบด้วยชาวเวียดนาม 4 ราย อเมริกัน 2 ราย ส่วนแรกจะเป็นการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลจะมีการพิสูจน์เอกสารหลักฐานซึ่งตรงกับสภาพศพที่ได้รับทั้งนี้ทราบชื่อ เชื้อชาติ ทั้งหมด 6 ราย จากพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ 2.การพิสูจน์ระยะเวลาการเสียชีวิต ได้ประเมินจากการตรวจสถานที่เกิดเหตุที่โรงแรม เบื้องต้นทีมแพทย์ที่เข้าไปประเมินศพทุกรายเสียชีวิต 12-24 ชม. ซึ่งการประเมินได้มาจากการตรวจการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เช่น การแข็งตัวของกล้ามเนื้อหลังการตาย การตกสู่เบื้องต่ำของเม็ดเลือดในศพทุกรายพบในลักษณะปรากฏสอดคล้องในทิศทางเดียวกันในระยะเวลา 12-24 ชม. 3.สาเหตุการเสียชีวิต ทุกรายทางพนักงานสอบสวนได้ส่งศพมาชันสูตร ที่ศูนย์อำนวยการชันสูตรพลิกศพ โดยได้เก็บภาพหลักฐานของผู้เสียชีวิต การเก็บตัวอย่างเลือด ปัสสาวะ น้ำวุ้นลูกตา เพื่อพิสูจน์หาสาเหตุการตาย และการตรวจซีทีสแกนหาร่องรอยการถูกทำร้ายหรือบาดเจ็บโดยใช้ภาพถ่ายรังสีคอมพิวเตอร์ช่วย ในเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายในทุกราย

รศ.นพ.กรเกียรติ กล่าวว่า ส่วนการผ่าชันสูตร ในภาพรวมทั้ง 6 ราย มีร่องรอยการขาดอากาศเกิดขึ้นคือ ริมฝีปากเป็นสีม่วงเข้ม ใบหน้าต่าง ๆ รวมถึงการตกสู่เบื้องต่ำของเลือดมีสีลักษณะพิเศษ รวมถึงปลายเล็บมือที่มีสีม่วงเข้มเป็นสัญลักษณ์บ่งชี้ว่าอาจจะมีการเสียชีวิตในเรื่องของการขาดอากาศร่วมด้วย จากการตรวจสอบมีคุณลักษณะสำคัญอีกอย่างที่ตรวจพบว่าการตกสู่เบื้องต่ำของเลือดสีที่พบเป็นสีค่อนข้างแดงสดแตกต่างจากเคสหลังตายทั่วไป ทีมชันสูตรจึงตั้งข้อสันนิษฐานเบื้องต้นว่า การเสียชีวิตเหล่านี้อาจมีสารพิษบางอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง ที่พบได้บ่อย ๆ คือ ไชยาไนด์ ทั้งนี้จะเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจพิสูจน์หาสารพิษอื่นๆ ร่วมด้วย

รศ.นพ.กรเกียรติ กล่าวว่า เมื่อผ่าชันสูตร อวัยวะภายในต่างๆ ไม่ได้พบร่องรอยอะไรที่เป็นลักษณะที่สำคัญจากตรวจด้วยตาเปล่าพบเพียงการคลั่งเลือดของอวัยวะต่างๆ ปริมาณมากในทุกราย ส่วนการสรุปสาเหตุของการเสียชีวิตเป็นการสันนิษฐานในเรื่องของการตรวจพิษของสารไซนาไนด์ส่งผลในการขาดอากาศในระดับเซลล์ของอวัยวะที่สำคัญคือระบบประสาทและหัวใจ เชื่อว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ทุกรายเสียชีวิต ซึ่งมีการตรวจคัดกรองสารพิษไซยาไนด์ในห้องปฏิบัติการพบมีการเปลี่ยนสี ให้สีเป็นบวก จึงสงสัยเรื่องสารพิษไซยาไนด์ ทั้งนี้ทต้องรอผลการตรวจเลือดยืนยันอีกครั้งอาจใช้เวลาอีก 1-2 วัน คาดว่าจะทราบผลในวันศุกร์นี้ ส่วนจะมีปริมาณเท่าใด และมีสารประกอบอื่นๆ ที่ส่งเสริมฤทธิ์ด้วยหรือไม่นั้นต้องรอผลการตรวจเลือดเพื่อยืนยันอีกครั้งคาดว่าจะทราบผลภาพรวมทั้งหมดใน 1-2 สัปดาห์ ทั้ง 6 ราย เจอไซยาไนด์ทั้งหมดในการตรวจคัดกรอง


อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถแยกแยะระบุเวลาเสียชีวิตเป็นราย ๆ ได้ว่าใครเสียชีวิตในเวลาไหน ในขณะนั้นใครจะเสียชีวิตก่อนหรือหลัง เพราะการแข็งตัวของกล้ามเนื้อหลังตายและการตกสู่เบื้องต่ำของเม็ดเลือดจะบ่งบอกได้เป็นช่วงระยะเวลาเท่านั้น ไม่สามารถลงลึกบอกระยะเวลาที่แน่นอนได้ เพราะการเปลี่ยนแปลงหลังตายมีปัจจัยรบกวนอยู่หลายอย่าง เช่น อุณหภูมิ สิ่งแวดล้อม แต่การเปลี่ยนแปลงในทุกรายเป็นไปในทิศทางเดียวกันคือ 12-24 ชม. จากสภาพศพบ่งบอกไม่ได้เรื่องการชักเกร็ง ทั้งนี้พบว่าทุกศพมีเศษอาหารคงเหลืออยู่ในกระเพาะแตกต่างกัน ซึ่งบางรายอาหารย่อยไปมากแล้ว แต่บางศพยังไม่ย่อยเท่าที่ควร แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นอาหารชนิดใดบ้าง ซึ่งข้อมูลนี้แพทย์จะบันทึกลงผลการชันสูตรแบบละเอียด ส่วนการตรวจสอบสารไซยาไนด์ที่พื้นผิวอื่นๆ ของศพนั้นเป็นเรื่องยาก ต้องยอมรับว่าแพทย์ตรวจเฉพาะไซยาไนด์ในเลือด จึงยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีไซยาไนด์ติดที่อวัยวะภายนอกของบุคคลใดใน 6 รายนี้บ้าง หลังจากนี้จึงจะมีการตรวจภายนอก

ด้าน พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวถึงที่มาของสารไซยาไนด์ว่า ตำรวจได้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ 2 ประเด็นคือ เตรียมการนำเข้ามาก่อนเข้าประเทศไทย หรือหาซื้อในประเทศ ผ่านช่องทางต่างๆ ซึ่งได้สั่งการให้ตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม ที่กลุ่มผู้เสียชีวิตเริ่มเดินทางเข้าประเทศไปจนถึงวันที่ 12 กรกฎาคม และยอมรับว่าขณะเดินทางผ่าน ตม.ไม่สามารถตรวจหาสารเหล่านี้ได้ รวมถึงไม่สามารถยืนยันว่าผู้ใดคือผู้นำเข้า ต้องรอการสืบสวนให้เสร็จสิ้นชัดเจนก่อน

สำหรับขั้นตอนหลังจากชันสูตรแล้ว ตำรวจจะรอรายงานผลการชันสูตรจากทางแพทย์เพื่อนำไปประกอบในสำนวน ส่วนครอบครัวที่ติดต่อมารับศพ มีเพียงครอบครัวของสามีภรรยาที่มาสอบปากคำที่โรงพัก สน.ลุมพินี ในวันนี้.-419-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย