ป.ป.ส.ย้ำเร่งเครื่องแก้ปัญหายาเสพติด 25 จังหวัด

ป.ป.ส. 17 ก.ค. – ป.ป.ส.ปลื้มผลงานเข้าเป้าตามข้อสั่งการนายกฯ ย้ำเร่งเครื่องแก้ปัญหายาเสพติด 25 จังหวัด บำบัดรักษา-ป้องกัน-ปราบปราม


พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการติดตามเร่งรัดการบำบัดรักษา ฟื้นฟูสภาพทางสังคม ป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด (ศปก.ครส.) ครั้งที่ 6/2567 ณ ห้องประชุมชิดชัย วรรณสถิตย์ สำนักงาน ป.ป.ส. โดยมี นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ พลเอกสุนัย ประภูชะเนย์ และพันตำรวจเอก ดุษฎี อารยวุฒิ เข้าร่วมในฐานะที่ปรึกษา และคณะกรรมการฯ อาทิ พันเอก สิทธิกร เรืองจิตร นายทหารประจำกอง กรมยุทธการทหารบก พล.ต.ท. คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายแพทย์ภาคี ทรัพย์พิพัฒน์ ผู้อำนวยเลขานุการคณะกรรมการ บำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ฯ รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 25 จังหวัด ในพื้นที่เร่งด่วน เข้าร่วมการประชุมพร้อมหน่วยงานภาคี ผ่านระบบการประชุมออนไลน์
เพื่อเร่งรัดแก้ไขปัญหายาเสพติด ในพื้นที่ 25 จังหวัดให้บรรลุเป้าหมาย

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวถึงการดำเนินงานที่ผ่านมาว่า ได้ลงพื้นที่ร่วมกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในการแถลงการตรวจยึดสารเคมีโทลูอีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดได้ถึง 90 ตัน คิดเป็นมูลค่ามหาศาลสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง นอกจากนี้ ได้กล่าวถึงการสูญเสียของ เจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นาย และบาดเจ็บ 2 นาย จากการปะทะกับนักค้ายาเสพติด ซึ่ง สำนักงาน ป.ป.ส. ได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้สูญเสียและผู้บาดเจ็บที่เสียสละเพื่อประเทศชาติ พร้อมเร่งรัดการช่วยเหลือเยียวยาเต็มที่ นอกจากนี้ จากการลงพื้นที่ พร้อมท่านนายกรัฐมนตรี ณ จังหวัดเชียงราย พบว่า เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติดต้องเพิ่มความระมัดระวัง โดยให้นำเอายุทโธปกรณ์ที่สำนักงาน ป.ป.ส.สนับสนุน มาใช้ในการปฏิบัติงานสกัดกั้นในพื้นที่ชายแดน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ลดความสูญเสียต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่


“สำหรับผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการฯ ในพื้นที่ 25 จังหวัดนำร่อง พบว่า บรรลุเป้าหมายครอบคลุมทุกด้าน ดังนี้ ด้านการปราบปราม ซึ่งมีตัวเลขผลการดำเนินงานบรรลุเป้าหมายเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ผลการดำเนินคดีผู้กระทำความผิดฐานความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ได้ถึง 89.32% ยึดอายัดทรัพย์สินได้กว่า 705 ล้านบาท คิดเป็น 97.60% ของเป้าหมาย ดำเนินคดีข้อหาสมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือ ดำเนินการได้ 307 คดี คิดเป็น 93.88% ของเป้าหมาย ผลการดำเนินงานต่อเครือข่ายรายสำคัญและเจ้าหน้าที่รัฐ การรายงานผลเป้าหมายถูกดำเนินการและได้รับการแก้ไข กลุ่มเครือข่ายการค้ายาเสพติดรายสำคัญ จากเป้าหมายเครือข่าย 233 เครือข่าย สามารถดำเนินการแล้ว 158 เครือข่าย สถิติข่าวผลกระทบจากการใช้ยาเสพติดพื้นที่เป้าหมาย 25 จังหวัด ที่ปรากฏข่าวผลกระทบจากยาเสพติดในสื่อออนไลน์ มากที่สุดคือจังหวัดอุดรธานี ซึ่งในที่ประชุม เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้ฝากถึงผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีให้เข้มงวด และช่วยกันกดดันการใช้ยาเสพติดในสถานบริการจังหวัดอุดรธานี ด้านการบำบัดรักษาในภาพรวมสามารถนำผู้เข้าสู่กระบวนการบำบัดได้ 100% และมีผู้ป่วยสะสมเข้ารับการบำบัดในรูปแบบ CBTx ชุมชนล้อมรักษ์ จำนวนกว่า 20,663 คน โดยมีอำเภอที่ดำเนินการ CBTx แล้วอย่างเป็นรูปธรรมกว่า 80% การนำผู้เสพในระบบคุมประพฤติเข้าสู่กระบวนการบำบัด ดำเนินการได้กว่า 94.11 % และด้านการป้องกัน ได้ดำเนินการจัดระเบียบสังคมในสถานบันเทิง สถานบริการ และสถานประกอบการคล้ายสถานบันเทิง เกินกว่า 99.4% และ 95.56% ตามลำดับ และดำเนินการป้องกันยาเสพติดในพื้นที่รอบสถานศึกษาแล้วกว่า 97.54% การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมหมู่บ้าน/ชุมชน กว่า 89.7% และในส่วนของผลการดำเนินงานศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมของกระทรวงมหาดไทย ในภาพรวมถือว่าผ่านเกณฑ์บรรลุเป้าหมาย ซึ่งมีผู้ป่วยได้รับความช่วยเหลือ 594 คน คิดเป็น 49.42 % ผลการดำเนินงานโครงการดำเนินงานชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืนฯ ในพื้นที่ 25 จังหวัด มีสถานีที่เข้าร่วมโครงการ 636 ชุมชน ประชากรตาม ทร. 14,585,497 คน ประชากรจริง 554,866 คน เป้าหมายการ X Ray 379,251 คน จำนวนการ X Ray 221,553 คน (58.42%) ผู้เข้าร่วมบำบัดกับโครงการ 8,023 คน (12.61 คน/สถานี) MOU ครัวเรือน 117,005 แห่ง”

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวด้วยว่า จากข้อมูลพบว่าข่าวผลกระทบจากยาเสพติดในสื่อมีแนวโน้มลดลง สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงานของทุกภาคส่วน ทั้งนี้ ป.ป.ส.พร้อมหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง เดินหน้าปฏิบัติการเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการตรวจสอบพื้นที่เสี่ยง (X-Ray) เพื่อค้นหาผู้เสพและผู้ค้า และนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาอย่างเหมาะสม ซึ่งในขณะนี้มีจำนวนผู้เข้ารับการบำบัดรักษาเป็นไปตามเป้าหมาย และได้ฝากถึงท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ขอให้ร่วมกันบูรณาการเพื่อป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนนี้แบบเข้มข้น ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น และเพื่ออนาคตที่ดีมีคุณภาพของลูกหลาน ในการขับเคลื่อนประเทศชาติต่อไป.-119-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก