บุกร้านทำป้ายทะเบียนปลอมกลางกรุง รวบ 2 วัยรุ่นมือผลิต

กทม. 13 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์ บุกร้านผลิตป้ายทะเบียนปลอมกลางกรุง รวบ 2 วัยรุ่นมือผลิต พบส่งขายออนไลน์ทั่วไทย ฟันรายได้กว่า 6 แสน


สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์ โดย กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้สืบพบเบาะแส การลักลอบจำหน่ายแผ่นป้ายทะเบียนยานพาหนะปลอมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ จึงได้ทำการตรวจสอบ และทดลองสั่งซื้อแผ่นป้ายทะเบียนจากร้านค้าออนไลน์ดังกล่าว จำนวน 1 แผ่น ราคา 498 บาท โดยการชำระเงินผ่านระบบจ่ายเงินของแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ เมื่อตรวจสอบสินค้าที่ได้รับ พบว่าป้ายทะเบียนยานพาหนะดังกล่าว มีลักษณะคล้ายกับที่กรมการขนส่งทางบกผลิตขึ้นเพื่อใช้ในราชการ แต่ไม่มีลายน้ำและไม่มีสัญลักษณ์จากกรมการขนส่งทางบก จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้องมาลงโทษตามกฎหมาย เนื่องจากป้ายทะเบียนรถปลอมถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คนร้ายสามารถนำไปใช้ก่อเหตุในการกระทำความผิดได้ ต่อมา ว่าที่ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 พร้อมชุดสืบสวนจึงได้ดำเนินการสืบสวนรวบรวมข้อมูลเรื่อยมา ทำให้ทราบว่า ป้ายทะเบียนดังกล่าวส่งมาจากผู้ใช้บัญชีร้านค้าออนไลน์ชื่อบัญชี i_nus บนแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์และเจ้าหน้าที่ยังสืบสวนจนทราบแหล่งผลิต


เบื้องต้น พบข้อมูลประวัติการขายสินค้าประเภทแผ่นป้ายทะเบียนยานพาหนะให้แก่ลูกค้าผ่านช่องทางดังกล่าวมาแล้ว จำนวน 1,131 รายการ โดยส่งสินค้าให้ลูกค้าไปทั่วประเทศ คิดเป็นรายได้รวมกว่า 600,000 บาท อีกทั้ง ยังพบข้อมูลความเชื่อมโยงกับบัญชีเฟซบุ๊กแฟนเพจชื่อ “Welovecarplate รับทำป้ายทะเบียนรถยนต์ทุกประเภท” และเว็บไซต์ “Weloveplate” ซึ่งมีการระบุข้อความบนหน้าเว็บไซต์ว่า “รับทำป้ายทะเบียนรถยนต์ทุกประเภทแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นป้ายรถยนต์, มอเตอร์ไซต์, ป้ายแดง และป้ายทะเบียนรถชนิดอื่นๆ ทุกรูปแบบ” เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายค้นพื้นที่เป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวได้สำเร็จ

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.ท.ชนทัช วุฒิภัทรโสภณ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 หัวหน้าชุด พร้อมด้วย พ.ต.ท.วีระศักดิ์ แก้วเนียม รอง ผกก.ฯ, พ.ต.ท.เลอศักดิ์ พิเชษฐไพบูลย์, พ.ต.ต.ธวัช ทุเครือ, และ พ.ต.ต.วินัย ชมพุฒ สว.ฯ พร้อมกำลังชุดสืบสวน กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 ร่วมนำหมายค้นจากศาลอาญาธนบุรี เข้าตรวจค้น ร้านที่ตั้งอยู่ริมถนนตากสิน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร พบนายอนันต์ดา อายุ 24 ปี และนายศิริวัธร์ อายุ 27 ปี อยู่ภายในร้าน จากการตรวจค้น พบอุปกรณ์สำหรับการผลิตแผ่นป้ายทะเบียนรถปลอมอาทิ เครื่องปั๊มแผ่นป้าย, เครื่องตัด, แผ่นอลูมิเนียมที่ใช้ในการทำแผ่นป้ายทะเบียน, แม่พิมพ์ตัวเลข และตัวอักษรชนิดต่างๆ, สีน้ำมัน และป้ายทะเบียนรถที่ผลิตเสร็จแล้วพร้อมจัดส่งให้ลูกค้าเป็นจำนวนมาก รวมทั้งหลักฐานอื่นๆ อยู่ภายในบริเวณร้าน

จากการสอบถาม ทั้ง 2 คน ยอมรับว่าเป็นพนักงานอยู่ภายในร้านดังกล่าวจริง มีหน้าที่ร่วมกันจัดทำแผ่นป้ายทะเบียนรถ โดยรับข้อมูลการสั่งทำแผ่นป้ายทะเบียนรถผ่านแอปพลิเคชันไลน์จากเฮียที่เป็นนายจ้างอยู่ระหว่างขยายผลจับกุมหลังได้ข้อมูลจากนายจ้างแล้ว นายอนันต์ดา จะเป็นผู้นำแผ่นอลูมิเนียมที่ผ่านการติดสติกเกอร์สะท้อนแสงไว้แล้ว ไปปั๊มตัวเลขและอักษรเป็นตัวนูน โดยใช้แท่นปั๊มตามแม่พิมพ์ จากนั้นก็ทำการตัดแต่งขอบป้ายทะเบียนให้เรียบร้อย ก่อนส่งต่อให้นายศิริวัธร์นำไปทาสีตัวเลขและตัวอักษรตามประเภทของยานพาหนะที่ลูกค้าต้องการ เมื่อจัดทำแผ่นป้ายทะเบียนเสร็จแล้ว ก็จะถูกนำมาบรรจุใส่ซองกันกระแทกเพื่อเตรียมจัดส่งให้ลูกค้าในวันถัดไป โดยทั้ง 2 สามารถผลิตแผ่นป้ายทะเบียนได้มากถึง 40-50 แผ่นต่อวัน
และจะถูกนำไปจำหน่ายในราคาประมาณแผ่นละ 400-450 บาท


ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันปลอมเอกสารราชการ” และ “ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท” พร้อมตรวจยึดของกลางทั้งหมด และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งสืบสวนขยายผลไปถึงตัวการผู้จ้างวานของขบวนการนี้ เพื่อนำตัวมาลงโทษตามกฎหมาย เพื่อให้การป้องกันปราบปรามขบวนการดังกล่าวเป็นไปด้วยความรวดเร็วและเด็ดขาด ตลอดจนขอฝากประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชน หากต้องการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับป้ายทะเบียนรถ ขอให้ติดต่อกับกรมการขนส่งทางบกเพื่อดำเนินการเท่านั้น มิเช่นนั้น อาจตกเป็นเหยื่อหรือผู้ต้องหาของขบวนการปลอมแปลงป้ายทะเบียนรถได้ .-419 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง