กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – กลุ่มอดีตผู้สมัคร สว.บิ๊กเนม แจ้งความเอาผิด เลขา กกต.และคณะกรรมการ กกต.รวม 7 คน ตาม ม.32 และ ม.157 จัดการลงคะแนนสว.ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม หลังประกาศรับรองผล
กลุ่มอดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. อดีตผู้สมัคร สว.ในกลุ่มกฎหมาย พร้อมคณะ เดินทางมาร้องทุกข์กล่าวโทษกับ เลขา กกต.และคณะกรรมการ กกต.รวม 7 คน ที่กองบังคับการปราบปราม กรณีที่ไม่จัดลงคะแนนเลือก สว.ให้เป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม และมีการประกาศรับรองผลผู้ผ่านการลงคะแนนลำดับที่ 1-10 ของทุกกลุ่มจำนวน 200 คน ไปเมื่อวานนี้ และให้เดินทางไปรายงานตัวต่อรัฐสภา ซึ่งขัดต่อ ม.32 พ.ร.ป.วุฒิสภา และ ม.157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
พล.ต.ท.คำรบ ระบุว่า วันนี้เล็งเห็นถึงความไม่สุจริตและไม่เป็นธรรมในการเลือก สว.จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ กกต.ทั้ง 7 ท่าน พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตจากการที่ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ได้แถลงข่าวการรับรองผลไปเมื่อวาน โดยมองว่า ท่านอาจจะเตรียมพร้อมไม่ดี เพราะมีการพูดวกไปวนมา ซึ่งการแถลงชี้แจงประเด็นเรื่องร้องเรียนกรณีคุณสมบัตินั้น การชี้แจงของ กกต. เป็นลักษณะเหมือนการโยนไปให้ระดับอำเภอในเรื่องการกลั่นกรอง ซึ่งมองว่าหาก กกต.จะไปขอความร่วมมือใครในอนาคตก็คงลำบาก ถ้าปัดความรับปิดชอบแบบนี้
ส่วนกรณีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการลงคะแนนโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ทั้งหมด 47 เรื่อง ซึ่ง กกต. ระบุว่า ได้รวบรวมพยานหลักฐาน แต่ข้อมูล ณ วันนี้ยังไม่พอเพียงที่จะบอกว่าเขากระทำความผิด และจะต้องอาศัยหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และรอหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องมาร่วมสอบสวนคลี่คลายนั้น หมายความว่า ท่านไม่ได้รับรู้เรื่องการพิสูจน์ในเบื้องต้นทั้ง 47 เรื่องใช่หรือไม่ และก็มาสรุปการแถลงช่วงท้ายว่า กระบวนการที่ผ่านมาของการเลือก สว.เป็นการลงคะแนนโดยสุจริตและเที่ยงธรรม แล้วประกาศรับรอง ซึ่งมองว่าขัดแย้งกับการตรวจสอบที่ให้ยังคาอยู่อีก 47 เรื่อง ที่รอผลการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ท่านกลับอ้างข้อกฎหมายให้ประกาศไปก่อนแล้วค่อยสอบทีหลัง จึงเข้าข่ายการกระทำผิดตาม ม.157
ส่วนสาเหตุที่มาร้องทุกข์กล่าวโทษ เพราะเห็นถึงความไม่ชอบมาพากลในการเลือก สว. ที่มองว่า เบอร์ที่ได้เป็นการล็อกโหวต และในการขานคะแนนของแต่ละกลุ่ม ก็เป็นการเลือกเหมือนกันตามโพย ซึ่ง พล.ต.ท.คำรบ ได้โชว์ตัวอย่างของโพยให้กับสื่อมวลชนดู และระบุว่า โพยนี้มาจากกระบวนการเดียวกัน ซึ่ง 4 โพย จะครอบคลุมไปด้วยเบอร์เดียวกัน ที่ผ่านมาเคยไปยื่นคำร้องไปที่ กกต.และทวงถามแล้วทั้งหมด 5 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้มีการรับฟัง แต่กลับมาประกาศรับรองผล จึงมองว่า ถึงเวลาที่จะต้องมาร้องทุกข์กล่าวโทษ เพราะถือว่ามีความผิดตาม ม.32 ที่ไม่ทำให้กระบวนการคัดเลือก สว.เป็นไปด้วยความสุจริตยุติธรรม
พล.ต.ท.คำรบ ยังระบุอีกว่า ระหว่างที่มีการประกาศแล้ว ก็ส่งสำเนาเอกสารทางไลน์ ซึ่งทำให้ตนเองไปสังเกตเห็นว่าบางอันไม่มีลายเซ็น ตนเองจึงได้ตรวจสอบในฐานะที่เคยเป็นพิสูจน์หลักฐานเก่า และได้พิสูจน์ลายเซ็นของประธาน กกต. จึงขอฝากเรื่องนี้ไปด้วยว่า ประธาน กกต. เซ็นจริงหรือไม่ หรือมีการแอบอ้างลายเซ็น หากเป็นการแอบอ้างก็ขอให้ดำเนินการแก้ไขในเรื่องนี้ เนื่องจากลายเซ็นทั้ง 2 อัน ไม่ตรงกัน
ขณะเดียวกันช่วงบ่ายวันนี้ จะเดินทางไปที่ศาลฎีกา เพื่อต้องการการคุ้มครองว่า กกต.ไม่ได้ดำเนินการตามหน้าที่ในการจัดการลงคะแนนให้เป็นไปด้วยความสุจริตยุติธรรม และขอให้มีการคุ้มครองฉุกเฉิน และมีคำสั่งเปิดหีบเพราะคือหัวใจสำคัญในการพิสูจน์เรื่องราวทั้งหมด.-420-สำนักข่าวไทย