9 ก.ค. – หนุ่มไรเดอร์ร้องขอความเป็นธรรม ถูก ตร.สายตรวจ ขับรถไล่ตามจับไม่สวมหมวกกันน็อก พอถึงตัวถูกซ้อมยับก่อนค้นตัว ค้นรถ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย
นายสุเมธ อายุ 29 ปี ไรเดอร์หนุ่ม เข้าร้องทุกข์กับเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกตำรวจสายตรวจ สน.ฉลองกรุง รุมทำร้ายร่างกาย หลังขับรถจักรยานยนต์หนีเจ้าหน้าที่ตำรวจระยะทาง 5 กิโลเมตร เพราะเกรงว่าจะถูกจับที่ไม่ใส่หมวกกันน็อก และไม่พกใบขับขี่ ซึ่งผู้เสียหายมองว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ
นายสุเมธ เล่าว่า เวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองกำลังวิ่งงานไรเดอร์อยู่ถนนฉลองกรุง และย้อนศรไปเก็บโทรศัพท์ที่ตก จู่ๆ ก็มีตำรวจสายตรวจ 2 นาย เรียกให้จอด ตนเองจึงวกรถกลับขี่หนีตำรวจ เพราะกลัวว่าจะถูกจับที่ไม่ใส่หมวกกันน็อก และไม่ได้พกใบขับขี่ ตำรวจจึงขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามและใช้ไม้กระบองไล่ตี เป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร จนเมื่อตำรวจไล่ตามมาทัน ตนเองไปไม่รอด รถล้ม ตำรวจก็เข้ามาเหยียบ เตะหน้า และทำร้ายร่างกาย เมื่อค้นรถก็ไม่ได้พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ ตนเองก็เลยถูกปล่อยตัว ทั้งนี้ มองว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ตนเองถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ ปากแตกเย็บ 4 เข็ม จะเรียกค่าเสียหายใครได้ หลังเกิดเหตุจึงไปแจ้งความกับตำรวจ สน.จรเข้น้อย ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุทำร้ายร่างกาย แต่เมื่อไปถึง ตำรวจ สน.จรเข้น้อย ได้ประสานตำรวจ สน.ฉลองกรุง คู่กรณีให้มาพูดคุยกัน แต่สุดท้ายกลับถูกตำรวจ สน.ฉลองกรุง นำตัวกลับไปดำเนินคดีข้อหาขับรถประมาทหวาดเสียว ไม่สวมหมวกกันน็อก และไม่พกใบขับขี่ ปรับไป 2,000 บาท ส่วนตำรวจ สน.จรเข้น้อย ก็เพียงลงบันทึกประจำวันไว้ ไม่ได้มีการดำเนินคดีกับตำรวจคู่กรณี
ส่วนเหตุใดจึงไม่พกใบขับขี่มา ทั้งที่มีใบขับขี่ และไม่สวมหมวกกันน็อค นายสุเมธบอกว่าลืมไว้ที่บ้าน และตนเองก็เคยโดนปรับที่ไม่สวมหมวกกันน็อก และไม่พกใบขับขี่แบบนี้มาแล้ว จึงหนีเพราะกลัวโดนจับปรับอีก
ด้ายนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด บอกว่าคดีนี้ต้องแยกเป็น 2 ประเด็น คดีที่ผู้เสียหายขับรถหนีตำรวจก็ถูกปรับดำเนินคดีไว้แล้ว แต่ในส่วนของตำรวจที่ทำร้ายร่างกาย ก็ต้องดำเนินคดีไป โดยผู้เสียหายก็ได้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลไว้แล้ว พร้อมเตือนผู้เสียหายว่าครั้งหน้าหากตำรวจเรียกตรวจก็ควรให้ตรวจแต่โดยดี ไม่ให้หนี เพราะหากหนีตำรวจก็คิดว่ามีสิ่งผิดกฎหมายก็ต้องไล่ตามจับ แต่เมื่อตามไปจับแล้ว ค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ก็ไม่ควรจะทำร้ายร่างกายเช่นนี้ ซึ่งตนเองก็จะประสานตำรวจ สน.จรเข้น้อย ให้เรียกตำรวจคู่กรณีมาพูดคุยว่าจะเยียวยาอย่างไร.-416-สำนักข่าวไทย