4 ก.ค. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. เผยอัยการแจ้งข้อกล่าวหาตำรวจและพลเรือน รวม 35 คน ในคดีเป้รักผู้การ 140 ล้าน เตรียมสรุปสำนวนส่งฟ้องภายในเดือน ก.ค.นี้
พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนในคดีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันเรียกรับทรัพย์จากเว็บไซต์พนันออนไลน์ 140 ล้านบาท หรือคดีเป้รักผู้การ เป็นประธานการประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ตามคำสั่ง ตร.ที่ 670/2566 ลงวันที่ 29 พ.ย. 66 และ คำสั่ง ตร.ที่ 30/2567 ลงวันที่ 18 ม.ค. 67 โดยมีนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ในฐานะหัวหน้าชุดคณะทำงานตรวจสอบและกำกับการสอบสวนในคดีนี้ พร้อมด้วยคณะพนักงานอัยการ และพนักงานสืบสวนสอบสวนเข้าร่วมประชุม โดยการประชุมครั้งนี้เป็นการพิจารณาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อใช้ในการพิจารณาชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานผู้ถูกกล่าวหาเป็นรายบุคคลเพื่อมีความเห็นทางคดี และพิจารณาดำเนินคดีความผิดอาญาฐานความผิด “ฟอกเงิน” จากนั้นจะได้สรุปสำนวนการสอบสวนส่งไปยังพนักงานอัยการคดีปราบปรามการทุจริตฯ ตามกฎหมาย
พล.ต.ท.อัคราเดช เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีว่า คณะทำงานได้มีมติสั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีรวมทั้งหมด 35 ราย แบ่งเป็นข้าราชการตำรวจ 21 นาย และพลเรือน 14 ราย ในความผิดมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, มาตรา 149 เป็นเจ้าหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์, และความผิดตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 หรือ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ มาตรา 5 และ 7, โดยในจำนวนนี้มีผู้ต้องหาที่หลบหนี 1 ราย ซึ่งได้ประสานองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรืออินเตอร์โพล ให้ติดตามจับกุมเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้จะสรุปสำนวนส่งให้อัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตพิจารณาสั่งฟ้องได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้อย่างแน่นอน
ส่วนกรณีที่ถูกมองว่าคดีเป้รักผู้การเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า อาจคิดไปเอง ตนเองเป็นคนภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ยังมองไม่เห็นความขัดแย้ง ส่วนกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลการตรวจสอบของคณะกรรมการเกี่ยวกับความขัดแย้งของสองนายตำรวจใหญ่ ซึ่งมีผลสรุปไปในทิศทางเดียวกันนั้น ก็ถือเป็นเรื่องของคณะทำงาน โดยยืนยันว่าทางคณะทำงานได้พิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาไปตามพยานหลักฐาน
ด้านนายวัชรินทร์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาตามพระราชบัญญัติ ป.ป.ช.ฯ ที่สอดคล้องกับประมวลกฎหมายอาญาเพิ่มเติมกับทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและพลเรือน เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซึ่งผู้ต้องหาที่เป็นพลเรือนได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวแม้ไม่ได้เป็นเจ้าพนักงาน เนื่องจากตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ แล้วถือว่าเป็นตัวการ จึงทำให้ต้องใช้ระยะเวลาตรวจสอบเพิ่ม แต่ยืนยันว่าการทำงานเป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด และที่ผ่านมาคณะทำงานได้ให้ความเป็นธรรมต่อผู้ถูกกล่าวหาทุกคนในการยื่นพยานหลักฐาน และได้สอบปากคำเรียบร้อยแล้วเรียบร้อยหมดทุกคน
ทั้งนี้ ภายหลังจากสรุปสำนวนในคดีนี้ส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องแล้วจะมีการตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ เพื่อพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐานฟอกเงินกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ต่อไป. -419-สำนักข่าวไทย