ตำรวจทางหลวงสกัดจับรถตู้เสพยาไอซ์ ขับซิ่งหวาดเสียว

3 ก.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบโชเฟอร์รถตู้ ดูดยาไอซ์ ซิ่งรถพร้อมผู้โดยสารเต็มคัน สุดท้ายผู้โดยสารทนไม่ไหว โทรแจ้งตำรวจทางหลวงเข้าช่วยเหลือ


​ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมจับกุม นายวีรดิษฐ อายุ 42 ปี คนขับรถตู้ขนส่งสาธารณะ พร้อมด้วยของกลาง ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 0.15 กรัม บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกใส พร้อมอุปกรณ์การเสพ โดยจับกุมได้บริเวณทางหลวงหมายเลข 375 กม.10 ต.บ้านแพ้ว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร

​สืบเนื่องจากขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนครปฐม หน่วยบริการตำรวจทางหลวงสมุทรสงคราม กำลังออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ ต่อมาได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ 191 ภ.จว.สมุทรสงคราม ว่ามีเหตุรถตู้โดยสารกรุงเทพฯ – ประจวบคีรีขันธ์ หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร ขับรถด้วยความเร็วสูงส่ายไปมาในลักษณะประมาทหวาดเสียว จนทำให้ผู้โดยสารที่นั่งมาในรถต้องโทรแจ้งสายด่วน 191 โดยจากคำบอกเล่าของผู้โดยสารเชื่อว่า ผู้ขับขี่อยู่ในอาการเมาสุราหรือเสพยาเสพติด โดยรถตู้ขนส่งสาธารณะคนดังกล่าวได้เดินทางออกมาจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ จะมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ โดยใช้ถนนพระราม 2

ภายหลังจากทราบข้อมูลดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุดจับกุม จึงได้ตั้งจุดสกัดเพื่อดักรอรถตู้คันดังกล่าว จนพบรถตู้คันดังกล่าว จากการตรวจสอบ พบว่าผู้ขับขี่พูดจาวกไปวนมา ฟังไม่รู้เรื่อง มีอาการยิ้มสลับกับหัวเราะอยู่ตลอดการสนทนา เจ้าหน้าที่จึงได้เรียกขอดูใบขับขี่ ทราบชื่อผู้ขับขี่ คือ นายวีรดิษฐ หรือป๊อบฯ โดยภายในรถตู้ขนส่งสาธารณะมีผู้โดยสารนั่งมาด้วย 6-7 คน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้ตรวจค้นภายในรถตู้คันดังกล่าว พบไอซ์อยู่ในถุงพลาสติกใสพร้อมอุปกรณ์การเสพซุกซ่อนอยู่ภายในช่องเก็บของประตูด้านคนขับ จากนั้นจึงได้ทำการตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย พบว่ามีสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) อยู่ในร่างกาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย, เป็นผู้ประจำรถ(ขับรถ) มีสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) ในร่างกายขณะขับขี่ และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) โดยผิดกฎหมาย” พร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ผู้ต้องหาทราบ และนำตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ​สอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ที่จะรับผูโดยสารมาจาก จ.ประจวบฯ ตนได้เสพยามาจริง.-419-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”