ตร.ดีเดย์ปิดล้อมกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดทั่วประเทศ

ตร.27 มิ.ย. – สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดีเดย์ปิดล้อมกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดทั่วประเทศกว่า 2,500 เป้าหมาย นายกฯ ตกใจพบอาวุธหนักเพียบ ขอยกระดับเป้าหมายในอนาคต


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในวันนี้ตำรวจภูธรภาค 1-9, ตำรวจภูธรทั่วประเทศ, กองบัญชาการตำรวจนครบาล, กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ประกาศร่วมกับทหารและฝ่ายปกครอง และพนักงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันปฏิบัติการการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายเครือข่ายยาเสพติดทั่วประเทศ 846 เครือข่าย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ค้ารายย่อยในชุมชน หมู่บ้าน รวมทั้งหมด 2,523 เป้าหมาย ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยมอบหมายให้ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้กำกับการในภาคสนาม และ พล.ต.ท.อัครเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้กำกับและบัญชาการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

โดยได้รายงานผลปฏิบัติการต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ร่วมรับฟังการรายงานผลผ่านระบบการประชุมทางไกลว่า ปฏิบัติการตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 131 คน เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดียาเสพติด 1,617 หมายจับ ตรวจยึดของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 4,784,081 เม็ด, ไอซ์ 590 กิโลกรัม, คีตามีน 1.22 กิโลกรัม, เฮโรอีน 73.43 กิโลกรัม, ยาอี 45,439 เม็ด, อาวุธปืน 196 กระบอก และตรวจยึดอายัดทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 327 ล้านบาท โดยสามารถตรวจจับยาบ้าได้มากที่สุดที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาจำนวนกว่า 2 ล้านเม็ด ขยายผลได้จากจังหวัดปทุมธานีได้ 1 ล้านเม็ด, หลังจากนี้จะขยายผลเปิดปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องและไปยังพื้นที่อื่น ๆ และขยายผลไปยังผู้ที่หลบหนี รวมถึงตรวจสอบเป้าหมายเพิ่มเติม


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้นายกรัฐมนตรีได้ติดตามปฏิบัติการอย่างใกล้ชิด และมีการถ่ายทอดปฏิบัติการแบบเรียลไทม์ ย้ำว่า ตำรวจตั้งใจจะทำลายเครือข่ายและการจับกุมผู้ค้ารายย่อยอย่างจริงจัง และมีฐานข้อมูลอยู่ เฝ้าระวังตรวจสอบติดตามและจับกุมอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ครั้งนี้ถือเป็นดีเดย์ปฏิบัติการวันนี้เป็นครั้งแรกเพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหา หรือเครือข่ายที่เล็ดลอดไปได้

ภายหลังรับฟังรายงานผลปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี ได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ร่วมกันปฏิบัติการ เห็นได้ชัดถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการปราบปรามยาเสพติดซึ่งเป็นทางนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลและทุกหน่วยงาน และขอเป็นกำลังใจให้ แต่ยังคงตกใจเมื่อพบว่าสามารถตรวจยึดอาวุธหนักได้เช่นกันและขอให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังในการกวาดล้าง วันนี้เห็นได้ว่ามียอดการจับกุมสูง แต่ยังมีซัพพลายอยู่มาก ซึ่งหากทำได้ตามเป้าแล้ว ก็ขอยกระดับเป้าหมายให้สูงยิ่งขึ้น ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการแชร์ข้อมูลจากสม่ำเสมอ ถกปัญหาร่วมกัน และรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่.-412-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก