25 มิ.ย. – ตำรวจไซเบอร์รวบแพ็คคู่ ผัว-เมีย เป็นนายหน้าค้าบัญชีม้า เป็นลูกน้องคนจีนนายใหญ่สั่งการอยู่ต่างประเทศ ผู้เสียหายรายเดียวสูญกว่า 5 ล้านบาท
โดยผู้เสียหายได้หาบริษัททนายหน้าที่สามารถฟ้องเรื่องในต่างประเทศได้ โดยค้นหาผ่านทางเว็บไซต์ แล้วได้พบลิงค์หนึ่ง รายละเอียดเป็นภาษาจีน ผู้เสียหายจึงได้ใช้ Google Translate ช่วยในการแปลภาษา แล้วได้ติดต่อกับคนร้ายผ่านทาง Whatsapp ซึ่งอ้างว่าเป็นทนายความในประเทศฮ่องกง แล้วได้สนทนาเกี่ยวกับการฟ้องคดีในต่างประเทศกับผู้เสียหาย จากนั้นผู้เสียหายจึงได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับคนร้ายฟัง ต่อมาคนร้ายได้แจ้งให้ผู้เสียหายชำระค่าดำเนินการฟ้องร้องเรื่องดังกล่าว รวมเป็นเงินกว่า 5.3 ล้านบาท
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงได้สั่งการ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสวนหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย กระทั่งช่วงบ่ายของวันที่ 24 มิ.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายจับเข้าควบคุมตัว น.ส.สมหญิง อายุ 30 ปี และนายพิทยา อายุ 31 ปี ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และเป็นผู้เปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตน หรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทาง เทคโนโลยี หรือความผิดอาญาอื่นใด” โดยควบคุมตัวได้ที่บริเวณอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร
จากการจับกุม ผู้ต้องหารับว่าเป็นนายหน้าจัดหาบัญชีจริง โดยเมื่อประมาณต้นปี 2567 ผู้ต้องหาได้เข้าไปหางานในกลุ่มเฟซบุ๊ก ดาร์ก เว็ป สายเทา บัญชีม้า ต่อมาได้มีบุคคลอ้างชื่อว่าเจฟ จำชื่อเฟซบุ๊กไม่ได้ (เชื่อว่าอยู่ต่างประเทศ และมีสัญชาติจีน) มาว่าจ้างให้เป็นคนกลางเปิดบัญชีเงินฝากออนไลน์ให้ โดยจะส่งข้อมูลและอุปกรณ์ที่ต้องใช้เปิดบัญชีมาให้ ต่อมาได้มีไรเดอร์นำสมุดบัญชี โทรศัพท์ ซิมการ์ด บัตรเอทีเอ็ม ใบจดทะเบียนบริษัท พร้อมตราประทับมาให้ ผู้ต้องหาจึงได้ดำเนินการเปิดบัญชีออนไลน์ให้ ได้รับค่าจ้างเปิดบัญชีละ 5,000 บาท โดยส่งเงินมาทางไรเดอร์ เปิดมาแล้วจำนวน 10 ครั้ง เมื่อเปิดเสร็จแล้วก็จะมีไรเดอร์มารับไป ทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-420-สำนักข่าวไทย