รวบคู่หูเอเย่นต์ขายซิมม้า-บัญชีม้า

กทม. 16 มิ.ย. – สืบนครบาล รวบคู่หูอดีตแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประเทศเพื่อนบ้าน ผันตัวเป็นเอเย่นต์ขายซิมม้าและบัญชีม้า ตัดวงจรมิจฉาชีพ


เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 01.45 น. สืบนครบาล ได้จับกุมตัว นางสาวกฤษณา อายุ 25 ปี และนางสาวนภัสสร อายุ 28 ปี โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันเป็นธุระจัดหา จำหน่ายซิมม้า, บัญชีม้า พร้อมด้วยของกลาง เป็นซิมโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนพร้อมใช้งานแล้ว จำนวน 10 ซิม, ซิมโทรศัพท์ที่ยังไม่มีการลงทะเบียน จำนวน 490 ซิม, สมุดบัญชีธนาคารพร้อมบัตรATM และซิมซึ่งลงทะเบียนผูกบัญชี เปิดบัญชรบุคคลอื่น จำนวน 2 ชุด โทรศัพท์มือถือ ไอโฟน 11 โปรแม็กซ์ สีเขียว จำนวน 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ ซัมซุง รุ่น เอ 12 สีน้ำเงิน จำนวน 1 เครื่อง โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณถนนสาธารณะ แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้สืบทราบว่ามีผู้ลักลอบจำหน่ายซิมโทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนแล้วโดยบุคคลอื่นพร้อมใช้ และบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 จึงได้ให้สายลับทำการติดต่อล่อซื้อพูดคุยกันผ่านเฟซบุ๊ก โดยผู้ต้องหาได้นัดหมายกันในวันที่ 15 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 22.00 น. โดยได้ตกลงซื้อ-ขายซิมโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนพร้อมใช้งาน จำนวน 500 ซิม ในราคา 55,000 บาท และ สมุดบัญชี พร้อมบัตร ATM และซิมซึ่งผูกบัญชี จำนวน 2 บัญชี ในราคา 20,000 บาท รวมเป็นเงิน 75,000 บาท


โดยผู้ต้องหาได้นัดหมายสถานที่ แต่เมื่อถึงเวลา ปรากฏว่าไม่ได้มาตามนัดหมาย และได้แจ้งว่าโทรศัพท์แบตจะหมด จนต่อมา ในวันที่ 16 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 01.45 น. ผู้ต้องหาได้นัดเจอกับสายลับอีกครั้งเพื่อมาส่งของ ดมื่อทางสายลับได้ของมาจึงเปิดตรวจสอบ พบว่าภายในกล่องดังกล่าวมีซิมจำนวน 500 ซิม และ สมุดบัญชีพร้อมบัตรATM และซิมซึ่งผูกกับบัญชีดังกล่าว จำนวน 2 ชุด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมซึ่งเฝ้าจุดสังเกตการณ์อยู่ จึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจับกุม

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยจากการสอบถาม ทราบว่า ทั้งคู่ได้เคยไปทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ อยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน โดยนางสาวกฤษณา ไปอยู่มา 2 ปี แล้วหนีกลับมา ผันตัวมาขายซิมโทรศัพท์ ส่วนนางสาว ตามไปอยู่ด้วย แต่อยู่ได้ไม่ถึงเดือนไม่โอเคจึงได้กลับมา จากนั้นได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ พร้อมของกลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-420-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

“อ.แจ็คพันศพ” ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะเผาศพ

“อาจารย์แจ็คพันศพ” สัปเหร่อและหมอผีชื่อดัง จ.บุรีรัมย์ ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะวางดอกไม้จันทน์เผาศพ ไฟลวกทั่วร่างกาย ต้องหามส่งโรงพยาบาล  เจ้าตัวงง! เผาศพมาเป็นพัน ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 30%

กรมอุตุฯ เตือนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง 30%

ตำรวจเร่งกวาดล้างแก๊งไทใหญ่ 999

กรณีแก๊งไทใหญ่ 999 ไล่ฟันหนุ่มกะเหรี่ยง ย่านห้วยขวาง ตำรวจยอมรับมีกลุ่มต่างด้าวกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ เร่งพิสูจน์รวมแก๊งลักษณะอั้งยี่-ซ่องโจร หรือไม่ พร้อมลั่นดำเนินคดีไม่ละเว้น

ผู้การอยุธยา สั่งสอบ ตร. เก็บส่วยร้านอาหาร

แฉคลิปเสียงชายอ้างเป็นตำรวจ เรียกเก็บเงินรายเดือนจากร้านอาหาร พอปฏิเสธถูกลงตรวจถี่ยิบ ล่าสุด ผู้การฯ อยุธยา สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด่วน

ปิด “จุดชมวิวภูชี้ฟ้า” ชั่วคราว เหตุเสียงปืนดังข้ามแดน-กระสุนตกใส่หลังคาบ้าน

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ชายแดนไทย-สปป ลาว อำเภอเวียงแก่น และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังเกิดเสียงปืนดังข้ามแดน และพบกระสุนตกใส่บ้านเรือนประชาชน