ลูกศิษย์แถลงโต้ไม่มี “ลัทธิถวายตัว”-แฉคู่กรณีมีคดียักยอกทรัพย์วัด 13 ล้าน

15 มิ.ย. – กรณีหญิงสาวออกมาร้องถูกล่อลวงเข้า “ลัทธิถวายตัว” ล่าสุดฝ่ายลูกศิษย์อดีตพระ ออกมาแถลงโต้ ยืนยันไม่เคยมีการสอนแบบอุตริ แฉคู่กรณีมีคดียักยอกทรัพย์วัด มูลค่ากว่า 13 ล้านบาท พร้อมชี้แจงไทม์ไลน์ละเอียดยิบ


นายกิตภัท ลูกศิษย์อดีตพระสงฆ์ ที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งตกเป็นข่าวอื้อฉาว ลวงหญิงสาวกับสามีเข้า “ลัทธิถวายตัว” ล่อลวงให้มีเพศสัมพันธ์ อ้างเพื่อเป็นการต่อชะตาและบรรลุธรรมขั้นสูง พร้อมด้วยนายเนติ ทนายความ เปิดแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยไล่เลียงไทม์ไลน์ของสามีภรรยาผู้ร้อง ในการที่เข้ามาอยู่ในที่พักสงฆ์ และมาดูแลด้านการจำหน่ายวัตถุมงคลของวัด ทำธุรกิจมีผลประโยชน์ร่วมกับทางที่พักสงฆ์ จนนำไปสู่การถูกฟ้องร้องคดียักยอกทรัพย์ ทั้งทางอาญาและทางแพ่ง 2 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 13 ล้านบาท

ชี้แจงไทม์ไลน์ละเอียดยิบ อ้างยักยอกทรัพย์วัด 13 ล้าน
-ปี 2553 แรกเริ่มฝ่ายหญิงผู้ร้องเป็นแฟนกับนาย ป. ซึ่งเป็นพนักงานในวัด ทำหน้าที่ดูแลร้านจำหน่ายวัตถุมงคล หญิงผู้ร้องเลยเข้ามาช่วยนาย ป. จนมีความสนิทสนม ได้รับความไว้วาง เหมือนเป็นลูกบุญธรรมของพระ
-ปี 2554 หญิงผู้ร้องเลิกลากับนาย ป. แล้วเข้ามาดูแลกิจการจำหน่ายวัตถุมงคลของที่พักสงฆ์ แทนนาย ป. กลายเป็นผู้มีบทบาทสำคัญของสำนักสงฆ์ในการตัดสินใจเรื่องสำคัญ
-ในปีเดียวกันสามีของหญิงผู้ร้อง เข้ามาในที่พักสงฆ์ ขณะนี้นั้นยังเป็นนักศึกษา เรียนมหาวิทยาลัย แล้วต่อมาได้เชิญเพื่อนชายอีกคนให้เข้ามาในที่พักสงฆ์ด้วย
-ปี 2555 หญิงผู้ร้อง สามี และเพื่อนของสามี ก็สนิทสนมกันมาก ร่วมกันดูแลเรื่องการบริหารจัดการธุรกิจจำหน่ายวัตถุมงคลของที่พักสงฆ์ รวมไปถึงการดูแลแม่ของทั้ง 3 คน ซึ่งหญิงผู้ร้องได้รับความไว้วางใจจากทางพระ สามารถใช้โทรศัพท์มือถือของพระได้ เป็นตัวแทนของพระในการประสานงานติดต่อทุกอย่าง มีการโอนเงินซื้อขายวัตถุมงคลเข้าบัญชีของหญิงผู้ร้อง
-จากนั้นหญิงผู้ร้อง สามี และเพื่อนสามี เริ่มมีปัญหากับลูกศิษย์และคนที่อยู่ในที่พักสงฆ์ ซึ่งได้มีการเบิกเอาวัตถุมงคลออกไปจำหน่ายแล้วไม่นำเงินมาให้กับที่พักสงฆ์ อีกทั้งยังได้นำของบรรพบุรุษ และครูบาอาจารย์ ของพระไปแล้วไม่นำมาคืน
-ปี 2565 หญิงผู้ร้องออกไปจากที่พักสงฆ์ แต่ยังเบิกวัตถุมงคลไปแต่ไม่ได้นำมาคืน
-ปี 2566 ทางที่พักสงฆ์ฟ้องร้องละเมิดลิขสิทธิ์วัตถุมงคล 10 กว่ารายการ
-ปี 2567 พระตัดสินใจฟ้องหญิงผู้ร้อง ข้อหายักยอกทรัพย์ ทั้งทางอาญาและทางแพ่ง 2 คดี รวมเป็นเงินกว่า 13 ล้านบาท แบ่งเป็นคดียักยอก 4,900,000 บาท และฟ้องผิดสัญญาซื้อขาย และเรียกร้องค่าเสียหายกว่า 9 ล้านบาท
-10 มิถุนายน 2567 ศาลคดีแพ่ง นัดชี้ 2 สถาน และนัดไกล่เกลี่ย แต่ตกลงกันไม่ได้
-วันที่ 11 มิถุนายน 2567 หญิงผู้ร้องไปร้องเพจสายไหมต้องรอด
-วันที่ 20 มิถุนายนนี้ ศาลนัดสืบพยานคดียักยอกทรัพย์


ล่าสุดอดีตพระขอลาสิกขา มาต่อสู้คดีในชั้นศาล
นายกิตภัท ระบุด้วยว่า หลังเกิดเหตุการณ์ พระจึงลาสิกขาเพื่อมาต่อสู้คดีในชั้นศาล ส่วนการหลอกลวงสวิงกิ้งตามที่ปรากฏในข่าวนั้น เป็นข้อมูลที่จะไปปรากฏในชั้นศาล และจากนี้ไปหากมีการพูดให้เกิดความเสื่อมเสียจะพิจารณาดำเนินคดีตามข้อเท็จจริงต่อไป

ยืนยันพระป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง-ไม่เคยสอนอุตริธรรม
ขณะเดียวกันยังยืนยันว่าอดีตพระป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และระหว่างที่อยู่ในที่พักสงฆ์ อดีตพระไม่เคยมีการสอนในลักษณะอุตริธรรม และอยากฝากบอกคู่กรณีว่าในฐานะที่เป็นพี่สาว จนถึงขณะนี้ยังให้ความเคารพนับถือเหมือนเดิม แต่จะทำอะไรขอให้คิดให้ดีก่อน นึกถึงวันเวลาที่เคยลำบากมาด้วยกัน กว่าที่จะมีวันนี้ได้

“ลัทธิถวายตัว” เป็นข่าวครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อหญิงสาววัย 38 ปี พร้อมสามี ร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่าถูกพระในที่พักสงฆ์แห่งหนึ่ง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ หลอกเข้า “ลัทธิถวายตัว” โดยให้เธอและแฟนหนุ่มมีเพศสัมพันธ์กับพระ และมีเพศสัมพันธ์หมู่กับลูกศิษย์ อ้างว่าเพื่อบรรลุธรรมขั้นสูงสุด หากต้องการหลุดพ้นต้องถวายตัว เพราะอ้างว่าร่างกายไม่ใช่ของเรา จนถูกกระทำทางเพศทั้งสามีและภรรยา
ส่วนกลอุบายที่ใช้อ้างว่าเคยเป็นพ่อลูกกันในอดีตชาติ มีความผูกพันกันมา หากอยากเจริญรุ่งเรือง จะให้ทำพิธีกรรม เพราะโดนพ่อเลี้ยงทำของใส่ จะต้องถอนของ ด้วยความเชื่อและศรัทธาที่ผูกพันกันมาเป็น 10 ปี พระคู่กรณีได้ให้หญิงสาวและสามี จุดธูปสาบาน ทำพิธีรับพลัง โดยอ้างว่าเป็นพิธีขั้นสูงที่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดของพิธีกรรมได้


นอกจากนี้ยังอ้างว่ากำลังจะเสียชีวิต ต้องใช้พลังจากหญิงสาวและสามีเพื่อต่อชีวิต จึงตัดสินใจทำพิธีกรรม ระหว่างทำพิธี พระดังกล่าวจะข่มขู่ด้วยคำสาบานและให้หลับตาตลอด ยอมรับว่าขณะนั้นมีอาการมึนงง จึงหมดข้อสงสัยในพิธีกรรมประหลาด และถูกล่วงละเมิดทางเพศ โดยพระคู่กรณีบอกให้หญิงและสามีอยู่เฉยๆ อย่าขัดขืน เพราะจะเป็นการขัดคำสาบาน ชีวิตจะลำบาก โดยมีการถ่ายคลิปวิดีโอเก็บไว้ ทำให้หญิงสาวและสามีหวาดกลัว

ต่อมาเพจสายไหมต้องรอดพาหญิงสาวผู้เสียหาย 3 คน เข้าแจ้งความที่ สน.คันนายาว ก่อนที่พนักงานสอบสวน จะพาผู้เสียหายไปชี้จุดบ้านพักแห่งหนึ่งย่านสุขาภิบาล 5 เพราะถูกระบุว่าเป็นบ้านพักที่เจ้าสำนักลัทธิประหลาดเคยมาพำนักอาศัย และมีผู้เสียหายหลายคนถูกลวงไปทำพิธีล่วงละเมิดทางเพศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จภายในเที่ยงคืนนี้

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค. – รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จสิ้นภายในเที่ยงคืนนี้ ด้าน พฐ.ร่วมตรวจหาสาเหตุตกรางกับนายช่างรถไฟ สันนิษฐานเบื้องต้นนอตล็อกประแจสับรางหลุด ส่วนผู้บาดเจ็บ 10 ราย ออกจาก รพ.แล้ว ความคืบหน้าเหตุรถไฟขบวนด่วนพิเศษ สุไหงโก-ลก ปาดังเบซาร์ ปลายทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประสบอุบัติเหตุตกราง ก่อนถึงสถานีรถไฟกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 100 เมตร เหตุเกิดเมื่อช่วงตี 5 วันนี้ โดยตู้โดยสารที่เกิดเหตุคือ 3 ตู้สุดท้าย 10-12 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 10 คน นำส่งโรงพยาบาลกุยบุรี ผู้โดยสารตู้ที่ตกราง เจ้าหน้าที่จัดรถบัสนำส่งต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ส่วนตู้โดยสารที่ไม่ตกราง เดินทางต่อจนถึงสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ล่าสุดตำรวจ สภ.กุยบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจหาสาเหตุรถไฟตกราง ร่วมกับนายช่างวิศวกรของการรถไฟฯ อีกครั้ง จากการตรวจสอบสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากนอตยึดอุปกรณ์ประแจตัวสับรางหลุด ขณะที่ขบวนรถไฟวิ่งผ่านไปแล้ว 9 ตู้ เหลือ 3 ตู้สุดท้าย ทำให้ไม่สามารถบังคับให้วิ่งตามไปด้วยกันได้ จึงถูกกระชากหลุดด้วยแรงเฉื่อยของความเร็วรถไฟแล้วตกจากราง หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ […]

“บุ๋ม” รับผ้ายันต์-เหรียญครุฑ หลวงพ่อวราห์ แจกทหารชายแดน

9 ส.ค. – “บุ๋ม ปนัดดา” เริ่มภารกิจโฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. วันแรก เข้ารับผ้ายันต์-เหรียญครุฑ จากหลวงพ่อวราห์ นำไปมอบให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา สร้างขวัญกำลังใจแนวหน้า บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี โฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. ที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ หรือบิ๊กเล็ก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่งตั้ง เข้าพบหลวงพ่อวราห์ พระเทพวชิระวิทยานุสิฐ วราห์ ปุญฺญวโร ตำนานผู้สร้างพญาครุฑ เพื่อรับผ้ายันต์และเหรียญครุฑ ไปแจกให้ทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจทหารแนวหน้า บุ๋ม ปนัดดา กล่าวว่า ได้รับการประสานจากหลวงพ่อวราห์ ให้เข้ามารับผ้ายันต์และเหรียญครุฑ นำไปมอบให้กับทหารชายแดน เพราะทหารต้องการขวัญและกำลังใจ ดังนั้น อะไรที่ทำให้ทหารอุ่นใจและมีกำลังใจก็จะทำให้ สำหรับผ้ายันต์หลวงพ่อวราห์ แห่งวัดโพธิ์ทอง บางมด กรุงเทพฯ ผ้ายันต์รุ่นบูชาครู จำนวน 2,000 ผืน และเหรียญครุฑ รุ่นเฉพาะกิจ จำนวน 2,000 เหรียญ ที่บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี […]

“มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่เสียหาย จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 9 ส.ค.- “มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ สำรวจความเสียหายจากการโจมตีของกัมพูชา เตรียมใช้เป็นข้อชี้แจงนานาชาติ กัมพูชาใช้อาวุธระยะไกลโจมตีพื้นที่พลเรือน ยันพร้อมประสานให้ ICRC – UN มาดูพื้นที่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่จังหวัดสุรินทร์ จากเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ว่า เรื่องข้อมูลของการละเมิดสิทธิ และละเมิดกฎสหประชาชาติกฎหมายระหว่างประเทศของกัมพูชา เรามีข้อมูลครบถ้วนอยู่แล้ว เมื่อวันนี้ได้มาเห็นสภาพจริง และมาเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ได้เห็นภาพนอกเหนือจากข้อมูล ก็เป็นภาพที่เห็นชัดเจน รวมถึงการบรรยายสรุปของผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ที่อธิบายให้เห็นการโจมตีเป้าหมายที่ห่างไกลออกจากเขตแดน ซึ่งตนเองใช้เป็นข้อชี้แจงกับนานาชาติ และองค์กรสหประชาชาติว่าการใช้ประเภทอาวุธระยะไกลของฝ่ายกัมพูชาจะทำให้เกิดปัญหา และจะทำให้ประชาชนพลเรือนได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งเป็นการโจมตีเป้าหมายไปยังพลเรือน แต่ยังไม่สามารถเข้าไปดูพื้นที่กับระเบิด และวันนี้ทราบว่ามีทหารเหยียบกับระเบิดที่วางอยู่ตามแนวชายแดน โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจง และแสดงความผิดหวัง และไม่ปราถนาที่จะเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงการเจรจา เพื่อแก้ไขปัญหาระหว่างกันให้สำเร็จอย่างยั่งยืน ส่วนนี้เราจะแสดงจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้อาวุธ หรือทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา อย่างชัดเจน นายมาริษ กล่าวว่าการเดินทางมาครั้งนี้ ได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในสิ่งที่เราเรียกร้องมาโดยตลอด ว่าเราทำตนอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และได้แสดงตนให้ประชาคมโลก […]

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]