CIB แจงกรณีสื่อพบท่อน้ำ-ท่อน้ำมัน ปลายสะพานท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ

15 มิ.ย. – ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ชี้แจงกรณีสื่อมวลชนพบท่อน้ำ-ท่อน้ำมันปลายสะพานท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ ถังน้ำมันหลายถัง และปั๊มสูบน้ำมันบริเวณบ้านพักเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำสัตหีบ


สืบเนื่องจากที่มีการแจ้งข้อมูลเรื่องตรวจไม่พบเรือของกลาง จำนวน 3 ลำ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 12 มิ.ย. 67 โดยได้รับแจ้งจาก สว.ส.รน.3 กก.5 บก.รน. ว่าเจ้าหน้าที่ตรวจไม่พบเรือของกลาง จำนวน 3 ลำ ในคดีอาญาเลขที่ 102/2567 ลงวันที่ 20 มี.ค. 67 ซึ่งต่อมาสื่อรายงานพบว่า “พบท่อน้ำ-ท่อน้ำมันปลายสะพานท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ และถังน้ำมันหลายถัง และปั๊มสูบน้ำมันบริเวณบ้านพักเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำสัตหีบ” เบื้องต้นขอรายงานข้อเท็จจริงให้ทราบดังนี้

กรณีพบท่อน้ำ-ท่อน้ำมันปลายสะพานท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ และถังน้ำมันหลายถังบริเวณบ้านพักเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำสัตหีบ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอชี้แจงเกี่ยวกับลักษณะของท่อ ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ


  1. ท่อพลาสติกสีฟ้า คือ ท่อน้ำประปา
  2. ท่อเหล็ก คือ ท่อน้ำมัน แต่เนื่องจากหัวจ่ายน้ำมันบริเวณสะพานชำรุด จึงต้องใช้วิธีการนำถังสีขาวขนาด 1,000 และ 2,000 ลิตร (ที่พบอยู่บริเวณบ้านพักเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำสัตหีบ) ซึ่งเป็นถังสำหรับบรรจุน้ำมันไปรับน้ำมัน แล้วนำไปเติมเรือที่สะพานท่าเทียบเรือ เมื่อต้องออกปฏิบัติภารกิจ

กรณีการกักเก็บน้ำมัน และการเบิกใช้น้ำมัน ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอชี้แจงว่าจำนวนเรือสำหรับปฏิบัติภารกิจต่างๆ ของ ส.รน.3 มีจำนวน 3 ลำ ซึ่งน้ำมันที่ใช้ในภารกิจของ ส.รน.3ฯ มาจากหลายงบประมาณ แบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ
1.ได้รับเป็นบัตรเติมน้ำมัน (Feed Card) : ซึ่งต้องใช้ถังไปรับจากปั๊มน้ำมันแล้วนำมาเติมเรือ
2.ได้รับเป็นน้ำมัน : จะเก็บไว้ที่แทงก์บริเวณหลังบ้านพักเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำสัตหีบ และเมื่อมีภารกิจจะเติมน้ำมันใส่ถังขนถ่ายไปเติมเรือที่สะพานท่าเทียบเรือ

กรณีพบปั๊มที่ใช้ในการสูบน้ำมัน ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอชี้แจงว่า ปั๊มดังกล่าวใช้สำหรับดูดน้ำมันจากแทงก์ใส่ถังแบ่งและดูดน้ำมันจากถังแบ่งใส่เรือสำหรับปฏิบัติภารกิจ

ทั้งนี้ จากกรณีตรวจสอบไม่พบเรือของกลางจำนวน 3 ลำ ดังกล่าวหากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม จะรายงานให้ทราบต่อไป . -414 สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย