14 มิ.ย. – รรท.ผบ.ตร. ยืนยันไม่นิ่งนอนใจปมเรือน้ำมันเถื่อนหายไปจากการควบคุมตำรวจ สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี หากพบตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องจะดำเนินคดีทั้งวินัยและอาญา
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. และรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีการติดตามค้นหาเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนที่หายไปจากการควบคุมของตำรวจน้ำสัตหีบ ว่ากรณีที่มีรายงานว่าเรือของกลางดังกล่าวหลบหนีไปฝั่งประเทศกัมพูชา ขณะนี้ได้ประสานงานไปทางประเทศกัมพูชาแล้วให้ช่วยเหลือในการติดตามเรือต้องสงสัยดังกล่าว ขณะเดียวกันได้สั่งให้ทุกหน่วยเร่งสืบสวนหาเส้นทางหลบหนีในประเทศควบคู่กันไปด้วย ส่วนกรณีที่เรือน้ำมันเถื่อนดังกล่าว เข้า-ออกน่านน้ำของประเทศกัมพูชาโดยไม่ผ่านการตรวจสอบหรือไม่นั้น เป็นสิ่งที่กระทำไม่ได้อยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้ยังต้องรอข้อมูลการสืบสวนให้ทราบแน่ชัดก่อนว่าออกน่านน้ำไทยไปจริงหรือไม่
ส่วนการสอบสวนดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้อง หากพบว่าตำรวจนายใดเข้าไปรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีทั้งอาญาและเอาผิดทางวินัย ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์องค์กรตำรวจหรือไม่นั้น อาจเป็นความคิดของหลายคนที่มองว่าตำรวจอาจจะเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องนี้ได้สั่งให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ส่วนเรื่องการกู้ภาพลักษณ์ขององค์กรตำรวจขอให้ผลงานเป็นตัวชี้วัด ซึ่งหากตำรวจนายใดยังมีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์ โดยไม่ชอบ ก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาสักพัก และให้สัญญาว่าขณะที่ตัวเองดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นโยบายของตำรวจคือทำเพื่อพี่น้องประชาชน และพร้อมรับนโยบายของนายกรัฐมนตรี ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กวาดล้างอาชญากรรมเรื่องต่าง ๆ อย่างจริงจังให้เกิดผลโดยเร็วที่สุด ภายใน 1-2 เดือนนี้. -414-สำนักข่าวไทย
